31 ธ.ค. 2021 เวลา 12:57 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องเล่าของผู้เฒ่าจากพื้นที่ชนบท
รูปจากpixabay
ในยุคที่คนจากต่างจังหวัดต้องเข้าไปใช้ชีวิตในเมืองหลวงเช่นไปทำงานหรือไปทำงานที่จังหวัดอื่น ๆ ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวใหญ่อย่างเช่นยุคสมัยก่อน ๆ เวลาเปลี่ยนไปทำให้การใช้ชีวิตหรือว่าจะเป็นคนเมืองตามพื้นที่ชนบทในต่างจังหวัดก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ตามชนบทในพื้นที่ต่างจังหวัดของประเทศไทย ในทุกวันนี้ยังมีครอบครัวเล็ก ๆ อยู่หลายครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่บ้านกันตามลำพังโดยที่ลูกหลานมักจะเข้าไปทำงานหาเงินหาเลี้ยงชีพอยู่ในเมืองหลวง ทั่วทุกภาคของประเทศไทยเรามักจะพบเห็นแบบนี้ทั่วไป
ครอบครัวหนึ่ง มีหญิงวัยชราวัย  80 กว่าและผู้เฒ่าผู้เป็นสามีวัยเกือบ 90 ปี อาศัยอยู่กัน 3 คน กับลูกที่ดูแล 2 ผู้เฒ่านี้อีก 1 คน 2 ผู้เฒ่านี้มีลูก 2 คนอีกหนึ่งคนทำงานอยู่ในเมืองหลวง นาน ๆ จะกลับมาหาสักครั้งนึง แต่ด้วยวัยและยุคที่ต่างกันลูกที่ทำงานอยู่ในเมืองหลวงเป็นคนหัวสมัยใหม่  มักใช้เวลาอยู่กับการทำงานอยู่กับเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยของคนยุคนี้ทั้งคอมพิวเตอร์สมาร์ทโฟนนั่นหมายความว่าในเครื่องมือพวกนี้จะมีเพื่อนพูดคุยอยู่มากมาย การคุยกับพ่อกับแม่ที่รออยู่ทางบ้านจึงห่างหายไป
แต่ผู้เฒ่าสองคนนี้เป็นคนรุ่นเก่า จะใช้เครื่องมืออุปกรณ์ในสมัยใหม่ไม่เป็น จึงได้แต่รอว่าคนที่อยู่ไกลจะส่งข่าวฝากใครมาบ้างหรือในช่วงเทศกาลลูกคนที่อยู่ห่างไกลจะกลับมามั้ย   ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่  เป็นช่วงที่ผู้เฒ่าวัยชราทั้งสองคน ดูจะมีความหวังและบางครั้งก็เห็นทั้งสองผิดหวัง  ลูกหลานที่อยู่ห่างไกลคงไม่ได้มีโอกาสได้เห็นสีหน้าแววตาของผู้ที่รอคอยว่าลูกหลานตัวเองจะกลับมาหาตัวเองไหม และยิ่งได้เห็นว่าลูกหลานบ้านข้างเคียงได้เริ่มกลับมาบ้างแล้วก็ยิ่งทำให้สีหน้าและแววตาของผู้ที่รอคอยเหงาเพิ่มขึ้นไปอีกเหมือนกันได้รอลุ้นว่าเทศกาลนี้ของปีนี้ลูกเราหลานเราจะกลับมาหาเราไหม
ถึงแม้ว่าจะมีลูกอีกคนอยู่ด้วย แต่ด้วยความที่อยู่ด้วยกันทุกวันมันก็ไม่เหมือนคนที่ห่างไกลที่เขาเฝ้ารอวันที่เขาจะได้เจอหน้าลูกหลานที่ไปทำงานไกล  ๆ กลับมาให้ชื่นใจสักครั้ง
และหลายครั้งก็ได้เห็นความผิดหวังซึมเศร้าของชายหญิงชราที่ตั้งตารอลูกหลานกลับมาหาในช่วงเทศกาล  หลาย ๆ คนมักจะคิดว่าไม่มาหาตอนเทศกาลก็ได้เพราะยังไงพวกเขาก็อยู่บ้านอยู่แล้ว อันนี้อยากให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะผู้เฒ่าผู้แก่จริง ๆ แล้วอยากให้ลูกหลานอยู่ด้วยตลอดแหละ
แต่ที่เขาเฝ้ารอในช่วงเทศกาลเพราะว่าลูกหลานไปทำงานอยู่ไกลนั่นเองและลูกหลานบ้านอื่นก็มักจะกลับมาหาพ่อหาแม่ในช่วงเทศกาลกันทั้งนั้น นั่นก็หมายความว่าความรู้สึกของผู้เฒ่าผู้แก่จึงรอให้ลูกหลานกลับมาทุกเทศกาลเหมือนบ้านอื่น ๆ นั่นเอง คือความสุขมันคือความชุ่มชื่นหัวใจที่จะหล่อเลี้ยงให้ผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้ได้มีอายุยืนยาวอยู่ไปอีกนานเลยแหละ
หลายครั้งที่ได้เห็น ถึงแม้หูตาจะฝ้าฟาง แต่เมื่อใกล้ถึงวันเทศกาลขึ้นมาเมื่อไหร่ หญิงชายชราคู่นี้มักจะทำอาหารทำขนมที่ลูก ๆ หลาน ๆ ชอบไว้รอการกลับมาเสมอ เทศกาลไหนที่ลูกหลานกลับมาก็จะเห็นสีหน้าแววตาที่มีความสุขที่ลูกหลานได้กินขนมอร่อย ๆ ที่ตัวเองตั้งใจทำไว้รอ แต่ถ้าเทศกาลไหนลูกหลานไม่กลับมาความหงอยเหงาซึมเศร้า ก็จะแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ถึงแม้จะได้การปลอบประโลมจากคนที่อยู่ใกล้ก็ตาม แต่หาได้เยียวยาความรู้สึกการรอคอยนั้นไม่
โลกมันหมุนไปเร็ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ เรื่องอะไรที่เราพอจะทำให้คนที่รักเรามีความสุขได้ ทำเถอะ อย่ารอให้ทุกอย่างพร้อมแล้วถึงจะทำเลยค่ะ ความพร้อมของทุกคนไม่เหมือนกัน
อย่างเช่นการกลับมาหาพ่อแม่แก่เฒ่า ที่รอเราอยู่ก็เป็นอีกอย่างนึงที่เราสมควรทำ เพราะเราไม่รู้ว่าพวกเค้าเหล่านั้นจะอยู่กับเราอีกนานแค่ไหน
ความรักที่ไม่มีข้อแม้ ความรักที่รอเราอยู่ทุกเวลา คือความรักจากหญิงชายชราคู่หนึ่งที่เรียกตัวเองว่าพ่อกับแม่นั่นเอง
แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อไป หลากหลายเรื่องราวเล่าด้วยการเขียน ✍️📝
ติดตามผลงานอื่น ๆ บทความรีวิวต่าง ๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ บิวตี้ ไลฟ์สไตล์ ทุกอย่างที่เจอะเจอ รับตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งรูปต่าง ๆ
โฆษณา