🔥ข่าวดังเรื่อง🔥 น้องเสือ - ลูกชายเสกโลโซ ขออำนาจศาลคุ้มครอง และขอให้ศาลสั่งตรวจสุขภาพจิต กานต์ ผู้เป็นมารดา
เรื่องพ่อแม่ ในสังคมไทยละเอียดอ่อนมาก คำว่า พ่อแม่คือพระในบ้าน เป็นคำกล่าวเสมอมาในเชิง บุตรธิดา ควรกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีเป็นสิ่งแรก
แต่ไม่เคยมีใครบอกว่า “ถ้าพ่อแม่รังแกฉัน” ควรต้องทำอย่างไร?
หากติดตามข่าวมาตลอดจะพบว่า เสกโลโซ นักร้องชื่อดัง มีข่าวกับภรรยา เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตหลายครั้ง ส่วนใหญ่ กานต์-ภรรยา จะเป็นคนทำเรื่องซึ่งควรเป็นเรื่องในบ้าน ให้เป็นเรื่องนอกบ้าน เป็นอาหารอันโอชะของชาวบ้านร้านตลาดเสมอมา
เราไม่มีทางรู้ว่า เด็ก ๆ 3 คนที่เป็นลูกของทั้งคู่ต้องโดนผลกระทบทางตรงด้านสภาพจิตใจอย่างไรบ้างตั้งแต่เด็ก แต่ที่แน่นอนคือเด็ก ๆ กลายเป็นเป้าทางสายตาของสังคมเสมอมา จากเหตุที่แม่ใช้เป็นตัวประกันในการต่อสู้กับผู้เป็นพ่อ
สิ่งที่สื่อไทยชอบทำคือ สัมภาษณ์เรื่องที่ไม่ควร กับคนที่ไม่ควร มีครั้งนึงที่เสกโลโซ เลิกกับกานต์ แล้วเปิดตัวภรรยาใหม่ จากนั้นก็มีการกระทบกระทั่งจากกานต์ทางสื่อโซเชี่ยลเสมอ แต่ก็มีข่าวเสกป่วยเป็นไบโพล่า เมียเก่าเมียใหม่และน้องเสือลูกชายคนโต ต้องร่วมมือกันหลอกล่อพ่อให้เข้ารับการรักษา
แล้วสื่อก็ไปตามสัมภาษณ์น้องเสือ!!
ตอนนั้นผู้เขียนระอากับสื่อบันเทิงไทยมาก เสี้ยมเรื่องผัวเมียก็เรื่องนึง แต่นี่ไปสัมภาษณ์ลูกเค้าว่ารู้สึกอย่างไร? บ้าไปแล้ว พ่อเป็นไบโพล่า แม่ซึ่งเป็นเมียเก่าที่พ่อหย่าแล้ว ตามรังควานเมียใหม่พ่อ ทำไปทำมา จับมือกันหลอกพ่อส่งจิตแพทย์
จะให้ลูกรู้สึกยังไง? โว๊ะ!!
แต่น้องเสือ ในตอนนั้นอายุเพิ่งพ้น 20ปี มาได้ไม่นาน วางตัวดีมาก ไม่พูดให้ร้ายใครสักคำไม่ว่าพ่อหรือแม่ แถมให้เกียรติเมียใหม่พ่อ เรียกพี่ เรียกคุณ ทุกคำ พร้อมบอกว่า ไม่ว่าอย่างไรพ่อก็คือพ่อ แม่ก็คือแม่ ยอมรับการตัดสินใจของทุกฝ่าย
ข่าวล่าสุดที่น้องเสือต้องวิ่งไปขอความคุ้มครองศาล เหตุมาจาก กานต์-แม่ของน้องเสือ ใช้สื่อโซเชี่ยลโจมตีแฟนสาวของน้องเสือในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง และลงภาพถ่ายพร้อมปืนเชิงข่มขู่
ทำให้น้องเสือและแฟนรู้สึกไม่ปลอดภัย จนต้องพึ่งศาล สรุป 5 ข้อดังนี้
1. ห้ามมิให้เข้าใกล้ในลักษณะเข้ามาคุกคามทำร้ายร่างกาย
2. ห้ามข่มขู่คุกคามทำให้เกิดความกลัวและด่าทอ
3. ห้ามโพสต์ประจานและใส่ร้ายทางสื่อทุกชนิด
4. ห้ามไม่ให้มีการจ้างบุคคลใดติดตามพฤติกรรม
5. ขอให้มีการตรวจสภาพจิตเวชมารดา
การที่น้องเสือหาทางออกในเรื่องความขัดแย้งกับแม่ด้วยการพึ่งศาลแบบนี้ ผู้เขียนคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
เพราะเรื่องมันน้ำท่วมปาก จะออกมาโต้ตอบแม่ตามสื่อโซเชี่ยลที่แม่ใช้ประจานตนเองและแฟน ก็เหมือนสาวไส้ให้กากิน
จะให้หันหน้าไปหาพ่อก็ดูเหมือนพ่อเองก็ยังเอาตัวรอดจากแม่ได้ยาก ดูจากประวัติที่ผ่านมาที่สุดท้ายก็หนีกานต์ไม่พ้น และยังโดนยึดสื่อโซเชี่ยลในมือให้เมียโพสต์ได้ตามใจอีกต่างหาก
และแม้สื่อจะไปสัมภาษณ์น้องเสืออีกครั้ง น้องก็ยังสุภาพและไม่ว่าร้ายใครอีกเช่นเคย ให้เหตุผลว่า รู้สึกไม่ปลอดภัย กังวลใจ และระแวงตลอดเวลา
แต่ไม่สามารถแจงรายละเอียดได้ ทุกวันนี้ทุกข์ใจมากไม่ได้อยากทำร้ายครอบครัว ไม่ได้จะเลือกแฟนก่อนแม่แค่อยากให้ทุกฝ่ายปลอดภัย ถ้าทุกอย่างดีขึ้นก็พร้อมกลับบ้าน แต่ก็ไม่รู้จะอีกนานแค่ไหน
ในคอมเมนท์โลกโซเชี่ยลส่วนใหญ่เข้าใจน้องเสือที่เลือกปฏิบัติแบบนี้ เพราะเห็นข่าวของครอบครัวนี้มานานหลายปี เห็นความขึ้น ๆ ลง ๆ ของแม่ ความไม่อยู่กับร่องกับรอยของพ่อ ซึ่งคนกลางอย่างลูกน่าสงสารที่สุดที่ต้องอยู่ในบ้านที่มีแต่ความขัดแย้งและไม่มั่นคงตลอดเวลา - ข่าวนี้คนจึงเห็นใจน้องเสือเป็นส่วนมาก
แต่ก็ยังมีบางคนที่มองว่า น้องเสืออกตัญญูเลือกทำร้ายจิตใจแม่เพราะว่าติดผู้หญิง ไม่นึกถึงบุญคุณแม่ที่อุ้มท้องมาเก้าเดือน ส่งเสียให้เรียนถึงเมืองนอกเมืองนา มรดกพกห่อก็แบ่งให้ มีชีวิตที่ดีอยู่ทุกวันนี้ได้ก็เพราะแม่แท้ ๆ ยังทำกับแม่ได้
ในฐานะที่เป็นแม่คน ผู้เขียนขอตอบสั้น ๆ ว่า ไม่ใช่แม่ทุกคนจะเป็นแม่ที่ดีที่เห็นแก่ความสุขลูกเป็นสำคัญ แม่บางคนก็เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ และแม่แบบนั้นอย่าว่าแต่ให้ลูกกตัญญูเลย ต้องชดใช้คืนให้ลูกหลายเท่าล่ะไม่ว่า
อ้างอิงข่าว : https://www.komchadluek.net/entertainment/498911
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
