ไปงานประกวดแมวอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ?
พี่ด้อน พ่อพันธุ์บริติช ของน้องพลอย
โพตส์นี้สุเขียนในฐานะคนที่ชอบไปงานประกวดแมวมาก ถ้ามีงานประกวดแมว แล้วสุพอมีเวลาก็จะพยายามไป
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่างานประกวดแมวมีประโยชน์อะไรบ้าง ?
อะแน่นอน เค้าประกวดเพื่อสะสมคะแนนผ่านการตัดสินของกรรมการ เพื่อตำแหน่งต่างๆ แล้วสุจะไม่พูดถึงตรงนั้นมาก เพราะ สุไม่เคยเอาแมวไปประกวด 😂เลยไม่จำ เดี๋ยวอ่านจนจบจะเข้าใจว่าทำไมกันนะ ทำฟาร์มมาเป็นสิบปีถึงไม่เอาแมวไปประกวดกับเค้าบ้าง
งานประกวดแมว ไม่ได้มีไว้เป็นประโยชน์แค่สำหรับคนทำฟาร์ม หรือ คนที่มีแมวประกวด แต่เป็นประโยชน์กับทุกคนที่สนใจเลี้ยงแมว โดยเฉพาะแมวซื้อ .. เพราะเราสามารถเห็นแมวหลายสายพันธุ์ หลายลักษณะ ผ่านความเห็นของกรรมการ ลักษณะใดคือ ลักษณะที่ถูกต้องตามมาตรฐานที่ต้องเป็น และ ลักษณะใดที่ดีเพิ่มขึ้นมาจากมาตรฐานธรรมดาที่ควรมี ลักษณะนั้นได้มายาก หรือ ง่ายอย่างไร จึงทำให้แมวตัวนั้นได้ตำแหน่งดีๆ จึงเป็นมูลค่าที่สูงขึ้นของน้องแมว
สุยกตัวอย่างล่าสุดที่ไปงานประกวดแมว ของ wcf เรียกว่าก็แอบหวั่นๆ ใจ เพราะไม่ได้ไปดูแมวในงานประกวดจริงๆ จังๆ มาหลายปี ความเข้าใจในวันนั้น อาจต้องเพิ่มความเข้าใจใหม่เพื่อวันนี้
ในแต่ละรอบจะแบ่งแมวไปตามลักษณะ ตามวัย ค่อยๆ คัดตัวที่เข้ามาตรฐานกว่า สวยกว่า เด่นกว่า และ ที่สำคัญ “ลงตัว” กว่า พยายามสังเหตุที่เราว่าสวยน่ะ อะไรของแมวตัวนั้นถึงทำให้เรารู้สึกว่าสวย แล้วกรรมการคอมเมนท์แมวตัวนั้นว่าอย่างไร ค่อยๆ วิเคราะห์ตาม เมื่อจับจุดได้ ลองดูแมวที่จะขึ้นเวทีการประกวด ว่าสวย หรือ ด้อยอย่างไร และเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ที่ประกวดรอบดียวกัน มันเด่น และ ด้อยกว่าตัวอื่นด้านไหนบ้างนะ ? ก่อนที่จะฟังกรรมการตัดสิน ว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร นั้นเป็นการฝึกการวิเคราะห์แมวเป็นอย่างดีค่ะ
อย่างเช่นรอบ best of adult (ขออนุญาตกล่าวถึงนะคะ เพราะน้องๆ ทั้ง 4 ตัวเป็นตัวอย่างแมวที่มีมาตรฐานที่ดี มีความสวยงาม เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังมองหาแมวมาเลี้ยง ถ้ามีประโยคใดที่ทำให้เข้าใจผิด ทำให้รู้สึกไม่ดี สุขออภัยมา ณ ตรงนี้ อาจเขียนด้วยความลำเอียงบ้างตามความชอบส่วนตัว แต่ไม่มีเจตนาว่าน้องไม่สวยนะคะ เห็นน้องๆ แล้วโดนน้องๆ ตก ใจยวบทุกตัวเลยค่ะ) วันที่ 2 มีน้องแมวเข้ารอบ 4 ตัว ในรอบนี้มักจะเป็นตัวผู้ค่ะ เพราะตัวผู้ฟอร์มเค้าจะเต็มกว่าตัวเมีย แต่… รอบนั้นมีน้องเมนคูนตัวเมียเข้ารอบมาด้วยจ้าา (ปรบมืออ… ปรบมือเองในใจ) พอดูรวมๆ เเล้ว สุก็เริ่มคิด น้องเมนคูนอะสวยละมุนมากเลยค่ะ ความสามเหลี่ยมของหน้า ใบหูที่ใหญ่ และ ชี้ได้องศา นอกจากสวย ลงตัว ยังดูแข็งแรงมาก แต่พอมาดูกับเพื่อนๆ อีก 3 หนุ่ม สุก็เริ่มคิดเเล้ว ไหวมั้ยนะ?
ทุกอย่างของน้องเมนคูนดูลงตัวไปหมด ไม่มีอะไรสะดุดให้หงิๆ ใจเลย แต่พอหันไปมองหนุ่มๆ ที่เหลือที่ดูโดดเด่นกว่า ก็เรียกว่าอาจจะสู้ยาก ตอนนั้นในใจเลยคิดว่าสาวน้อยคงได้ที่ 4 แต่เด็กผู้หญิงมาถึงจุดนี้คือสุดจริงๆ ก็ไล่ไปดูเจ้า 3 หนุ่ม มีคุณชายบริติชสีบลู มี abyssinian และ Highland Fold หวานๆ
ตอนนั้นคิดและ ว่าถ้าเป็นสุจะให้ใครได้ที่ 1 😂
คำว่าให้ใครได้ที่ 1 อาจจะเรียกว่าแมวตัวนั้นลงตัวที่สุด และ ในความดีของเค้า อยู่ในคะแนนของสายพันธุ์กี่คะแนน เช่น ถ้าจำไม่ผิด กระโหลดของบริตชจะอยู่ 30 คะแนนอะไรงี้
และไม่ใช่ว่าตัวที่ได้ที่ 1 จะไม่มีข้อด้อยเลย มันต้องมีเเหละค่ะ แต่คงน้อยมาก และความดีน้องจะเฉิดฉายจนเห็นความด้อยนั้นได้ยากขึ้นไปอีก (แหม ก็เเมวระดับชิง best แล้วอะนะ)
ตอนนั้นสุชั่งใจไม่ถูก ในใจเชียร์ หนุ่ม abyssinian จ้าเพราะรู้สึกเค้าน่ารัก หล่อ ถ้าเทียบกับตัวที่เคยเจอ สีอาจจะแดงสว่างได้อีกหน่อย คือสีน้องก็สดจัดจ้านมากแล้วค่ะ มากกว่านี้อาจต้องไปสมัครช่วยงานนักดับเพลิง กล้ามล่ำได้อีกหน่อย ก็เข้าใจน้องไม่ได้ทำหมัน แถมซนมาก น้องปีนเจ้าของเก่งมาก สาบานว่าจะไม่เลี้ยงพันธุ์นี้ ท่าทางจะเล่นจนบ้านพังทุกวัน ออกกำลังกายเก่ง สายพันธุ์นี้ก็ไม่ใช่จะล่ำเป็นพิทบูล ออกแนวกล้ามเนื้อลีนๆ ตกใจสุได้ไปหมดเเล้วไง ความลำเอียงแมวหน้าทะเล้น
หนุ่มบริติชสีบลูก็ดีงาม นอกจากกระโหลดใหญ่ ขนเกรียน หางยาวกำลังดี สะบัดพริ้วดีด้วย กล้ามเนื้อดี ล่ำ แต่ไม่ย้วย ไม่อืด ไม่บวม หูห่าง ตาโต สีตาเข้ม ปากยิ้มสวย หน้าเค้ายังสมมาตรอีกด้วย ปากยิ้มมีเสน่ห์เพิ่มมาจากความสวยตามมาตรฐานอีกต่างหาก
น้อง Highland Fold (Scottish Fold longhair) พกความมุ้งมิ้ง คาแรคเตอร์ความหวานจัดจ้านมาเลย บวกกับความงามของขนที่ผ่านการกรูมมาอย่างดี มองหน้าน้องแล้วเหมือนนิชคุณทำตาปริ๊งๆ ใส่ หัวก็กลมมาก แต่ด้วยความสุที่ชอบแมวดุๆ เลยให้คะแนนความหวานน้อยหน่อย แต่ความน่ารักน้องก็คริติคอลแรงเหลือเกิน ก็คิดในใจ เอ้ะ แล้วกรรมการจะคิดยังไงนะ เเล้วคะแนนของแต่ละสายพันธุ์ แต่ละส่วนของน้องๆ มีกี่คะแนนบ้างนะ สุว่าอันนี้เเหละคือจุดตัดสินค่ะ
ตอนนั้นคิดในใจว่าน้อง abyssinian คงได้ที่1 ใน best of adult แล้วตามด้วยบริติช เเล้ว ก็น้องโฟลด์ ลำเอียงแหละ 5555 เลือกเองตามใจชอบ ตามความเห็นส่วนตัว ไม่อิงคะแนน
เมื่อกรรมการตัดสิน น่าจะน้องบลูบริติชได้ที่ 1 เย่~~ scottish fold ได้ที่ 2 น้อง abyssinian ได้ที่ 3 (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) นี่ก็อิน ดีใจกับทุกตัวเลย หลังจากนั้นก็มาฟังกรรมการอธิบายว่าทำไมถึงให้น้องบลูได้ best of adult
เมื่อเราสามารถเข้าใจ วิเคราะห์แมวเองได้ในระดับนึง เราจะรู้แล้วว่าน้องแมวที่เรามองหาอยู่ในระดับไหน? ราคาใดที่เราพอใจ? เพราะบ้านไหนๆ ก็สามารถเคลมว่าแมวตัวเองนั้นสวยที่สุดได้เสมอ แต่ถ้าเราศึกษา และ เข้าใจลักษณะนี้ได้ในระดับนึง จะลดการตัดสินใจที่ผิดพลาดลงได้ค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่หาน้องแมวไปบรีด เป็นพ่อแม่พันธุ์ การได้มาดูแมว และ ฟังกรรมการคอมเมนท์ จะได้รู้ว่าเราควรเลือกแมวแบบไหน เพื่อมาเป็นพ่อแม่พันธุ์กับแมวที่บ้านค่ะ
และ อย่างนั้น ด้วยวิธีนี้ สุเอากลับมาดูแมวที่สุบรีดเอง เพื่อตัดสินแมวตัวเอง สุพูดเสมอว่า สุทำแมวเกรดบรีดนะ คือไม่เน้นประกวด เพราะสุได้เห็นแมวมามากพอสมควร จนเห็นในสิ่งที่ต้องแก้ของแมวตัวเอง ณ ตอนนั้นแมวสุต้องพัฒนาอีก 2-3 เจน เพื่อแก้ในจุดที่ขาด และ เพิ่มความสวยให้ทันเทรนด์ในช่วงเวลาที่จะเอาน้องไปประกวดในอนาคตด้วยค่ะ และ นั้นเเหละ เจนที่กะว่าจะเอาไปประกวดคือ ลูกของอีนิล อีโง่ของสุนั้นเเหละค่ะ แต่นางพาผัวนางเล่น จนผสมไม่ได้ซักครั้งไง ก็ทำหมัน เลี้ยงเป็นแมวโง่ๆ น่ารักๆ ในบ้านไปค่ะ 10 ปีที่ทุ่มเท พังเพราะความโง่ของอีนิล…. กราบ…
จริงๆ สุต้องขอบคุณพี่ๆ บรีดเดอร์ ตั้งแต่ที่สุซื้อแม่พันธุ์ตัวแรก ที่สอนสุ พาให้สุรู้จักกับพี่ๆ บรีดเดอร์เก่งๆ คนอื่นๆ จนได้มีโอกาสไปดูฟาร์มแมวที่ใหญ่ที่สุดฟาร์มนึง ได้เรียนรู้สาย การตรวจเช็คแมวเพื่อจะขึ้นเป็นพ่อแม่พันธุ์ และ การถ่ายทอดต่างๆ ได้ติดตามพัฒนาการ ของแต่ละสาย แต่ละการไขว้การบรีด ตามแต่ละวัย จนเกิดความเข้าใจมากหลายเท่าตัวกว่าการเลี้ยงเอง และ จบด้วยการไม่ได้เข้าใจแมวนอกบ้านเลย
สุเคยจะเอานิลไปประกวดนะคะ คือ จะทรานส์เฟอร์จาก scfc 5 เจนไปเป็น cfa แล้วก็ทรานส์เฟอร์ต่อไป wcf เพื่อลงประกวดแมวสก็อตติชหูตั้ง แต่สุก็ต้องดู และเข้าใจสภาพแมวตัวเอง เพื่อที่จะเอาไปประกวดด้วย นิลสามารถประกวดได้(แบบลุ้นขี้แตกขี้แตน เพราะเค้าเป็นแมวเกรดบรีด) ไม่เกินรุ่นแมวเด็ก เพราะถ้ามันโตขึ้นหน้ามันจะเป็นกอลั่มคร๊าา แต่ทำเอกสารเสร็จไม่ทัน สำคัญที่สุดคือ แมวที่จะประกวด คือแมวที่ไปไหนๆ แล้วไม่เครียด อีโง่สุคืออุ้ม แล้วเปิดประตูห้องนางก็กรี้ดแล้ว จบโครงการ ลูกก็ไม่มีให้สุ แถมตัวนางเองนอกจากจะอึนอกกระบะให้อิแม่เก็บเล่นทุกวัน ก็ไม่ได้สร้างความดีใดๆ อีกเลย
อะลองดูสภาพนิลตอนเด็ก ที่สุว่าพอจะประกวดได้ เพราะหัวกลม หน้าสั้น ตาโต ตำแหน่งหูดี กล้ามเนื้อแน่นดีมาก แน่นจนให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังได้ไม่เกิน 50ml.อะค่ะ หนีบหลังคอไม่ขึ้น อิแม่กลุ้ม อกกว้าง เป็นทรงคอปบอดี้ด้วย หางนิ่ม สะบัดดี (คือจะคงได้เน้นที่บอดี้ หน้าแค่พอถูไถ กับตาโตได้เเค่นั้นลูกเอ้ย)
ข้าวนิลสมัยยังเด็กๆ ยังเป็นแมว ก่อนพัฒนามาเป็นกอลั่มน้อย 🤣
แล้วมาดูสภาพปัจจุบัน ….. นิลเติบโตมาเป็นกอลั่ม
เมื่อข้าวนิลโตเต็มที่ ก็แปลงร่างมาเป็นกอลั่ม .. รู้ตัวมั้ยว่าควรหยุดแล้วน่ารักไว้แค่ตอนเด็ก …
แล้วลองเทียบกับเจ้าอิงฟ้า แมวของน้องพลอยที่ซื้อจากพี่ฉัตร…. ชัดเจนถึงความมีผู้ดีมีชาติตระกูล 😂😂😂 นิลยูกแม่ ไปหาแหวนต่อนะลูก
น้องอิงฟ้า จาก cattery bla bla
และหลานๆ ของเจ้าพลอยที่สุช่วยแนะจับคู่บรีดให้ 4 รูปแคกเป็นเด็กๆ ที่เกิดจากแม่ Scottish Fold บรีดกับบริติช หูกริบได้นะจ้ะ ถ้าเข้าใจสภาพแมว และรูปต่อๆ ไป คือสก็อตติชโฟลด์ผสมกับสก็อตติชหูตั้งค่ะ
เด็กบ้านน้องพลอย จำชื่อฟาร์มไม่ได้ 😂 ทำไมขยันตั้งชื่อฟาร์มยากๆ กันจังง
นั้นแหละคำว่าสภาพที่ต้องดูแมวตัวเอง ไร้ซึ่งความหวาน อีนิลเมื่อโตแล้วควรเป็นกอลั่มอยู่แต่บ้านไปค่ะ ตอนเด็กก็ลุ้นยากแล้ว โตมาไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยค่ะ
แม่รักนิลนะ แม่ไม่ได้บูลลี่หนูน้าา 😆
หวังว่าจะได้เทคนิคการเดินเที่ยวงานประกวดแมวให้ได้ประโยชนกันนะคะ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
