28 ธ.ค. 2021 เวลา 08:27 • คริปโทเคอร์เรนซี
รอยร้าวใน Bitmain ผู้ผลิตชิปขุดคริปโต ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Bitcoin ถูกสร้างมาเพียงแค่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งคนคิดค้นไม่เคยระบุตัวตน ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร
เขาต้องการให้เป็นแบบนี้ เพราะหากบิตคอยน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีจำกัด อาจทำให้เฟ้อจนมูลค่าหายไปจากตลาดได้
2
การจำกัดจำนวนเหรียญแค่ 21 ล้าน ก็เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต
2
และคุณสมบัติที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่นเดียวกับทองคำ มูลค่าของบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บิตคอยน์กับทองคำ มีความแตกต่างที่เหมือนกันในเรื่องของ “การขุด”
ทองคำ จะทำให้ได้มา ต้องมีการลงทุนสร้างเหมืองขุดเจาะ จ้างนักวิทยาศาสตร์ จ้างวิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ จากนั้นจึงนำแร่ทองคำขึ้นมาผ่านกระบวนการหลอม
บิตคอยน์ จะทำให้ได้มาต้องผ่านการขุดโดยใช้กำลังไฟฟ้า ผ่านการ์ดจอ หรือเครื่องขุดโดยเฉพาะ
2
บนโลกนี้มีเหมืองทองคำอยู่ไม่กี่แห่ง แน่นอนว่าใครเป็นเจ้าของเหมืองจะต้องมีความมั่งคั่งอย่างมหาศาล
1
แล้วถ้าเป็นเจ้าของเหมืองบิตคอยน์ล่ะ จะมั่งคั่งแค่ไหน ?
2
Zhan / Wu
คุณ Jihan Wu อ่านเป็น “จี้ฮั่น หวู่” ชาวจีนที่เคยเป็นนักวิเคราะห์การตลาดสำหรับการลงทุนภาคเอกชน
หวู่รู้จักกับบิตคอยน์ในปี 2011จาก White Paper ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาจีนครั้งแรก บนเว็บไซต์ชื่อว่า Babite โดยคุณ Chang Jia
หวู่หลงไหลในโครงสร้างบิตคอยน์ จนนำไปสู่การระดมทุนจากคนใกล้ตัว รวมถึงกการสนับสนุนจากครอบครัว 100,000 หยวน เพื่อซื้อบิตคอยน์ 900 BTC
ในปี 2012 หวู่ลงทุนใน ASICMINER บริษัทขุดบิตคอยน์แรกที่ผลิต ASIC ที่ใช้ในการขุดบิตคอยน์ทั่วโลก
หวู่ประสบความสำเร็จมากในช่วงแรก บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่าพันเท่าให้กับนักลงทุน แต่ต่อมาหวู่กับพลาดท่าให้กับการลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ให้กับอีกบริษัท ซึ่งเขาเสียเงินจำนวนมากในการลงทุนครั้งนี้
เขาจึงกลับมาตั้งหลักใหม่ ด้วยการศึกษาข้อมูลทางเทคนิค จนนำไปสู่การสร้าง Bitmain ในปี 2013
หวู่ติดต่อไปยัง Micree Zhan อดีตวิศวกรไมโครอิเล็กทรอนิกส์แห่งมหาวิทยาลัยซิงหัว และเป็นนักธุรกิจ บริษัทผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณทีวี
หวู่ชักชวนให้เพื่อนคนนี้มาร่วมก่อร่างสร้าง Bitmain ไปด้วยกัน ด้วยความที่ว่าชานสนใจคริปโตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาเลยตอบตกลงทำธุรกิจร่วมกัน
1
ทั้งคู่พัฒนา Antminer S1 ซึ่งเป็นเครื่องขุดบิตคอยน์เครื่องแรกของบริษัทได้สำเร็จ และเริ่มขายหลังจากนั้นไม่นาน
แต่แล้วในปี 2014 บริษัทก็พบกับยอดขายตกต่ำลง เนื่องจากได้รับความไม่ไว้วางใจ หลังจากมีข่าวการโจรกรรมเกี่ยวกับบิตคอยน์ในญี่ปุ่น
ทว่า Bitmain ก็ยังยืนหยัดเดินต่อมาได้
ปี 2015 พวกเขาพัฒนาเครื่องขุดบิตคอยน์รุ่นใหม่ชื่อว่า Antminer S5 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดที่มาพร้อมกับการฟื้นตัวของบิตคอยน์
จนนำไปสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Bitmain กลายเป็นบริษัทชิปคอมพิวเตอร์สำหรับขุดบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2017 มีรายได้สูงถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่
Jihan Wu ถือหุ้น 20%
Micree Zhan ถือหุ้น 36%
ในปี 2018 หวู่ได้รับการสำรวจจาก Hurun Report ให้เป็นเศรษฐีคริปโตเคอเรนซีที่มั่งคั่งเป็นอันดับ 2 ในจีน มีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าโดยประมาณ 2,390 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองจากเพื่อนคู่ซี้ Micree Zhan
ทว่าในปี 2019 หวู่ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอร่วมของ Bitmain มาก่อตั้ง Matrixport กระดานเทรดและบริการทางการเงินดิจิทัล ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์(เพื่อเลี่ยงการหามซื้อขายคริปโตในจีน)
5
ปี 2020 หวู่ออกจาก Bitmain อย่างเป็นทางการด้วยเหตุผลด้านความขัดแย้งกับชาน
รอยร้าวของทั้งคู่ ส่งผลให้แพลตฟอร์มบริการขุดคริปโตชื่อว่า BTC.com และบริการขุดบนคลาวด์ชื่อว่า Bitdeer แยกตัวออกจาก Bitmain โดยที่หวู่รับมาบริหารต่อ
ภายหลัง BTC.com ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ใช้ชื่อย่อ BTCM
4
ในเรื่องความมั่งคั่งของแวดวงคริปโตจีน หวู่คือคนที่เป็นรองชานมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น การจัดอันดับของสื่อต่างๆ
อย่างไรก็ดี ถ้าว่ากันตามศักยภาพจริงๆ ทั้งคู่มีความถนัดในด้านที่แตกต่างกันไป
หวู่คือคนที่มีไอเดีย เป็นคนทำการตลาด เผยแพร่ Bitmain ให้เป็นที่รู้จัก
ขณะที่ชานถนัดในเรื่องของงานวิศวกรรม มีสถานที่สำหรับผลิต ทำธุรกิจเป็นทุนเดิม
ถ้าทั้งคู่ไม่ร่วมมือกันในวันนั้น ก็คงไม่มี Bitmain ผู้ผลิตชิปขุดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดให้เห็นในวันนี้..
1
โฆษณา