24 ธ.ค. 2021 เวลา 16:53 • ความคิดเห็น
ไหน ๆ ก็เปิดประเด็นนี้แล้ว ผมขอเล่า(ระบาย) หน่อยละกันครับ (ยาวนิดนึง) เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงอาทิตย์นี้เอง
ผมอยากได้ Sound Bar มากครับ เลยไปห้างสรรพสินค้า เพื่อจะไปคว้าเอามาเป็นเจ้าของ โดยตั้งงบเอาไว้ที่ 3,000 บาท
ที่แรกที่ผมเดินเข้าไป คือ S.... ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องเล่นเพลงและหูฟังมานาน
ผมเดินเข้าไป บอกเขาว่า ขอดูตัวที่ถูกที่สุดครับ แล้วพนักงานก็พาผมไปดูตัวที่มีราคา 3,xxx บาท (ซึ่งผมยังถือว่าอยู่ในงบที่รับได้อยู่) แต่พอผมจะขอลองฟังเสียงเท่านั้นแหละ เขากลับบอกว่าอย่าเลย ไม่ดีหรอก แล้วพาผมไปลองฟังตัวที่ราคา 7,xxx บาท
ผมฟังแล้ว เอ้อ! ถูกใจมาก แต่เกินงบไปเยอะเลย ผมเลยเดินออกมาจากร้าน แล้วไปหาข้าวกินพร้อมนั่งคิดไปพลาง ๆ จนตัดสินใจได้ว่า จะเอาตัว 7,xxx นี่แหละ เพราะผมชอบ เกินงบก็ช่างมันปะไร ผมจึงเดินกลับไปที่ร้านเหมือนเดิม
พอไปถึงร้าน ผมก็เริ่มถามรายละเอียดสินค้า พร้อมเรื่องการชำระเงิน แต่เขาพูดมาประโยคหนึ่ง ทำให้ผมเปลี่ยนใจไม่ซื้อ (จะว่าผมคิดเล็กคิดน้อยก็ไม่ว่ากันครับ)
"ถ้าพี่จะซื้อจริง ๆ ผมจะไปดูรายละเอียดให้"
แค่นี้จริง ๆ ครับ ที่ทำให้ผมเปลี่ยนใจฉับพลันว่า จะไม่ซื้อ Sound Bar จากที่นี่เด็ดขาด ผมได้แต่คิดในใจว่า
"ทำไมวะ ผมจะซื้อของ ผมต้องรู้รายละเอียดของสินค้าก่อนรึเปล่า ผมต้องรู้ก่อนรึเปล่าว่าสินค้านี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง ทำไมถึงมาพูดว่า ถ้าผมจะซื้อ ถึงจะไปดูรายละเอียดให้ นี่มันหมายความว่า ถ้าผมไม่ซื้อ ก็จะไม่ดูให้งี้เหรอ"
แล้วผมก็เดินออกจากร้าน แล้วเดินเข้าไปที่ร้าน P..... B... (สีม่วง)
เชื่อมั้ยครับ ผมแค่เดินเข้าไปบอกว่า จะขอดู Sound Bar ตัวที่ถูกที่สุด เขารีบพาผมไปดูตัวที่มีราคา 5,xxx บาท พร้อมกับให้ผมลองทุกอย่างที่ผมอยากลอง ผมขอเวลาคิดอีกหน่อย เขาก็ไม่เร่งเร้า แถมเดินออกห่างให้ผมอยู่คนเดียว
สุดท้าย ผมเลยได้ Sound Bar ในราคาที่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ตอนแรก แถมยังเป็นแบรนด์อื่นที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อแต่แรกอีกด้วย
โฆษณา