Blockdit Logo (Mobile)
หนังสะเด่าส์ - เพลงสะเด็ด
•
27 ธ.ค. 2021 เวลา 12:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รายได้หนังในญี่ปุ่นปี 2021 หนังฮอลลีวูดทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 8 ขณะที่งานอะนิเมะครองหัวแถว
จากรายงานธุรกิจภาพยนตร์ของญี่ปุ่นปี 2021 จากวาไรตี้ ซึ่งเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอเมริกาเหนือ ปีนี้หนังเจ้าถิ่นโดยเฉพาะงานอะนิเมะ กลายเป็นเจ้าตลาด จากตัวเลขการจัดอันดับของ Pick Scene รวมถึงรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศ แสดงให้เห็นว่า ‘Evangelion: 3.0+1.0 Thrice Upon a Time’ ที่ออกฉายไปเมื่อ 8 มีนาคมที่ผ่านมา คือหนังที่ทำเงินสูงสุดในปีนี้ ด้วยตัวเลขระดับ 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งการประกาศอย่างเป็นทางการของ สมาคมผู้อำนวยการสร้างแห่งญี่ปุ่น (the Motion Picture Producers Association of Japan – Eiren) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
สำหรับ ‘Evangelion: 3.0+1.0 Thrice Upon a Time’ เป็นอะนิเมะไซ-ไฟ ที่เขียนบทและกำกับโดย อันโน ฮิเดกิ โดยสตูดิโอ คารา ของเขาเป็นผู้อำนวยการสร้าง ตัวหนังเป็นงานเรื่องที่ 4 และเป็นเรื่องสุดท้ายของหนังชุด ‘Rebuild of Evangelion’ ของฮิเดกิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานภาคต่อ ‘Neon Genesis Evangelion’
ที่น่าสนใจก็คือ สามอันดับแรกของหนังที่ได้เงินมากที่สุดในปีนี้ของญี่ปุ่นล้วนเป็นงานอะนิเมะ อันดับ 2 เป็นปฏิบัติการล่าสุดของนักสืบโคนัน ‘Detective Conan: The Scarlet Bullet’ ที่ทำเงินไป 67.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อันดับ 3 เป็นงานอะนิเมะ ไซ-ไฟแฟนตาซี ของปรมาจารย์อะนิเมะ โฮโซดะ มาโมรุ ‘Belle’ ทำรายได้ 58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2000 ที่งานอะนิเมะครองสามอันดับแรกหนังทำเงินสูงสุดประจำปีของญี่ปุ่น
หนังที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ญี่ปุ่น ที่ครองอันดับสูงที่สุดได้แก่ ‘F9: The Fast Saga’ อยู่ในอันดับ 8 ทำรายได้ 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปีนี้มีหนังจากฮอลลีวูดแค่ 5 เรื่องเท่านั้นที่ทำเงินได้มากกว่า 1 พันล้านเยน หรือ 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่การันตีว่านี่คืองานฮิตในญี่ปุ่น โดยงานของดิสนีย์ของมาร์เวลต่างก็ทำรายได้น่าผิดหวังในปีนี้
ในอันดับอื่น ๆ ของสิบอันดับแรก มีถึง 5 เรื่องที่เป็นหนังซึ่งมีโตโฮ บริษัทภาพยนตร์อายุยาวนานของญี่ปุ่นเป็นผู้จัดจำหน่ายหรือร่วมจัดจำหน่าย ขณะที่วอร์เนอร์ บราเธอร์ส คือบริษัทต่างประเทศที่ทำได้ดีที่สุด โดยหนังที่สองบริษัทจัดจำหน่ายร่วมกัน และเป็นงานสร้างของญี่ปุ่นได้แก่ ‘Tokyo Revengers’ ทำเงิน 39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในอันดับ 4 และอันดับ 5 ‘Rurouni Kenshin The Final’ - 38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“การปล่อยฉายพร้อมกันทั้งในโรงภาพยนตร์และสตรีมมิง หรือการที่ช่องว่างในการปล่อยฉายของโรงและสตรีมมิงลดลง ทำให้ผู้ชมมีทางเลือกที่กว้างขวางกว่าเดิม” โอตากะ ฮิรุ บอกกับวาไรตี “ซึ่งกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่เร่งให้ความสนใจในการชมที่โรงลดลง โดยไม่ใช่แค่หนังดิสนีย์ แต่เป็นหนังฮอลลีวูดทั้งหมด” โอตากะยังคาดว่า ส่วนแบ่งในตลาดของหนังญี่ปุ่นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 80% ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว ที่อยู่ในระดับ 76% แล้วถ้าย้อนดูในปี 2020 มีหนังฮอลลีวูดทำเงินติดท็อปเทนถึง 3 เรื่อง และในปี 2019 ก่อนโรคระบาดจะกระหน่ำ มีถึง 6 เรื่อง
โอตากะยังเสริมด้วยว่า รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในปี 2021 น่าจะอยู่ที่ราว ๆ 1.36 – 1.4 พันล้านเหรียญ ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2020 ถึง 120% แต่ก็น้อยกว่าปี 2019 ปีก่อนโรคระบาดมาเยือนราว ๆ 60%
“การระบาดส่งผลกระทบอย่างมากต่อบ็อกซ์ออฟฟิศ” โอตากะให้ความเห็น “แต่ไม่มีการปิดโรงหนังทั่วประเทศแบบปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นความรุนแรงเลยน้อยกว่าในปี 2020” ส่วนสถานการณ์ในปีหน้า โอตากะบอกว่า “มีหนังฮอลลีวูดที่เรียกความสนใจ ทุนสูง มากขึ้นแน่ ๆ เมื่อเทียบกับปี 2021 ผมคาดว่าฮอลลีวูดจะโต้คืน”
THE SILENT SEA สัปดาห์สุดท้ายของปี เน็ตฟลิกซ์ปล่อยที่เด็ดรับคริสต์มาส ด้วยซีรีส์ระทึกขวัญ/ ไซ-ไฟ การผจญภัยในอวกาศ ว่าด้วยเหตุการณ์ในอนาคต ปี 2075 โลกกำลังจะกลายเป็นทะเลทราย เกิดสภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำ ทำให้ต้องส่งทีมพิเศษไปเก็บตัวอย่างลึกลับ จากศูนย์วิจัยบนดวงจันทร์ที่ถูกทิ้งร้างในบริเวณที่เรียกว่า “ทะเลสงัด” จับ กงยู ปะทะ แบดูนา อ่านรายละเอียดของซีรีส์ได้ที่นี่
‘กงยู’ พบ ‘แบดูนา’ เดินทางสู่ศูนย์วิจัยร้างบนดวงจันทร์ ในซีรีส์ไซ-ไฟ, ระทึกขวัญ ‘The Silent Sea’
อ่านเพิ่มเติม
gqthailand.com
‘กงยู’ พบ ‘แบดูนา’ เดินทางสู่ศูนย์วิจัยร้างบนดวงจันทร์ ในซีรีส์ไซ-ไฟ, ระทึกขวัญ ‘The Silent Sea’
นอกจากจะมีหนังยาวทั้งจากฮอลลีวูด, ยุโรป หรือแถวเอเชีย รวมถึงบ้านเราให้ได้ชม เน็ตฟลิกซ์ยังมีซีรีส์หลากหลายชาติ หลากหลายแนวทางปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะซีรีส์เกาหลี ที่ปีนี้ (2021) มีงานฮิตระเบิดไม่ขาดตอน ไม่ว่าจะเป็น Squid Game, Hellbound, My Name, Vincenzo, Sweet Home, Hometown Cha-Cha-Cha
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา