23 ธ.ค. 2021 เวลา 02:04 • ปรัชญา
ความเคยชินทำให้เราหลายคนไม่ก้าวไปไหน
สวัดดีครับเราจะมาคุยกันในเรื่อง ความเคยชิน เมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดในภาคเหนือของไทย เป็นสถานที่จัดแสดงโชว์ช้าง เหตุเพราะอากาศร้อนผมเลยแวะเขามาในศาลาที่มีช้างถูกล่ามโซ่อยู่ ลักษณะของการล่ามนั้นทางควาญช้างเอาโซ่ล่ามไว้ที่ขาแล้วอีกด้านได้ตอกหมุดลงกับพื้น ผมก็เลยเกิดความสงสัยอะไรขึ้นมาบางอย่าง? ว่าช้างตัวใหญ่มากขนาดที่โซ่ใช้ล่ามอันเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับตัวช้าง ความสงสัยทำให้ผมได้คุยกับควาญช้าง ผมก็ถามไปตรงๆ เลยว่าโซ่ล่ามช้างไว้อยู่เหรอครับ ทางควาญช้างยิ้มแล้วตอบกลับมาว่าอยู่ซิ เพราะอะไรนั้นเหรอ..เขาได้อธิบายถึงความลับนั้นให้ผมฟัง
"ตอนที่เจ้าช้างยังตัวเล็กๆอยู่ เราก็ไช้โซ่อันนี้แหละที่ล่ามช้างไว้ แรกๆช้างก็ไม่ชอบ พยายามดึงโซ่ให้หลุดออกจากขาของมันแต่ด้วยความแข็งแรงของโซ่ช้างเล็กไม่สามารถดึงออกได้ ช้างได้พยายามอยู่นานหลายปีจนเหมือนมันได้เข้าใจแล้วว่าไม่สามารถดึงโซ่นั้นออกจากขาของมันได้แล้วมันก็หยุดดึงจนมันเติบใหญ่ขี้นมา ทุกวันหลังจากพามันไปอาบน้ำแล้วก็จะพามาตอกหมุดที่ศาลาแห่งนี้ทำแบบนี้ทุกครั้ง ช้างไม่เคยถอนหมุดได้เลยไม่ใช่เพราะช้างถอนหมุดไม่ได้นะ ช้างสามารถถอนหมุดได้โดยใช้แรงเพียงนิดเดียว หมุดก็กระเด็นแล้วครับเพราะตอนนี้ช้างโตเต็มวัย แต่ช้างจะไม่ทำอย่างนั้นก็เพราะช้างเองได้ลองทำแล้วครั้งที่ยังตัวเล็กและก็รู้ว่ามันไม่ได้ผล”
สิ่งที่ควาญช้างอธิบายมาทำให้ผมเข้าใจถึง คำว่า ความเคยชินขึ้น ช้างตัวนี้อาจอยู่ในสภาวะเดิมๆ และมันเข้าใจดีว่าไม่สามารถดึงโซ่ออกได้ แล้วช้างก็จะไม่ลองทำ ผมจึงได้ข้อคิดนี้มาย้อนดูตัวเองว่า ในบางอย่างหลายๆเรื่อง ที่เราอยากทำ หรืออยากลองทำดู แต่เราก็ไม่กล้าที่จะทำมัน จนปัจจุบันก็ยังไม่ได้ทำมันเลย ถ้าเปรียบเหมือนช้างที่ถูกล่ามโซ่ ผมก็แค่ลองทำมันดูในสิ่งใหม่ และอาจจะทำได้ดีด้วยซ้ำ เรื่องช้างที่ถูกล่ามเลยทำให้ผมเข้าใจถึงสภาพความเคยชินของผมเองในปัจจุบัน ว่าความเคยชินนั้นแหละที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะออกมาจากตรงนั้นเพราะคิดเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ ... สำหรับใครหลายๆคนที่ยังอยู่ในสภาพความเคยชินเดิมๆ ที่เป็นอยู่ ลองหาอะไรที่ใหม่ทำดู หรืออะไรที่เคยคิดจะทำในอดีตแต่ยังไม่ลองทำ เริ่มลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะครับ เพียงแค่คุณสะบัดขาโซ่ที่ล่ามไว้ก็คงหลุดไม่ยากนะครับ......สวัดดี
โฆษณา