แต่งแหวกนมเหมือนกัน...แต่ทำไมไม่เหมือนกัน?!?
อยากให้ตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ ลองคุยกันดูถึง action ในจังหวัดของตัวเอง ที่มีต่อ 2 ประเด็นนี้ มันไม่ได้ต่างกันนะ
ตอนครั้งน้องโอลีฟถูกเรียกเตือน ตำรวจอำเภอเมืองเชียงใหม่ อ้างถึงศีลธรรมอันดี จังหวัดเป็นเมืองวัฒนธรรม แต่เป็นอันตรายต่อคนขับรถทางสี่แยกที่หยุดมองหน้าอกของเธอ เลยมาเตือนให้แต่งตัวมิดชิด เป็นเหตุผลที่ทำให้เรียกพบ เพื่อปรับการแต่งกาย
แต่ปรากฏว่าทางสถานีตำรวจภูธรจัดสาวเซกซี่โชว์อึ๋ม เรียกความสดชื่นให้คนขับรถผ่านไปมาที่อ่อนล้ามารับกาแฟริมถนนแก้ง่วงได้เลย แถมสาวๆก็ไม่ใส่ mask ในสถานการณ์โรคระบาดเสียด้วย
1) ประเทศนี้อะไรทำได้ และทำได้ ต้องมีคำตอบให้ประชาชนนะ ลูกหลานเราที่มองเห็นแบบอย่างผู้ใหญ่ทำสิ่งต่างๆ จะได้มีตรรกะที่แข็งแรง ไม่บิดเบี้ยว แต่ก็มักจะตอบไม่ได้ เพราะมันเบี้ยวไปหมด ไม่มีความยุติธรรมเท่าเทียมใดๆ เอียงข้างให้พวกพ้องตัวเองมีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง
2) ไม่อยากเห็นเหตุผลว่า "ใครทำอะไรได้ เพราะเขาเป็นใคร เป็นพวกใคร" อย่าใช้ระบบอุปถัมภ์ ระบบมาเฟียในประเทศ อย่างไร้เกณฑ์ แต่มีข้อบังคับ หรือแนวทางปฏิบัติที่ใช้เท่าเทียมกัน เหมือนกันอย่างเสมอภาคกับทุกคน เรื่องเหล่านี้ไม่มีคำอธิบายที่สังคมรับได้ แต่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เราอยู่ในประเทศที่ "มองคนไม่เท่ากัน"
3) เราไม่ได้สนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนต้องมาทำแบบน้องโอลีฟ หรือมาแจกกาแฟแก้ง่วง แต่ถ้าเลือกไปละเมิดร่างกาย และการแต่งกายผู้อื่น เพราะเขาโนบรา อ้างความสงบเรียบร้อย ทุกที่ก็ควรเหมือนกัน หรือต้องอ้างต่อไปว่า "ถ้ามีบรา จะแหวกถึงตาตุ่มก็ได้" ก็ดู nonsense ปัญญาอ่อนอยู่นะ
4) แต่จริงๆ การแต่งกายก็ควรเป็นเสรีภาพในเรือนร่างของแต่ละบุคคลตั้งแต่แรก คนที่เดือดร้อน หรือเผือกกับร่างกายคนอื่น บอกว่าเป็นปัญหาต่อสายตาผู้ขับขี่รถบนถนน เท่ากับโทษสตรี ก็เข้าข่าย victim blaming ไม่จัดการลูกตาตัวเอง แต่เลือกไปจัดการเสื้อผ้าคนอื่น โทษว่าเสื้อผ้าเขาผิด ไปคุกคามเขาทั้งทางสายตา และคุกคามเสรีภาพการแต่งกายของเขาจริง
5) เราไม่ได้เคร่งระเบียบจริงๆหรอก เราไม่ได้อ้างศีลธรรมอันดีอะไรขนาดนั้น ประเทศไทยดูเกณฑ์ง่ายๆว่า ใครได้หน้า ใครได้ผลประโยชน์ ดูแค่ว่าใครเป็นผู้ลงมือทำ ถ้าผู้มีอำนาจทำเองก็จะทำได้ แต่ถ้าเป็นประชาชนผู้ไร้อำนาจบารมีทำ ก็จะหาข้อห้ามมาใช้กดขี่กดทับประชาชน มักมีคนอ้างว่า ประเทศเราไม่ได้เสรีขนาดนั้น แต่ทำไมมีบางคนมี 'อิสระเสรี' กว่าคนอื่นๆได้ ก็ยังไม่มีคำตอบเลย
รถหยุดเพราะโป๊ เรียกคนมาดื่มกาแฟได้ดี แล้วคนหยุดซื้อโตเกียวเพราะโป๊ มันก็ไม่ได้ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างกันคือ ใครเป็นผู้กระทำ ใครเป็นผู้มีอำนาจ และประเทศนี้ยืนอยู่ข้างใคร ที่แน่ๆไม่ใช่ประชาชน ขนาดแค่ใส่เสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเอง ในฐานะของความเป็นมนุษย์ ยังขาดสิทธิเสรีภาพในการแต่งกายเลย นี่ประเทศประชาธิปไตย (ที่มีระบุไว้แค่ในรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ปฏิบัติใช้จริง)
น่าขันดี #ประเทศแห่งความย้อนแย้ง
#ThinkTalkLoud
#ตุ๊ดส์review
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
