26 มี.ค. 2023 เวลา 12:49 • ไลฟ์สไตล์
เชียงใหม่

รักประเทศไทย กับการหนีเที่ยว(ในเดือนแห่งความ​รัก)...#001

การท่องเที่ยวในประเทศไทยอาจจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของหลายๆคนที่อยากจะเดินทางพักผ่อน
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เราชอบออกไป(หนาว)ที่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่
ทำให้เรากลับไม่ค่อยสนใจการท่องเที่ยวในประเทศเท่าไหร่
แอบเที่ยวเดือนกุมภา...
แต่หลังการระบาด คราวนี้เราควรช่วยกันสนับสนุนท่องเที่ยวในประเทศ
และสุดท้ายก็ลองออกเดินทางกัน มีเซอร์ไพรส์มากมาย มีรีสอร์ทท่องเที่ยวที่ดีมากจริงๆ
มีทั้งแหล่งมรดกวัฒนธรรมและความสวยงาม
รวมถึงความงดงามในชายหาดของเกาะ การจัดกิจกรรมก็สนุกมาก คนในพื้นที่ที่พบก็ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง
เอาล่ะ....ไปกันเลยครับ​เพื่อนๆ
เริ่มที่...ท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนฝนตกหนักจนฝ้าเพดานถล่ม ฮาาาาาาา
และไปเชียงใหม่ตอน 10 โมงเช้ากว่าๆ
ในวันแรก ที่ต้องขึ้นที่สนามบินหาดใหญ่​เพราะสถานีเบตงเจ๊งงงง! ขอรับ...
1
แล้วต่อเครื่องบินจากกุงเตป...ไปเชียงใหม่
3
และรถปิกอัพปลุกให้ตื่นนอนตลอดทาง....แงงงงงง
1
และในที่สุดก็มาถึงที่นี่ตอนเที่ยงที่ป้ายแรกคือโรงแรมอโมรา
ด้านนอกของประตูท่าแพ ทางโรงแรมได้ห้องเช็คอินตอนบ่ายสอง
ผมเลยตัดสินใจออกไปทานข้าวเที่ยงไปดูเชียงใหม่ที่ขึ้นชื่อมาช้านาน
บอกตามตรงว่า จากการอยู่ชายแดนใต้เมื่อมาถึงภาคเหนือกับความหนาววววว.. ทำให้ความประทับใจแรก
ที่มีต่อเชียงใหม่นั้นไม่ค่อยจะคุ้นชินดีนัก
เริ่มที่...ประตูท่าแพเป็นส่วนของกำแพงอิฐสีแดง พอเข้าประตูท่าแพแล้ว
ก็ไม่รู้สึกถึงเมืองโบราณเลย มันเป็นเรื่องธรรมดา ของเมืองเล็กๆ
แต่ผมก็ตกหลุมรัก "เมืองเล็กๆ" แห่งนี้ในอีกสองวันต่อมา
ด้วยมื้อแรกใน เมืองโบราณ (มันก็ออกจะเห็นแก่กินนิดส์นุง...ฮาาาา)
ที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ บังเอิญไปเจอะเอาแบล็คแคนยอน (ทำไมถึงทำเลดีขนาดนี้) กินเสร็จก็พบว่าเครื่องปรุงรสทำให้อาหารน่ารับประทานมากสำหรับอาหารมื้อนี้
ดังนั้นเราจึงมีความคาดหวังมากมายสำหรับการเดินทางครั้งนี้
เสร็จก็เดินเฉื่อยๆก็กลับโรงแรมหาเบียร์ดื่ม เฮ้ยยย!!!หาห้องพัก
3
ทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมดีมากและเป็นตึกที่ค่อนข้างสูงในเมืองโบราณ
ถ้าหน้าต่างห้องหันไปทางทิศดี คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพทั้งหมดของเมืองโบราณได้
ดังนั้นนี่จึงเป็นวิวที่ดีมาก หลังจากนอนอยู่ในห้องเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง คนขับที่มารับตอนบ่ายสามก็มาถึงล็อบบี้ตรงเวลา
ต่อมาก้อ... ออกเดินทางไปสวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่!
สวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่อยู่ห่างออกไปประมาณครึ่งชั่วโมงโดยรถยนต์
เมื่อถึงสวนสัตว์แล้วยังมีฝนตกปรอยๆ อยู่
ทำให้รู้สึกสดชื่นและเย็นสบายเป็นพิเศษ
อากาศไม่ร้อนชื้นเหมือนป่าฝนเขตร้อนอย่างที่คิดไว้
เนื่องจากช่วงบ่ายมีผู้เข้าชมสวนสัตว์ไม่มากนัก
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และผมได้ติดตามฝูงยีราฟอย่างใกล้ชิด โอ้วววววววว
การออกแบบภูมิทัศน์ ดีมาก
กรงทั้งหมดพยายามลดร่องรอยให้ดูเป็นธรรมชาติและเพิ่มความกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในป่า
เพื่อหาบ้านของสัตว์น่ารักเหล่านั้น
เวลาก็หมดไป และนัดคนขับรถ(แดง)ไปรับ ที่สวนสัตว์เวลา 20:30 น.​
สำหรับตลาดท่องเที่ยวไทย ผมว่ามันค่อนข้างได้มาตรฐาน
ปกติผมจะจองสถานที่ท่องเที่ยวแบบเหมา 1 วัน
คนขับมารับตรงเวลา
และ จะไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือขายของอะไรเลย
วันที่ 3 ขึ้นรถบนดอยสุเทพและถนนห้วยแก้ว
ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของรถบริการ​ที่นี่ คือ คนขับและผู้โดยสารสื่อสารกันระหว่างทางไม่ค่อยได้
ไม่ค่อยเปิดหน้าต่างเล็กๆ ด้านหลังห้องโดยสาร เพื่อสื่อสาร
รถแดง เรียกอีกอย่างว่า รถ2แถว เพราะมีที่นั่งสองแถว สามารถนั่งได้ถึง 8 คน เป็น carpooling
และสามารถจอดได้ตามต้องการ สะดวกมาก มีจำนวน​รถหลายคัน
ค่าโดยสารคนละ 30 บาท และระยะสั้นเพียง 20 บาท
ไปกะสาวๆวุ้ยยยย
ขึ้นรถไปแต่เช้าาาาาา เพื่อขึ้นเขาสุเทพ
ว่ากันว่า มีความสูงมากกว่า 1,000 และกว่า 700 โค้ง
คนขับยังขับรถแบบ fast 13 เหมือนกำลังบินอยู่
3
แน่นอนขาผมเหยียดออก ด้วยต้องการช่วยเขาเหยียบเบรก ฮาาาา
เพราะคนขับในไทยแทบทุกที่เป็นแบบนี้ สตาร์ทด้วยความเมามันส์
เวลาเลี้ยวไม่ต้องลดความเร็ว ไม่เปิดไฟเลี้ยว จนผมต้องขออีกรอบ ฮาา
เมื่อเราไปถึงวัด เจอะกับคนขายล๊อตเตอร์รี่ เอ๊ะไม่ใช่ๆๆๆ เจอะกับอากาศที่ยังคงค่อนข้างหนาว
แม้แต่ป้าที่ตรวจสอบตั๋วยังสวมเสื้อคลุมแบบผ้าฝ้ายบางๆ
เพราะ อยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ ผมจึงใช้ลิฟต์ขึ้นลงเขาแทนการขึ้นบันไดของวัด
ลิฟต์ขึ้นเขา มีลิฟต์ 2 ตัว ลิฟต์ตัวหนึ่งรับได้แปดหรือเก้าคน
แต่อีกตัวรับได้เพียงสองหรือสามคน แต่มีเจ้าหน้าที่บริการกดลิฟต์ให้นะครับ
จากจุดชมวิวด้านหลังวัด คุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามา ของพระราชวังดอยสุเทพ
ในตอนเที่ยงให้คนขับรถมารับ
ที่สี่แยกมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ในห้างเชียงใหม่-เมญ่า
หรือ MAYA ออกเสียงเหมือนๆกันครับ
ห้างนี้อยู่ติดกับแยกรินคำ หรือแยกนิมมาน
หรือบริเวณจุดเริ่มต้นของถนนนิมมานเหมินทร์เชียงใหม่
ถนนที่นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ที่กินหลากหลาย
คึกคักทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ซึ่งคุณสามารถเดินเล่นรอบๆ
ในตอนเที่ยงมีคนสัญจรไม่มากนัก เพราะแดดออก
และร้านหรูๆ ยังไม่เปิด
แต่ทุกทริปต้องมีงานเดียว
คือ.....หาของอร่อยๆกิน เดินไปมาจนสุดทาง และเมื่อรู้สึกเหนื่อย
ก็เข้าไปในร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งและดื่มเครื่องดื่มและผลไม้เพื่อรับเครื่องปรับอากาศ
ราคาโคตรถูก(กว่าที่ภาคใต้มาก) และน้ำมะม่วงปั่นแก้วใหญ่
ที่เข้มข้นเกินกว่าจะดูดได้เพียง 60 บาทเท่านั้น
ดูเหมือนว่าราคาในเชียงใหม่จะถูกกว่าภูเก็ตและกรุงเทพถูกกว่าภูเก็ต
และสุดท้ายก็ไปจบที่ข้าวผัดสับปะรด
เป็นข้าวผัดสับปะรดที่ดูดีที่สุด
ดูดีกว่าที่ภูเก็ตนะผมว่า
ตามด้วยพุดดิ้งมะพร้าว
และไอศกรีมมะพร้าว
ในตอนเย็นฝนเริ่มตก....ในเดือนแห่งฟามรัก เนี่ยนะ...
ในเมืองเก่าเชียงใหม่.... ในตอนนั้น...
ผมรู้สึกได้ว่า PM 2.5 ลดลงไปอย่างมากจากฝนนี่แหละ
1
ต่อมา วันที่ 4 ไปดูกระรอกบิน กระโดดหอ วัดป่า และเมืองโบราณกัน...
รถมาถึงโรงแรมตรงเวลาตอน 8 โมง และอยู่บนถนนบนภูเขานานกว่า 1 ชั่วโมง
ได้ยินคนพูดว่าการออกทะเลจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ
ไม่มีใครเคยพูดถึงว่าการขับรถในประเทศไทย จะทำให้เวียนหัว ฮาาาาา
1
ตามด้วยการบินวนอยู่บนยอดไม้
การกระโดดครั้งแรกค่อนข้างประหม่าเล็กน้อย เล่นแล้วยิ่งสนุก(มากขึ้น)
และแม้ว่าจะอยู่ที่ระดับความสูง 30 ถึง 40 เมตรหรือมากกว่า 50 เมตร
แน่นอนสนุกจน...ขาสั่น กลับถึงโรงแรมในเวลา..
ประมาณบ่ายโมงเพื่อพักผ่อนและออกเดินทางอีกครั้ง
เพื่อเดินเล่นรอบเมืองโบราณและวัดวาอาราม ผมเดินเจ็ดหรือแปดนาทีเห็นจะได้ถึงวัดบุปผาราม
วัดในเมืองโบราณของเชียงใหม่ที่คุ้นเคย (ประมาณ เจ็ดหรือแปดร้อยเมตรทางตะวันออกของประตูกะเปะ)
วัดเล็ก ๆ บนเส้นทางเจ็ดหรือแปดนาทีซึ่งไม่อยู่ในแผนเที่ยว
ตอนแรกๆลองค้นหาว่าชื่ออะไร แต่ก็ดูเรียบง่ายและมีลักษณะเฉพาะเช่นกัน
นั่น คือ วัดบุปผาราม วัดในเมืองโบราณของเชียงใหม่
แต่ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเป็ดโดนัลด์ อยู่ด้วย ฮาาาาา
ทำไม เป็ดโดนัลด์ ถึงควรเข้ามาอยู่ตรงเน้....
1
มีวัดขนาดใหญ่และขนาดเล็กมากมายในเมืองโบราณของเชียงใหม่
และมักมีสไตล์เป็นของตัวเอง
ผมสำรวจวัดไปตลอดทาง ด้วยชอบสไตล์ของวัดเหล่านี้มาก ทั้งวัดเชียงมั่น
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงในจังหวัดเชียงใหม่
มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราชกุฏาคาร วัดโชติการาม
เมื่อเข้าวัดก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนัก
จนหันกลับมาที่ห้องโถงใหญ่เจอหอพระนี้ ตื่นตาตื่นใจจริงๆ!
สวยมาก! จนผมกดถ่ายรูปต่ออีกหลายใบ
ผมต้องการบันทึกทุกมุม และทุกมุมรู้สึกว่ามันมีความงามที่แตกต่างกัน!
และยังมีที่ภาพถ่ายที่ค้างอยู่หน้าวัดเจดีย์หลวงอีกมาก​ ที่ยังไม่ได้ลงให้ชมกัน
ใกล้ฝนตก... ท้องฟ้าจึงมืดไปหน่อย เมื่อเราไปถึงวัดพระสิงห์
ว่ากันว่า วัดพระสิงห์ เป็นวัดที่อนุรักษ์ไว้ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในวัดเชียงใหม่
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร
วัดพระสิงห์ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่
เป็นวัดที่ประดิษฐานพระสิงห์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา
ต่อมาก็ไปกันที่ ปางช้างแม่วาง
อันนี้ผมจองออนไลน์เมื่อสามเดือนที่แล้ว รถมาตรงเวลาตอนเช้า ประเทศไทยยังเหมาะมากสำหรับการท่องเที่ยว( ฟรี )ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กทุกวัยที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก(จนผมอายยย)
1
บริการสำหรับการเดินทางฟรีนั้น ดูดีมากๆ อ้อยฟรีถึงสองตะกร้าสำหรับให้อาหารแก่ช้าง หรือซื้อกล้วยในราคา 20 บาท
ใช้เวลาขี่ช้างไม่นาน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที มีร้านผลไม้สองร้านริมถนนซึ่งขายถุงละ 20 บาท
เราได้เรียนรู้ทักษะของพวกเขา(ช้าง) ถุงพลาสติก จะถูกเป่าทิ้งด้วยจมูกของเขาและปฏิเสธที่จะไป หากเราไม่ทิ้งในที่ถูกต้อง(ถังขยะ)
สุดท้ายช้างตัวใหญ่กับช้างตัวเล็ก 2 ตัวอาบน้ำให้ทุกคน
ทุกคนแช่น้ำอย่างสนุกสนาน ข้างก็สนุกสนาน ส่ายหัวพ่นน้ำใส่จนเปียกโชกไปตามๆกัน
จบทริปช้าง รถมารับและก็เดินทางกลับไปที่เมืองโบราณ
จากเมืองโบราณนี้ ผมเดินไปรอบ ๆ ที่ถนนเล็ก ๆ
เดินไปรอบ ๆ พบอีกวัดหนึ่งถูกพบอยู่ข้างถนน และผมพบป้ายชื่อว่าวัดพันเตา
ที่ทำจากไม้สักมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดพันเตานี้ติดกับวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
มีพระอุโบสถ์เป็นไม้ทั้งหลังสวยงามจริงๆครับ
1
และคนที่นี่บอกว่าอย่าพลาดตลาดกลางคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่มีชื่อเสียงในเชียงใหม่ นะจ้าวววววว...
ไม่แอ๋ว(เที่ยว)​ที่นี่แล้วจะเสียใจ แล้วพบกันครั้งหน้านะครับ
โฆษณา