Blockdit Logo (Mobile)
ฟังไปฟังมา-FPFM
•
30 ธ.ค. 2021 เวลา 15:09 • ดนตรี เพลง
Top 12 Thai Albums of 2021 (LP & EP)
ถึงแม้ว่าปีนี้ศิลปินไทยขยันปล่อยซิงเกิ้ลเป็นว่าเล่น แต่ก็มีข้อจำกัดในการปล่อยอัลบั้มจริงๆจังมากพอสมควร จากที่นานๆทีจะออกอัลบั้ม กลายเป็นว่ายากลำบากเข้าไปใหญ่ และนี่คือโพสต์ year end list โพสต์ที่สาม ส่งท้ายปี 9 อัลบั้มไทยระดับท็อป คัดสรรแบบเน้นโดนใจ โดดเด่น และฟังบ่อยเป็นหลัก มีบางอัลบั้มที่เราได้รีวิวไปแล้ว แต่สำหรับอัลบั้มไหนที่ไม่ได้รีวิวในเพจ พูดถึงพอสังเขปตามระเบียบครับผม รวบมาทั้งขนาด EP และ LP Album มาให้อย่างจุใจ หวังว่าปีหน้าวงการเพลงไทยจะกลับมาคึกคักมากกว่านี้ แน่นอนว่าผู้อ่านจะได้เห็นคอนเทนท์เพลงไทยจัดเต็มกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน สำหรับปีนี้เพลย์เซฟเพื่อปากท้องไปก่อนครับผม
หมายเหตุ: อัลบั้มดังต่อไปนี้เป็นอัลบั้มที่ปล่อยในช่วง 1 ธันวาคม 2563 - 30 พฤศจิกายน 2564
***การจัดอันดับดังกล่าวเป็นมุมมองส่วนตัว ไม่มีเจตนาด้อยค่าผลงานเพลงของใครคนใดคนหนึ่งแต่อย่างใด
12.The Story In Crime Scene (EP) - Conductor
หนึ่งในวงเมทัลที่มาฝากเพลงกับเพจผม และได้พูดถึงในช่วง #FUNGINBOX บ่อยพอสมควร เห็นในความ modern ที่ฉายแสงออกมาจนสัมผัสได้ ลูกเล่นและการเดินคอร์ดที่ซับซ้อนกว่าเมทัลวงอื่นๆ มีแนวโน้มว่าพวกเขาเป็นเมทัลที่ไม่ได้แท้ด้วยแนวทาง เพิ่มเติมด้วยอุดมการณ์หัวก้าวหน้า พยายามเสาะหาความแตกต่างในงานเพลงแนวนี้จนสังเกตได้ ผลงานอีพีชุดแรกชุดนี้พวกเขาวางตีมอัลบั้มที่ไปทาง psycho-horrorcore ที่เหมาะเหม็งกับสายว๊ากกรีดกราย แค่ชื่ออีพีก็ซื้อใจได้แล้ว มันต้องมี something more แน่ๆ สุดท้ายพวกเขาก็มอบความเขย่าขวัญได้เร้าใจยิ่งนัก ถ้าได้เงินทุนหนาๆมา สงสัยคงมาแบบ industrial เลยนะนั่น
11.LoverFriend (EP) - Rosalyn
นี่คือตัวแทนเพื่อนที่แสนดีที่โคตรติดความแพง ความอินเตอร์ การมองความรักของพวกเขาแม่งโคตรฝรั่งเลย ชอบใครก็บอกตามตรง ปรารถนาใครก็จัดเลย เพลย์บอยเอามากๆ อย่างไรก็ตามเทสต์ทางดนตรีโคตรสูงส่ง ไม่ได้มาเวย์ป็อป-ร็อค แบบชาวบ้านเค้า เขาชอบฟังเพลงโซล ล่องลอยแบบไซคลิเดลิก โรแมนติกแบบบรูโน่ มารส์ นั่นแหละครับคือตัวตนของพวกเขา
รีวิวอัลบั้ม (Ver. Blockdit) >>> https://www.blockdit.com/posts/618b586662205705eab5a82e
10.EP Dad-D - Vitamin D From The Sun
รู้สึกโชคดีจริงเชียวที่ได้รู้จักวงนี้ เพิ่งรู้จักตอน Lido Showa เห็นถึงความเฉิดฉาย สัมผัสถึงความครื้นเครง แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สนุกโดยที่ไม่ลืมโลกแห่งความเป็นจริงซะด้วย โลกสวยในแบบไม่เพ้อฝัน เป็นการมอบพลังบวกที่เยียวยาความเหนื่อยล้าของผู้ฟังได้ดีเลยทีเดียว นี่ขนาดแค่ 4 เพลงยังถูกโฉลกได้มากถึงเพียงนี้
แค่เพลงแรก #แจ่มฟ้า ก็ fresh start เลย เค้าอยากให้คนฟังวางเรื่องหนักๆลงก่อนซักครู่ แล้วออกไปรับแสงแดดธรรมชาติบ้าง #โลกอิสระ ที่อยากให้ enjoy กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ต่อให้ไม่ได้ไปไหน ก็ให้เพลงของเขาเป็นตัวช่วยได้ ชอบตรงที่สอดแทรกเนื้อหาจำพวกที่ว่า เออเราเข้าใจว่ะว่า everyday life ที่ผ่านมามันเหนื่อยหน่ายน่าเบื่อแค่ไหน อย่างน้อยก็ไม่ได้มาในรูปแบบนามธรรมเหมือนเพลงให้กำลังใจหลายๆเพลงซะทีเดียว หมือนคนแต่งเพลงเค้าเข้าใจว่า เราผ่านอะไรมา โลกนี้ไม่ได้มี solution แค่ให้เรา สู้ๆ อย่าไปท้อถอย เพียงอย่างเดียว
#นักสำรวจ มันไม่ใช่แค่เพลงที่อยากให้เราเปิดหูเปิดตา แต่มันคือตัวแทนของคนที่กำลังเคว้งคว้างสับสนงุนงงว่า ความหมายของชีวิต คืออะไรกันแน่ ดูเป็นการไม่พยายามยัดเยียดคำตอบ และเพลง #เวลาที่ร่ำลา ที่ให้อารมณ์อาทิตย์อัสดง มีพบก็ต้องมีจาก เวลาสนุกก็ต้องมีเวลาที่หมดลง พวกเขาเปรียบเหมือน Somkiat เวอร์ชั่น Raggae Surf Music อยู่ไม่น้อย ไม่อยากให้พลาดเพลงมอบพลังบวกส่งท้ายปีแบบนี้
9.Willishamara (วิลิศมาหรา) - Whal & Dolph
สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของคู่หูวงปลาที่ใช้ความเป็นอคลูสติคป็อปซอฟท์ๆในการฆ่าคนฟังให้ได้ hurtful กันเล่นๆจนได้สมญานามว่า วงปลาผู้ใจร้าย โดยไม่ต้องสงสัย เพียงแต่การกลับมาของเขาคราวนี้ยกระดับสเกลให้ดูแพงขึ้น ถ้าลองจินตนาการพัฒนาการแต่งตัวจากสองหนุ่ม จากเสื้อทะเลฮาวาย มาเป็นชุดสูทออกงานกาล่าดินเน่อร์ยังไงยังงั้น นั่นแหละครับคือรูปลักษณ์ของงานเพลงชุดนี้ ทั้งนี้พวกเขายังคงเป็นวงป็อปแถวหน้าที่ยังคงรักษาซิกเนเจอร์ไม่เสื่อมคลายง่ายๆ
รีวิวอัลบั้ม (Ver Blockdit) >>> https://www.blockdit.com/posts/60895f574b31d10ed2a24f0c
8.The First Album - 4EVE
Trick or Treat (EP) - 4EVE
ความหวังของหมู่บ้าน T-Pop ที่พรั่งพรูด้วยทรัพยากรค่ายและบุคลากรที่พร้อมผลักดันเต็มที่ เหนือสิ่งอื่นใด 7 สาวก็มีดีไม่แพ้กันทั้งการเต้น การร้อง รวมถึงคาแรคเตอร์ที่แตกต่างในแต่ละคนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเดบิวท์อัลบั้มแรกและอีพีอัลบั้มต้อนรับฮาโลวีนก็ถูกจริตสวยๆปังๆทั้งนั้น เดบิวท์อัลบั้มที่ดีเกินคาดเป็น first impression ในขณะที่อีพี Trick or Treat มีความทดลองหน่อยๆด้วย รวมถึงสกิลการร้องของน้องที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆด้วย อีกทั้งยังมีการคุมตีมที่เข้าคอนเซ็ปท์ได้อย่างแนบเนียน เชื่อว่าทางค่ายน่าจะผลักดันน้องไปสู่จุดที่ว้าวซ่าได้อีกแน่นอน
รีวิวอัลบั้ม (Ver Blockdit) >>> https://www.blockdit.com/posts/607a72f550e9660c4768e780
7.Not A Rapper - TangBadVoice
สามารถสมญานามได้ว่าเป็นแรปเปอร์อัจฉริยะคงไม่ overrated เกินไปนัก สกิลการเล่าเรื่อง การสัมผัสคำต่างๆรู้สึกว่าช่างคล้องจองเหลือเกิน แถมลื่นไหล switch สลับไปมาได้หลายคาแรคเตอร์ชนิดที่เออพี่แรปคนเดียวไปเลยก็ย่อมได้ หายากมากๆแรปเปอร์สาย storytelling แรปเองเออเองแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น #หมากแพง #เหตุด่วน และ #จิตแพทย์
เขาคือดาจิมยุคดิจิตอลโดยไม่ต้องสงสัย และยิ่งไปกว่านั้นเขาทำออกมาได้อย่างสร้างสรรค์โดยอยู่บนพื้นฐานแห่งความไม่หยาบคายได้ด้วย คาดหวังว่าเราคงจะต้องทึ่งไปกับคนที่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นแรปเปอร์ แต่จริงๆแม่งเก่งชิบหายไปอีกเรื่อยๆแน่นอน
6.It’s Gonna Be OK - Tilly Birds
ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของสามหนุ่มไฟแรงที่ขอท้าทายเส้นทางใหม่ของพวกเขาโดยที่ไม่ซ้ำรอยความสำเร็จเดิม เป็นมากกว่าความโอเคหรือดีอยู่ เชื่อว่าจะต้องท็อปฟอร์ม ยอมรับ 8 แทร็คยังไม่เต็มอิ่ม แต่ก็เก่งมากพอสำหรับการคัมแบ็คในรอบปีกว่าที่เร็วกว่าชาวบ้านเค้าจริงๆ
รีวิวอัลบั้ม (Ver Blockdit) >>>
https://www.blockdit.com/posts/61ab799ade872f0fc53bd674
5.WHEN YOU HAVE NOTHING TO DO JUST GO TO SLEEP - TELEx TELEXs
เป็นอัลบั้มซินธ์ป็อปที่ทำออกมาได้เต็มอิ่มที่สุดเท่าที่ผมเคยฟัง มีความวาไรตี้ไม่ซ้ำกรอบเดิม แถมไม่มีแนวโน้มที่จะเบื่อได้โดยง่ายเสียด้วย และดันเป็นอัลบั้มที่ปล่อยได้ถูกช่วงมากๆด้วยบริบทของเพลงที่แอบจะวนเวียนอยู่กับห้องนอน มีออกข้างนอกบ้านนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็วกอยู่ที่บ้านอยู่ดี ไม่ต่างกับการต้องใช้ชีวิตล็อคดาวน์อันแสนยาวนาน ออกไปข้างนอก แฮงค์เอ้าท์ได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น นับเป็นความเซ็งไม่น้อยที่การปล่อยอัลบั้มดังกล่าวกลับไม่ได้งัดเพลงไปใช้ในงานคอนเสิร์ตได้มากอย่างที่ควรจะเป็น เพราะติดอยู่กับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คืออัลบั้มไทยที่เป็นตัวแทนของสังคมยุค new normal อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รีวิวอัลบั้ม (Ver Blockdit) >>> https://www.blockdit.com/posts/602e6e5797e7c612a79a76eb
4.normalexotic : Thai Shoegaze and Related Genre Compilation, Vol.2 - Various Artist
ตั้งแต่ที่ได้สัมผัสกับโลกของ Shoegaze ผมเลยได้แนวเพลงที่ถูกจริตไปอีกแนว ติดใจกับซาวนด์ noise สากๆ สุ้มเสียงหลอนๆอมพะนำที่แปลกและแตกต่างจากแนวอัลเทอร์เนทีฟหรือร็อคทั่วไป ไม่มีความตายตัวใดๆนอกจากการหว่านล้อม surround ที่ทำให้เรา trippin’ ได้โดยง่าย ยิ่งเป็นอัลบั้มรวมศิลปินชุดนี้ มันคือศูนย์รวมความเจ๋งที่ศิลปินแนวๆนี้เค้าได้ปล่อยของออกมาอย่างเต็มที่จริงๆ นับถือเจ้าของโปรเจคต์ชุดนี้อย่างแรง เหมือนเขาเข้าใจคนประเภทเดียวกันที่ไม่สามารถโชว์ของได้โดยง่าย เนื่องจากแนวเพลงโคตรเฉพาะทาง คนไทยอย่างเราน้อยคนจะเก็ต แต่นี่คือการสร้างชมรมคนรัก Shoegaze มาไว้ด้วยกันเลย
หลงในความ noise หลอนหูนี้อย่างแรงจนอยากโดนอีก และเป็นช่องทางให้ติดตามศิลปินหน้าใหม่ หรือหน้าเก่าที่คุณอาจจะยังไม่รู้จักให้คุณได้ไปติดตามต่อ ซึ่งผมก็แอบเอาเพลงๆนึงในชุดนี้ไปติด Top 65 Thai Songs ประจำปีนี้ด้วย ถ้าอยากรู้ไปตามสืบเองอิอิ แต่ที่แน่ๆเจ๋งๆโดนๆทั้งนั้น หลากหลายคาแรคเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น TheBiirthdayParty, KUNST, JL Vaivai, Outside The Window น้องๆวงไอดอลก็มีด้วยอย่าง Finger Cross เรียกได้ว่านี่คือการรวบรวมวงดนตรี hidden gem ให้รอการค้นพบในแบบที่ต้องมีซักวงที่ซื้อใจคุณได้แน่นอน
3.Dark Dimension - MØLE The Explosion
หนึ่งขุนพลอิเล็กทรอนิกส์สุด underrated ที่พยายามไม่ฉายแสงมาก เปรียบเหมือนดาวเคราะห์ Kepler 22-B ที่รอการค้นพบในซักวัน พอได้ค้นพบแล้วคุณอาจถูกโฉลกกับพวกเขาก็เป็นได้ ด้วยทัศนคติเฮฮาและเปิดกว้างพอเลยทำให้การรังสรรค์ดูแตกต่างจากชาวบ้าน แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ติดตาม อัลบั้มนี้ชื่อดูน่ากลัวก็จริง แต่เชื่อเถอะมันคือประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่อยากให้ไปสัมผัสกัน
รีวิวอัลบั้ม (Ver Blockdit) >>> https://www.blockdit.com/posts/61717217372edd0f2817b08b
2.เรือสำราญอมตะ (EP) - Hugo
ถึงจะเป็นอีพีอัลบั้มกะทัดรัดแค่เพียง 6 เพลงเท่านั้น แต่มีอะไรให้พูดถึงเยอะมากจริงๆ เป็นคอนเซ็ปท์อัลบั้มที่แอบเล่นใหญ่ แต่ใช้วิธีเพลย์เซฟด้วยการเล่าเรื่องให้มันกระชับในรูปแบบหนังสั้นแทน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการไม่เลือกที่จะขยายความให้เวิ่นเว้อไปมากกว่านี้ เพราะนี่คืออัลบั้มเล็กๆของคนชื่อเล็กที่ฉายภาพโลกใบเล็กที่ดันเห็นความเป็นไปของสังคมได้อย่างครบถ้วน เป็น Snowpiecer เวอร์ชั่นไทยๆที่ไม่ได้ฉายภาพการก่อกบฏอย่างดุดันขนาดนั้น ไม่แน่ใจว่ามี Part 2 มั้ยแต่ก็อยากเห็นด้านนี้เหมือนกัน
อย่างไรก็ดีหลายๆเพลงก็ฉายภาพสังคมไทยจนอดเชื่อมโยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง #ลูกเรือ ที่แทรกดนตรีอีสานมาได้แนบเนียนมากๆ นึกถึงการที่คนบ้านนอกต้องมาทำงานที่เมืองกรุง #ห้องเครื่อง เพลงที่แอบดาร์คที่สุด นึกถึงชนชั้นแรงงานที่ทำงานเยี่ยงทาส ขับเคลื่อนด้วยดนตรีฮาร์ดร็อคอันเป็นตัวแทนเพลงของชนชั้นชายขอบ #กัปตัน อารมณ์คล้ายซาวน์ดแทร็คประกอบหนังที่มีดนตรีจำพวกทแวงมาเป็นฉากเปิดตัวละคร มันไม่ใช่เพลงที่ฉายภาพความสุขสมสว่างไสว เคลือบแคลงความประชดประชันของผู้นำจำพวกเผด็จการ แอบนึกถึงประเทศแถวนี้เป๊ะ
สุดท้าย #เชื้อไฟ ก็ฉายภาพหนุ่มสาวที่เรียกร้องความเป็นอิสระ สามารถใช้ชีวิตโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับใคร ในแบบที่ว่าถ้ามีเรือเล็กๆสามารถแยกออกจากเรือใหญ่ได้ พวกเขาคงทำไปแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็พร้อมหนีไปเผชิญโลกพร้อมกับคนร่วมอุดมการณ์หรือใครซักคนคงจะดีกว่า
โดยรวมแล้ว #เรือสำราญอมตะ ฉายภาพสังคมดิสโทเปียที่แหล่มชัดรัดกุม เข้าใจง่าย ไม่ได้ซับซ้อนเกินจนต้องไต่บันไดฟังให้ยุ่งยาก มันอาจจะไม่ใช่งานเพลงที่สำเริงสำราญตามชื่อ เล่นกับความย้อนแย้งประชดประชันสังคมที่อยากหลีกหนีความจริง แต่กลับมาเจอความอุดมคติที่สะอาดสอ้านเสียจนไม่ต้องไปตั้งคำถามอย่างที่กัปตันบอกไว้เลยละม้าง ต่อให้ #ดังที่สุดในจักรวาลก็อย่าหวังว่าจะหนีรอดความสุขอันจอมปลอมเหล่านั้นได้
1.Peppermint Town - My Life As Ali Thomas
การกลับมาของวงอินดี้-โฟล์ค ที่คราฟท์งานเพลงได้อย่างประณีต วิจิตรศิลป์เช่นเคย ไม่เชื่อให้ลองไปซื้อซีดีอัลบั้มนี้ดู คุณจะได้เสพย์งานอาร์ตที่เป็น artwork ของแต่ละเพลงได้อย่างเต็มอิ่มควบคู่กับทั้ง 10 เพลงของพวกเขา อีกทั้งบทเพลงมีความเป็นบทกลอน สามารถตีความไปได้มากกว่าหนึ่งทาง ไม่มีกรอบมาจำกัดใดๆนั่นเอง อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ให้ตั๋วขาไปแค่ขาเดียวในการไปท่องอยู่ในเมืองลับแลกลางมหาสมุทร ซึ่งที่แห่งนั้นค่อนข้างขมุกขมัว อบอุ่น และเศร้าคละคลุ้งไม่แพ้กัน
ชอบในความที่อัลบั้มนี้ใส่ความหลากหลายทั้งภาคดนตรีและอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็น Soul-Jazz สุดโรแมนติกแบบเพลง Baby I Love You อินดี้-โฟล์คซองสไตล์ดั้งเดิมของพวกเขาแบบ My Golden Red Sun ร็อคขึ้นมาหน่อยแบบ Rinn ก็จัดจ้านไฟลุก เล่นเวฟเซิ้งๆได้โดดเด่นแบบเพลง Luna Blue และ Ocean ห่วงอารมณ์แห่งความเพ้อฝันที่ใส่ math rock เข้าไปในเพลง Dream Lover ป็อปยุค 80’s ชวนนึกถึงเพลงไทยยุคคาสเซ็ทเทปในเพลง Dear All My Universe เป็นการโอบกอดความทรงจำในอดีตอะนาล็อกที่หอมหวาน หรือจะมาแบบ Oldies กลิ่นอายซิทคอมแบบ Tears of a Clown ที่ชวนระลึกถึงตัวละครที่เป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น แต่ตัวเองดันไม่ตลกไปด้วย
อาจจะพออนุมานได้ว่า Peppermint Town ในที่นี้ไม่ใช่เมืองที่อุดมคติไปด้วยชาวเมืองที่มีจิตใจอบอุ่น โอบอ้อมอารีเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้มีความดิสโทเปียที่ดีจัดจนไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ แต่เป็นการมอบพื้นที่ส่วนตัวสำหรับคนที่อยากจะทิ้งสัมภาระทุกสิ่งอย่างเพื่อเป็นที่พักใจเลยก็ได้ เพราะกฏที่เขาวางไว้คือ คุณต้องทิ้งทุกอย่างก่อนเข้าเมืองนี้ โดยที่คุณเลือกจะเป็นอะไรก็ได้ อาจเป็นเหตุผลหลักที่สามสมาชิกแปลงร่างเป็น จิ้งจอก-แมว-กระต่าย อย่างที่ปรากฏในหน้าปกอัลบั้ม
ที่พักใจดังกล่าวก็คงไม่ใช่ชีวิตแฟนตาซีที่จรรโลงใจไปเสียทุกอย่าง แอบสอดแทรกด้วยเรื่องราวอันขมขื่นที่ฟังแล้ว เห้ย !!! เราก็เจอสถานการณ์แบบนี้มาเหมือนกัน นี่คืออัลบั้มอินเตอร์โดยศิลปินไทยที่ยึดถืออุดมการณ์ในการทำงานเพลงแบบศิลปะอย่างหนักแน่น ไม่ตามกระแส ยังคงทำเพลงสายลึกเลยล่ะ แรกๆอาจไม่ชิน แต่ถ้าลองซึมซับบอกได้เลยว่าคุณคงไม่ร้องขอให้ตีตั๋วกลับอีกแน่นอน อัลบั้มไทยอันดับ 1 ประจำปีโดยไม่คิดมากเลยครับ
โฆษณา