#ปล่อยปลิง
การรักษาโรคตามตำราแผนปลิงของไทย
ย้อนไปในอดีต สมัยที่ผมเรียนแผนไทยใหม่ๆ
เคยได้อ่านคัมภีร์แผนไทยหลายๆ คัมภีร์
ได้พบการเอ่ยถึงวิธีการรักษาโรคต่างๆ
โดยใช้กรรมวิธีในการ "ปล่อยปลิง" หรือ "วางปลิง"
เคยถามอาจารย์ว่า
เดี๋ยวนี้ ยังมีคนใช้การปล่อยปลิงอยู่หรือเปล่า?
และเป็นวิธีการรักษาที่ดีไหม?
อาจารย์ตอบว่า เป็นวิธีการรักษาที่ดีและได้ผล
และมีการจดบันทึกไว้ในตำราแผนปลิงโดยเฉพาะ
อาจารย์ยังบอกอีกว่า
ตำราแผนปลิงที่เป็นสมุดข่อยหรือใบลานบางเล่ม
ได้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่างประเทศ
หรือนักสะสมตำราเก่าในต่างประเทศ ก็มี
ส่วนของไทยที่ยังเหลืออยู่
ก็อยู่ในหอสมุดแห่งชาติบ้าง
กล่าวถึงอยู่ในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฯ บ้าง
อยู่ในศิลาจารึกวัดราชโอรสารามราชวรวิหารบ้าง
หรือถ้าจะให้หาอ่านได้อย่างง่าย
ก็ให้ไปเปิดหนังสือ "ตําราแผนปลิงของไทย"
ที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ จัดทำขึ้นมา
และเมื่อได้ไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม
ก็พบว่าในต่างประเทศ ก็มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย
จนเกิดความสะท้อนใจว่า
เรามีทั้งตำรา อีกทั้งเป็นประเทศที่ส่งออกปลิง
แต่ทำไมถึงไม่ค่อยเห็นการใช้วิธีการวางปลิงกัน
"ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะกลับมาใช้เลยก็แล้วกัน"
หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลมาพอสมควร
อีกยังมีพร้อมทั้งวัสดุหลักอย่าง "ปลิง"
รู้จุดวางตามตำรา มีอาสาสมัคร และ มีตำรับยา
ก็เริ่มวางปลิงเลยแล้วกันครับ
ก่อนอื่นก็ต้องเริ่ม วางปลิงกับตัวเองก่อน
เปลี่ยนวิธีจากจับปลิงมาปล่อยตามจุดแบบตรงๆ
ก็นำมาใส่ในหลอดแก้วแทน แล้ววางลงจุด
ใส่ลงหลอดแก้ว นอกจากจะลดความน่ากลัวได้
ยังเป็นการกำหนดจุดให้ปลิงกัดได้ตรงตำแหน่ง
ถามว่า กลัวไหม? ตอนแรกก็กลัว
แต่ตอนนี้ก้าวข้าวผ่านความกลัวมาแล้ว
เมื่อได้ทำหลายๆ ครั้ง ก็รู้สึกธรรมดา
ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรมากมาย เจ็บน้อยกว่ายุงกัด
และไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ยอมให้ปลิงกัดเลย
จำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมเสียก่อน
ทั้งการคัดสายพันธุ์ การดูวันปล่อย เดือนปล่อย
อีกทั้ง ยังต้องซักประวัติการกินยา
และอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้ไข้ที่จะวางปลิงด้วย
ที่สำคัญ หลังการวางปลิงแล้ว
จะต้องมี "ยาทาปากปลิง" ด้วย
ความหมายคือ ปิดปากแผลที่ปลิงกัดนั่นเองครับ
ซึ่งได้ทดลองใช้ยาแบบพื้นบ้าน นั่นก็คือ ยาฉุน
และตำรับยาทาปากปลิงที่ระบุไว้ในตำราแผนปลิง
ยาทั้ง 2 ก็ใช้ได้ผลดี แต่สังเกตุว่า
ตำรับยาทาปากปลิง จะใช้ได้ดีกว่ายาฉุน
ส่วนในต่างประเทศ
จะใช้สารที่มีรสฝาดในการทาแผลปากปิง
ซึ่งต่างจากยาทาปากปลิงของไทย ที่ไม่ใช้ของฝาด
ก็เลยเลือกเชื่อกรรมวิธีแบบโบราณ
และเลือกใช้ยาแบบโบราณที่ครูบาอาจารย์เก่าแก่
จดบันทึกและรวบรวมไว้เสียดีกว่าครับ
#ตำรับยาทาปากปลิง
ประกอบด้วยตัวยา คือ
พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี และ ขมิ้นอ้อย
ตำรับยาทาปากปลิง
นำทั้งหมดมาบดเป็นผง
แล้วก็ผสม น้ำมันงา กับ เกลือ 1 รำหัด
ใช้ทาปิดปากแผลที่ปลิงกัด ให้เลือดหยุดไหลครับ
ซึ่งยาทาปากปลิง มีอยู่หลายตำรับ
ก็สามารถไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ
ปล.
-วางปลิงเพื่ออะไร?
-การเลือกสายพันธุ์ปลิง?
-การเลือกวันและเดือนในการวางปลิงที่เหมาะสม?
-วิธีการทำให้ปลิงสำรอกพิษ?
-ตำแหน่งในการวางปลิงเพื่อรักษาโรคต่างๆ?
-ระยะเวลาในการวางปลิงแต่ละครั้ง?
สิ่งเหล่านี้
ต้องไปหาอ่านและฝึกปฏิบัติเพิ่มกันเองนะครับ
เพราะไม่สามารถอธิบายในโพสต์นี้ได้หมดครับ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
