1 ม.ค. 2022 เวลา 01:50 • ปรัชญา
กลอนเปล่า: ทรายกับฟองคลื่น
โดย อินทรธนู
26/12/2562
สายลมเพิ่งพัดผ่านไป,
ฟองคลื่นเพิ่งแตกกระจายหายลับ
ม่านหมอกที่ฟุ้งกระจายเหนือผืนน้ำเพิ่งจางหาย,
หลังแสงเจิดจ้าจากดวงสุริยันสาดแสง...
ประกายระยิบระยับบนผิวน้ำทะเลแลดูเพลินตา, แต่ก็หายลับไปเมื่อหมู่เมฆบดบังแสง..
พอฝนซา, ฟ้าเบิก.. จึงเห็นแสงฉายทาฟ้า เป็นโค้งรุ้งงามอวดโฉมเด่น ตัดเส้นขอบฟ้า.
รอยเท้าที่ฉันเคยเหยียบย่ำบนผืนทรายสีน้ำผึ้ง จึงค่อยๆ จางหาย,
เมื่อคลื่นซัดชายหาดเบาๆ..
……….
สายลมพัดผ่านไปแล้ว หนอความเศร้า..
ฟองน้ำที่โอบอุ้มความเจ็บปวดไว้ก็เพิ่งแตกกระจาย, สลายไปในอณูลม
ชายหาดราบเรียบอีกครั้ง หลังคลื่นซัดชายฝั่ง..
………..
เราและชายหาดจะคงอยู่ตรงนี้ต่อไป!..
ณ ยามเช้า, ตะวันจะอรุโณทัยไปพร้อม ๆ กับฝูงนกนางนวลที่ถลาเล่นลม
เรือหัวโทง จะส่งเสียงคำราม เพื่อประกาศศักดาแห่ง “นักผจญทะเลใหญ่”
และผีเสื้อก็จะโบยบิน,
สายลมจะพัดโชยกลิ่นทะเลสีคราม ให้ถึงขุนเขาใหญ่..
ณ ยามบ่าย, คลื่นจะพัดพาฟองน้ำขาวมากระทบฝั่ง..
แสงเจิดจ้าจากดวงตะวันจะสาดผิวน้ำให้คายอุ่นไอลอยฟุ้งเหนือนภาใส..
จึงเกาะกลุ่มเป็นก้อนเมฆ, จึงโปรยหยดหยาดอันชื่นฉ่ำสู่ผืนดิน,
ให้ผืนหญ้าชุ่มชื้น..ดั่งมวลน้ำสวมกอดผืนดิน
และผืนดินจะทะนุถนอมพืชพันธุ์ ให้เติบโต ออกดอก-ออกผล เยียวยามวลชีวิต..
ณ ยามเย็น, น้ำลง เห็นแสงสีส้มดั่งมโหรสพชีวิตอวดร่ายลีลา..
ดวงตะวันจะอัสดงไปพร้อมกับความหวังแห่งวันพรุ่ง, ที่จะเบ่งบานดั่งช่อพฤกษาในป่าใหญ่..
ความสงบเงียบขับกล่อมชีวีให้แนบหนุนฝัน ให้ได้พักกายหลังการตรากตรำ..
คงเหลือไว้เพียงเสียงของสายลมและคลื่นเบา ๆ ที่แอบซ่อนรอยยิ้มไว้แด่คนนิทรา..
ณ กลางคืนเข้าสวมกอดกลางวันอย่างแสนหวาน และอ่อนโยน..
กงล้อแห่งชีวิตขับเคลื่อนพลังเหนือญาณวิสัย, ให้สลับเปลี่ยนวันวารสู่วันพรุ่ง..
จากความมืดสู่แสงสว่าง, จากน้ำตาสู่รอยยิ้ม
และจากความเศร้าหมองสู่ความเบิกบาน..
สู่วันพรุ่งนี้..
วันที่แสงยามเช้าตรู่ จะฉายพลังขับไล่ความมัวหมองและตรอมตรม..
วันที่สายลมจะพัดปลิวอดีตที่เจ็บช้ำให้สูญสลาย,
วันที่เกลียวคลื่นจะซัดหาดทรายด้วยสายใยรัก และการกระซิบเล่าถึงความหวัง..
วันที่หาดขาวจะงดงาม และทิวสนจะพัดปลิวให้ได้ยินเหมือนเสียงกรีดกรายสายพิณ..
วันที่เธอกับฉันจะบอกรักทะเลและเกลียวคลื่น,
วันที่ผืนทรายกับฟองคลื่น จะยังคงอยู่กับเรา.. ชั่วกาลนาน
โฆษณา