ป่วยซึมเศร้า เพราะถูกบูลลี่ว่าเป็นดัลเมเชี่ยน
ได้ยินเรื่องการบูลลี่ การถูกบูลลี่มาสักพัก และค่อนข้างบ่อยมากขึ้นในช่วงหลังมานี้ ในช่วงที่หลายอย่างทางวัตถุพัฒนารุกหน้าไปอย่างมาก และรวดเร็ว
ฉันคิดว่าคงไม่มีใครมีความสุขจากการถูกบูลลี่ สำหรับฉันมันจะนำไปสู่การรักษาไว้ในใจซึ่งความเกลียดชัง เพราะความมีตัวตน ตัวกู ยังคงฝังลึกอยู่ในสันดาน
อย่างไรก็ตามผู้ที่บูลลี่ผู้อื่นก็หาได้มีความสุขที่แท้จริงไม่ เพราะต้องประสบพบเจอกับสิ่งไม่ชอบ ไม่อยากเจอ ทนไม่ไหวอกจะแตกตายจนต้องแสดงออกด้วยการบูลลี่ ให้เหนื่อยจิตใจไปอีก
การบูลลี่ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
1.การบูลลี่ทางวาจา (Verbal bullying)ได้แก่ การล้อเลียน การเรียกชื่อเรียกฉายา การแสดงความคิดเห็นทางเพศที่ไม่เหมาะสม การเยาะเย้ย การขู่ว่าจะทำร้าย
2. การบูลลี่ทางสังคม (Social bullying) ได้แก่ การทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อน บอกผู้อื่นไม่ให้คบหาด้วย การปล่อยข่าวลือทำร้าย การทำให้เกิดความอับอายในที่สาธารณะ
3. การบูลลี่ทางกายภาพ (Physical bullying) ได้แก่ การทำร้ายร่างกาย การทำลายสิ่งของของเขา การทำท่าทางหรือสัญลักษณ์ที่หยาบคายใส่
โดยมากมักเกิดขึ้นในโรงเรียน พักหลังมานี้ก็พบเจอได้บ่อยในสังคมทั่วไปแทบทั้งโลก ทั้งสังคมที่ทำงาน แหล่งที่อยู่อาศัย และทางสื่อสังคมออนไลน์
เหตุนั้นมีหลายอย่างตามการ ตั้งโจทย์ ที่เลวร้ายคือการบูลลี่ในสิ่งที่มีมาแต่กำเนิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น เชื้อชาติ ศาสนา สีผิว ฯลฯ
วันนี้"เล่าสู่กันฟัง" ขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับผู้หญิงคนนึงที่ถือได้ว่ามีจิตใจที่เข้มเข็ง มีปัญญาในการก้าวผ่านกับดักความคิดที่สังคมยัดเหยียดให้ มาตั้งแต่วัยเยาว์
มาริกา (Marika Nagy) หญิงสาววัย 22 ปี ชาวเยอรมัน ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของผิว ถ้ารู้จักปานบนผิวของคนทั่วไป ลองจินตนาการว่าถ้าแผ่นปานนั้นเกิดปรากฎอยู่ทั่วตัวละ ใหญ่เล็กปนกัน
ด้วยจุดด่างดำที่ปกคลุมผิวไปทั่วร่างกาย ทำให้เธอถูกเยาะเย้ยจากเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนต่างพากันบอกว่าน่าเกลียดและบอกว่าเธอดูเหมือนถูกโคลนสาดใส่ หนึ่งในชื่อเล่นของเธอคือ แดลเมเชี่ยน (Dalmatian) ชื่อสุนัขพันธุ์หนึ่งที่มีจุดดำทั่วตัว
แดลเมเชี่ยน (Dalmatian)
มาริกา เกิดมาพร้อมภาวะทางพันธุกรรมที่ไม่ปกติและหาได้ยาก ทำให้เธอมีปานเกือบ 60% ของผิวมาแต่กำเนิด
จากการถูกบูลลี่เป็นเวลาหลายปี นำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตใจที่ย่ำแย่ จนต้องเข้าบำบัดถึง 6 ปี กว่าเธอจะเข้มแข็งขึ้นพอจะรับมือได้บ้าง ไม่บาดเจ็บทางจิตใจจนเกินไป
แล้วเธอก็ก้าวผ่านกับดักความคิด เธอใช้ชีวิตได้ปกติสุขขึ้น มั่นใจขึ้นกับทัศนคติใหม่ที่ว่า "ปานฉันสวย ฉันเป็นผู้หญิงที่มีสภาพผิวหายาก"
เป็นเรื่องที่น่ายินดี และชื่นชมที่ทุกวันนี้ เธอกำลังใช้ชีวิตอย่างปกติสุข กับอาชีพนางแบบที่ประสบความสำเร็จ โดยใช้สภาพผิวที่ครั้งหนึ่งทำให้เธออับอายเป็นเครื่องมือสำคัญในการก้าวเข้าสู่อาชีพนี้
ได้เซ็นสัญญาและได้ถ่ายทำรายการให้กับลูกค้าหลายราย รวมถึงแบรนด์ชุดชั้นในสัญชาติเยอรมัน Tizz & Tonic
เธอยืนยันว่าเธอไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อเงินหรือชื่อเสียง แต่เป็นการได้รับโอกาสที่จะเป็นแบบอย่างให้กับเด็กผู้หญิงที่รู้สึกไม่มั่นใจในข้อบกพร่องของพวกเขา
“ปานของฉันทำให้ฉันพิเศษ” เธอกล่าว “โลกจะเป็นสถานที่ที่น่าเบื่อมากถ้าเราทุกคนมองเหมือนกัน” และเธอตั้งเป้าให้ทั่วโลกได้เห็นว่าความไม่สมบูรณ์แบบคือความงามอันหนึ่ง และฉันเห็นด้วยว่าก็เป็นศิลปะแบบหนึ่ง
ปัจจุบันเธอมีครอบครัวที่น่ารัก มีลูกตัวน้อย ในตอนแรกที่เธอกังวลและตั้งใจว่าจะไม่มีลูกเพราะไม่อยากให้สิ่งที่เธอเผชิญอยู่ตกทอดไปถึงลูกรักทางพันธุกรรม แต่แล้วลูกชายตัวน้อยก็มาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
แม้หมอจะบอกว่าสิ่งที่เธอเป็นไม่สามารถส่งต่อให้ลูกได้ เธอไม่เชื่อเลยและเป็นกังวลตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ จนกระทั่งได้เห็นลูกชายตัวน้อยถือกำเนิดเกิดมา สิ่งแรกที่ทำคือตรวจดูไปตามตัวลูก
เดชะบุญสิ่งที่เธอกังวลไม่ได้ตกทอดไปถึง ผิวขาวทั่วตัวไร้รอยปานหรือจุดตามร่างกายอย่างที่เธอเป็นกังวล เธอจึงใช้ชีวิตครอบครัวอย่างปกติสุขมากขึ้น
เธอมุ่งสอนให้ลูกมีความสุข และหลายสิ่งที่สำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
แม้ว่าจุดดังกล่าวจะไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ปัญหาผิวหนังลักษณะนี้ ก็อาจนำไปสู่มะเร็งผิวหนังได้ มาริกาจึงเข้ารับการผ่าตัดผิวหนังถึง 7 ครั้งในวัยเด็ก เพราะหมอแนะนำว่าการผ่าตัดในวัยเด็กจะมีโอกาสหายจากรอยแผลเป็นได้ดี
ซึ่งได้ผ่าตัดลบปานแผ่นใหญ่เข้มบนหลังแม้ว่าจะเสี่ยง หมอบอกว่ามีโอกาส 50% ที่จะไม่รอดจากการผ่าตัดที่ซับซ้อน พ่อแม่ของเธอค่อนข้างกลัว แต่ก็ตกลงที่จะทำต่อไปเพื่อให้เธอดีขึ้น
การผ่าตัดครั้งสุดท้าย คือเมื่ออายุ 11 เดือน และเธอรู้สึกขอบคุณที่เธอไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอมีการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อติดตามจุดของเธอและจัดการกับสภาพผิวโดยทาครีมกันแดดชนิดพิเศษและจำกัดระยะเวลาที่เธอต้องอยู่กลางแดด
ตลอดวัยเด็ก เธอพยายามปกปิดจุดต่างๆ แต่ก็ไม่พ้นจากการตกเป็นเหยื่อของการบูลลี่ที่เธอต้องทนทุกวัน เพื่อนร่วมชั้นของเธอบอกกับเธอว่าเธอดูเหมือนดัลเมเชี่ยน และทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนน่าเกลียด สกปรก ไม่คู่ควรอยู่ที่นั่น แม้พ่อแม่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เธอโดยการบอกว่าเธอสวย แต่ก็ยากที่จะเชื่อเพราะคนแปลกหน้าส่วนใหญ่ชี้และหัวเราะ รวมถึงเพื่อนที่โรงเรียนต่างพากันว่าน่าเกลียด
ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งเธอถูกทำร้ายร่างกาย และสร้างโปรไฟล์ปลอมบนโซเชียลมีเดียและมีการแสดงความคิดเห็นที่ดูถูกเหยียดหยามเธอบนภาพถ่ายของเธอ
เธอบอกว่าเป็นการเติบโตมาที่ยากลำบาก ในการรับมือกับการบูลลี่ จนมีภาวะซึมเศร้า เธอมีเพื่อนไม่มากและรู้สึกโดดเดี่ยว
จากนั้น เธอตัดสินใจเรียนการแสดง ซึ่งทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น เธอตัดสินใจสร้างบัญชี Instagram โดยที่ได้แชร์รูปภาพของตัวเองกับผู้ติดตามกลุ่มเล็กๆ ไม่นานเธอก็ได้รับความสนใจจากเอเจนซี่ต่างๆ
"ฉันคิดว่าความงามหมายถึงความหลากหลาย และความงามไม่ได้มีแค่ขนาดเดียว สีเดียว รูปร่างเดียว” มาริกากล่าว ^__^
ฉันเห็นด้วยอย่างมากกับคำกล่าว และหลักคิดแบบนี้ ฉันยังคงเชื่อเสมอในความเท่าเทียมที่ว่าทุกคนล้วนเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ช่วยเหลือเกื้อกูล แทนทำร้ายกัน จะเป็นการดีกว่า
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
