27 ธ.ค. 2021 เวลา 01:01 • ยานยนต์
เคยสงสัยกันไหมว่าสัญญานไฟที่ขึ้นเตือนเราบนหน้าปัด #รถยนต์ นั้นมีความหมายว่าอะไรบ้าง วันนี้อ่านแล้ว GET จะมาบอก 9 สัญญานไฟที่ทุกท่านควรต้องรู้ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้ทัน ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
⭕1. สัญญาณไฟรูป #ตู้จ่ายน้ำมัน แต่มีจุด ๆอยู่ด้านล่าง
เวลาที่เราเห็นสัญญาณนี้แสดงขึ้นมา มันบ่งบอกว่า กรองน้ำมันกำลังมีปัญหา อาจเกิดจากการที่กรองน้ำมันตัน หรือมีน้ำผสมอยู่ในน้ำมันมากเกินไป ควรทำการเช็คตัวกรองให้ดี
⭕2. สัญญาณไฟรูปตู้จ่ายน้ำมัน
สัญลักษณ์แบบนี้คงเป็นที่คุ้นตากันดีสำหรับหลายๆคน เป็นการเตือนว่าน้ำมันกำลังอยู่ในระดับต่ำ ให้เติมน้ำมันก่อนที่จะหมด โดยส่วนใหญ่จะสามารถวิ่งต่อได้อีกประมาณ 40-100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่ว่าเป็นรถรุ่นไหน และสัญลักษณ์รูป สามเหลี่ยมเล็กๆ ด้านข้างถังนั้น ช่วยบ่งบอกว่าฝาถังน้ำมันอยู่ด้านไหน เวลาเข้าปั๊มเติมน้ำมันจะได้จอดถูกฝั่งจ่ายน้ำมัน
⭕3. สัญญาณไฟรูปปรอทมีขีดระดับน้ำ
หากเห็นสัญญาณนี้ปรากฎ ควรจะระวังและตรวจสอบโดยเร็ว ไม่ควรฝืนใช้รถต่อ เพราะอาจจะทำความเสียหายอย่างหนักให้เครื่องยนต์ได้ สัญญาณนี้หมายถึง การเตือนเรื่องความผิดปกติของระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เช่น พัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน น้ำยาหล่อเย็นขาด หรือ รั่ว เป็นต้น
⭕4. สัญญาณไฟเครื่องหมายตกใจกลางวงกลม หรือ เบรก
จะปรากฏขึ้นให้เห็นใน 2 กรณีคือ เมื่อมีการดึง #เบรกมือ หรือลดเบรกมือยังไม่สุด จะทำให้สัญลักษณ์นี้ติดขึ้นมา แต่ถ้าหากลดเบรกมือแล้วยังไม่ดับ คงต้องตรวจสอบระบบเบรก โดยดูระดับน้ำมันเบรกเป็นสิ่งแรก เพราะส่วนใหญ่แล้วสัญลักษณ์จะแจ้งเมื่อน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับปกติ แต่สำหรับบางรุ่นจะแยกกันระหว่างระบบเบรกกับเบรกมือไว้แยกจากกัน โดยระบบเบรกจะเป็นเครื่องหมายตกใจ ส่วนเบรกมือ จะเป็นตัว P
⭕5. สัญลักษณ์ #ถุงลมนิรภัย
ปกติสัญลักษณ์นี้จะขึ้นมาค้างประมาณ 5 วินาทีหลังสตาร์ทรถ เป็นการเช็คถุงลมนิรภัยของระบบตัวรถ แต่ถ้าสัญลักษณ์นี้แสดงขึ้นมาค้างหลังจากสตาร์ทเครื่องไปแล้วไม่ยอมดับ ควรจะเอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงาน เพราะถุงลมนิรภัยอาจจะไม่ทำงาน หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา
⭕6. สัญลักษณ์ #แบตเตอรี่ ขั้วบวก ขั้วลบ
หลายคนมักจะเข้าใจว่า หากสัญญาณนี้ปรากฏขึ้นมา คือแบตเตอรี่เสื่อม แต่จริงๆแล้วมันคือ ไดร์ชาร์จทำงานผิดปกติ เช่น #ไดชาร์จ เสีย ไม่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ หรือ ไม่มีการจ่ายไฟเข้าใช้งานในระบบรถยนต์ เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆอาจทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในรถยนต์ไม่ทำงาน ดังนั้นควรตรวจเช็ครถให้ดี
⭕7. สัญลักษณ์มีระบุคำว่า #ABS
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ระบบเบรก กับ #ระบบเบรก ABS นั้นคนละส่วนกัน ตัว ABS คือระบบช่วยไม่ให้ล้อล็อคเวลาเบรกกระทันหัน จนรถเสียการทรงตัวไถลไปตามพื้นถนน เป็นการช่วยลดโอกาสที่รถจะพลิกคว่ำ หรือ ไถลตกข้างทาง หากมีสัญลักษณ์แบบนี้เตือนขึ้นมา อาจหมายถึงระบบเบรก ABS มีปัญหา ให้นำรถเข้าตรวจสอบกับอู่ทันที แต่ระบบเบรกยังสามารถใช้งานได้ปกติอยู่ แต่เมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหันจนล้อล๊อค ระบบ ABS อาจจะไม่ทำงาน
⭕8. สัญลักษณ์รูปตะเกียงน้ำมันมีน้ำหยด
แสดงว่า #น้ำมันเครื่อง ใน #เครื่องยนต์ มีต่ำมากจนไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้อย่างทั่วถึง หากฝืนใช้รถต่อไปอาจทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาถึงขั้นพังได้เลย แต่ถ้าหากเช็คแล้วน้ำมันเครื่องยังอยู่ในระดับปกติ แต่มีไฟโชว์ขึ้นมาก็เป็นไปได้ว่า ปั๊มน้ำมันเครื่องอาจมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถปั๊มส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้อย่างทั่วถึง ก็ต้องเช็คดูอีกทีว่าเกิดปัญหาที่ส่วนใดของรถจริงๆกันแน่
⭕9. สัญลักษณ์เครื่องยนต์
ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ครอบจักรวาลของเครื่องยนต์มากๆ เพราะตัวนี้ตัวเดียว อาจแจ้งความผิดปกติหลายอย่าง ถ้าไฟรูปเครื่องโชว์ขึ้นมาแล้วไม่ดับเมื่อไหร่ แสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหาแล้ว ต้องทำการตรวจสอบด้วยเครื่องของทางศูนย์บริการหรืออู่
🚕หลังจากที่ได้รู้จักสัญญานไปแล้ว อย่าลืมเช็ครถเช็คสัญญานไฟให้ดีก่อน #การขับขี่ ทุกครั้ง แต่นี่เป็นเพียงสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งที่ได้นำมาให้ดู อันที่จริงแล้วยังมีสัญญาณเตือนอีกมากมาย และมีความแตกต่างกันไปของรถแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ดังนั้นเราควรที่จะศึกษาและเรียนรู้ไว้ หากมีสัญญาณปรากฏขึ้นมา เราจะได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันและตรงจุด ทั้งยังสามารถดูแลรักษารถของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
แหล่งที่มาของข้อมูล : www.kkyyusedcar.com
โฆษณา