23 ธ.ค. 2021 เวลา 15:14 • สุขภาพ
กลุ่มคนในยุคนี้(บางคน) มอง การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เป็นเรื่องปกติ ต้องมีปัญหาก่อน ถึงจะ ตระหนัก คิดและหวาดกลัว อย่าง เช่น ความคิดที่ กินขนมทำให้อ้วน แต่จริงๆ อ้วนจากปริมาณพลังโดยรวมของพลังงานที่ได้รับไม่ใช่เพียง ขนมชิ้นเดียว และปริมาณการทำกิจกรรมใช้ชีวิตประจำวัน
หรือ อาการปวดเมื่อยต่างๆจากการยกของหนักๆ จากพื้น แล้วปวดหลัง แล้วต้องไปหาหมอบางคนไม่พอใจ เวลาหมอ สั่ง ยาพารา ให้  ในลักษณะที่วินิจฉัยแล้ว กลุ่มกระดูกสันหลัง ไม่มี ปัญหา และส่งกายภาพ แล้วบางคน นักกายภาพ ให้การบ้านไปบริหารที่บ้าน ก็ไม่ทำ (บางคน)
มันก็คือ กล้ามเนื้ออักเสบ จาก การขยับร่างกายที่ผิดกายวิภาคศาสตร์  แล้วทำให้ตัวเองเจ็บตัว ขาดความรู้การขยับร่างกาย ตัวอย่าง แบบการก้มเก็บของจากพื้น โดยไม่ย่อขา เกร็งท้อง เปิดอก หลังตรงเป็นระนาบเดียวกัน มองง่ายๆ ท่า Deadlift  ท่า ที่ยกบาร์เบลออกจากพื้น นั่นหล่ะครับ เป็นท่าที่ยกของไม่ให้ปวดหลัง  ใช่ แล้ว Deadlift ไม่ใช่ท่า เล่นหลัง หลายคนเข้าใจผิด  มันคือท่า ยกของจากพื้น โดยไม่ปวดหลังจากการใช้กล้ามเนื้อ ทั้งตัวช่วย เพื่อยกของจากพื้น
ตอนนี้ สังคมไทย ป้อนภาพ แค่การออกกำลัง = วิ่ง
ห้าม เวทเทรนนิ่ง ใช้น้ำหนักเยอะ กล้ามเนื้อจะเท่า นักเพาะกาย ต้อง บอดี้เวท เท่านั้น 
หรือ ทางการค้า ก็  มีแนวคิด ขาวและดำ (Binary thinking) คือ มองผิด กับ ถูก เพียงอย่างเดียว   เพื่อป้อน ข้อมูล เกิดความเชื่อ ให้ซื้อ สิ้นค้า และบริการต่างๆ  เช่น กินคาร์โบไฮเดรต แล้ว อ้วน  ต้องกินน้อยลง แต่จริงๆ มันก็คือ สารอาหารหนึ่ง ที่ให้พลังงาน เท่ากันกับ โปรตีน เทียบกัน กรัมต่อกรัม  กินได้แต่ ในปริมาณพอเหมาะ นี่ก็คือ บัค หนึ่งเช่น กันว่า พอเหมาะ  มันเท่าไหร่  ?  นั่นก็คือ
การหา TDEE ( total daily energy expenditure ) คือ พลังงานที่ความได้รับ ต่อวัน ตามกิจกรรม นั่นเอง ซึ่งข้อมูลหาอ่านได้ง่ายมาก google มีคนเขียนเป็นแสนๆบทความ และมีนานแล้ว เป็น 10+  ปี แต่สิ่งที่ทำให้คนเข้าไม่ถึงคือ สื่อกลาง และ กลุ่ม Influencer บางคน  ไม่ให้ข้อมูลหลายนั่น เนื่องจาก ปัญหา ขาดดุล เศรษฐกิจ
สุดท้าย  ป่วย  รักษา ป่วยใหม่ สร้างรายจ่าย หาซื้อ อาหารเม็ด น้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหวังว่า จะไปซ่อม อวัยวัยภาพในที่ตัวเองทำลายเอง และร่างกาย มีกระบวณการ homeostasis เพื่อรักษาสมดุลร่างกาย อยู่แล้ว ไม่ต้องไปคิดเร่งจาก เม็ดแคปซูลน้อยๆ  หรือ น้ำดื่มศักดิ์สิทธิ์ 
แค่ อาหารหลักนี่แหละ  โปรตีน  คาร์โบไฮเดรต ไขมัน  ผักต่างๆ ผลไม้  พื้นฐานอยู่แล้ว
ปัญหาที่พบ
1.ขาดสื่อความรู้ โภชนาการ จริงจัง และ ขาดความสนใจ
2.สังคมมองภาพ ออกกำลังกาย จัดอยู่ในสิ่ง ต้องเพิ่มเติม ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ แต่ หลักการหลัก คือ การใช้ร่างกาย ได้ดีขึ้น  เจ็บป่วยน้อยลง 
3.ออกกำลังกาย ไม่ใช่ ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น วิ่งอย่างเดียว  เวทเทรนนิ่งอย่างเดียว  หรือ โยคะ อย่างเดียว  ทั้งหมด มีลักษณะ และ ผลลัพท์แตกต่างกัน และขาดไม่ได้  ควร มี ทั้ง กล้ามเนื้อแข็งแรง  หัวใจปอด ทำงานได้ดีขึ้น  ถ้าไม่ยืดกล้ามเนื้อเลย กล้ามเนื้อตึงก็ส่งผล ทำให้ประสิทธิภาพ การทำกิจกรรมต่างๆ ลดน้อยลง เช่น น่องตึง แล้วเป็นรองช้ำ ส่งผลในชีวิตประจำวันแน่นอน
4.หาอาหารเม็ด หรือ อาหารผง ทนแทน อาหารหลัก และ มโนว่า ช่วยรักษา ช่วยบำรุงร่างกาย อ้างไม่มีเวลา มากกว่า บริหารจัดการเวลาให้ดี
โฆษณา