2 ม.ค. 2022 เวลา 15:18 • นิยาย เรื่องสั้น
เชื่อแล้วว่าทุกอาชีพเกี้อกูลกันได้
เรามีบรรพบุรุษที่ทำอาชีพเกษตรกรรมมายาวนานมีที่ดินเป็นมรดกตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน จากรุ่นสู่รุ่น อย่าถามเรานะว่าเป็นรุ่นที่เท่าไหร่ มันตอบยาก (จริงๆคือไม่รู้นั่นแหละ ) ใครมันจะไปนับถูกกันล่ะ รุ่นพ่อรุ่นแม่เราเค้าก็ไม่เคยนับ
ด้วยสภาพภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำยมตอนล่าง ไม่มีภูเขา มีแม่น้ำยมไหลผ่านเป็นสายหลักขอสวยงอำเภอ แม่น้ำยมที่ไหลผ่านมีความคดเคี้ยว จึงทำให้น้ำท่วมซ้ำซากบ่อยครั้งจึงทำได้แค่ทำนา มีหลายๆคนเคยถามว่าทำไมไม่ทำอย่างอื่นเป็นการปลูกพืชหมุนเวียนบ้าง แรกๆเราขยันอธิบายนะว่าด้วยเรื่องสภาพภูมิศาสตร์ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ล่ะ ให้คนตั้งคำถามไปหาคำตอบเองบ้างดีกว่า
ในวัยเด็กของเราเคยช่วยพ่อแม่ทำนาสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องทุ่นแรงการหว่านข้าว ถอนกล้า ดำนา หว่านปุ๋ย การเก็บเกี่ยวก็ใช้แรงคน มีคนมาช่วยเราเพื่อเอาแรง (เราค่อยไปใช้แรงคืนตอนเค้าเก็บเกี่ยว) การลงแขกเกี่ยวข้าว ปัจจุบันวิถีแบบนั้นไม่มีให้เห็นแล้ว หรือถ้ายังมีก็ส่วนน้อย เวลาผ่านไปโลกเปลี่ยนเริ่มมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาไม่เว้นแม้แต่เทคโนโลยีทางการเกษตรที่ผลิตเครื่องทุ่นแรงทางการเกษตรมาตอบสนองความต้องการของคนทำนาไม่ว่าจะเป็นรถไถเดินตาม รถไถ 4 ล้อ เครื่องดำนา เครื่องหว่านข้าว หว่านปุ๋ย โดรนพ่นยา ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทำให้วิถีชาวนาแบบดั้งเดิมต้องเปลี่ยนตามกาลเวลา ทำให้การจ้างงานผันแปรตามไปด้วยใครสะดวกจ้างแรงคน หรือสะดวกจ้างเครื่องมือแทนแรงคนก็ได้ตามความเหมาะสม
สำหรับบ้านเราพอจะมีอุปกรณ์ทำนาอยู่หลายอย่างแต่เราไม่สามารถทำเองทั้งหมดได้ทัน ก็เลยเลือกที่จะจ้างทั้งคน และเครื่องมือแทนแรงคน ซึ่งเราได้เห็นการจ้างงานคนในชุมชนของเรา จะว่าไปแล้วมันก็ค่อนข้างเป็นระบบนะ เริ่มจากจ้างคนมาไถนา หว่านข้าว หว่านปุ๋ย โดรนพ่นยา ถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จ้างรถมาเกี่ยวข้าว จ้างรถมาลากข้าวไปขายตามโรงสีต่างๆ แน่นอนเกิดการจ้างงานในชุมชน มีเงินหมุนเวียนในชุมชนนำไปสู่เศรษฐกิจภาพรวมของชาติ
มันมีภาพความจริงให้เห็นตอกย้ำถึงคำพูดที่ว่าทุกอาชีพเกื้อกูลกันได้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง อาชีพชาวนา
โฆษณา