7 ม.ค. 2022 เวลา 02:43 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ “นินจา (Ninja)”
2
ก่อนนี้ผมเคยเขียนบทความเรื่องราวของนินจาที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน และใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว
แต่ในบทความนี้ เราจะมาดูประวัติของนินจาตามหน้าประวัติศาสตร์ และรู้จักตัวตนของนินจาให้มากกว่านี้กันดีกว่า
เรื่องราวของกลุ่มคนที่เรียกว่า “นินจา (Ninja)” นั้นมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
บันทึกที่บันทึกเรื่องราวของนินจาก็มีไม่มากนัก เนื่องจากนินจาต้องปกปิดตัวตน ไม่เปิดเผยตัวมากนัก อีกทั้งการถ่ายทอดวิชานินจา หลักๆ ก็จะเป็นการถ่ายทอดแบบปากต่อปาก ไม่ได้มีการบันทึกไว้มากนัก
นินจานั้น มักจะได้รับภารกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการจารกรรม แทรกซึมเข้าไปในหมู่ศัตรู รวมทั้งการรบแบบกองโจร โดยนินจาจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกล ใจกลางภูเขาสูง
นินจานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์หลายๆ ด้าน และมักจะปกปิดตัวตน ไม่ให้ใครทราบตัวตนจริง และสร้างข่าวลือให้ศัตรูหวาดกลัว
นินจาเป็นนักรบแห่งหุบเขา และปลีกตัวออกจากสังคม รวมทั้งมีกฎเกณฑ์ของตนเอง
ศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ายึดครองพื้นที่ การรบแบบกองโจร การรวบรวมข้อมูลและส่งต่อ ศาสตร์เหล่านี้ล้วนกำเนิดในสมัยศตวรรษที่ 12 ภายใต้ศาสตร์ที่เรียกว่า “นินจุตสึ (Ninjutsu)”
1
นินจากลุ่มต่างๆ จะประกอบไปด้วยสายลับและมือสังหาร นักรบและนักกายกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ และนักสะกดจิต และต่างก็ได้รับภารกิจต่างๆ
ช่วงระหว่างศตวรรษที่ 12-15 สำนักอิงะ (Iga) และสำนักโคงะ (Koga) เป็นสองสำนักนินจาที่มีชื่อเสียง และไดเมียว ซึ่งก็คือผู้มีอำนาจในแคว้นต่างๆ ก็มักจะหันไปหานินจาเพื่อว่าจ้าง ขอให้ช่วยทำงานต่างๆ ให้
ในสงครามต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลัง นินจาก็มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก
ในสมัยศตวรรษที่ 16 ญี่ปุ่นนั้นบอบช้ำจากสงครามที่เกิดจากซามูไร
การสู้รบที่กินเวลายาวนานมาเกือบ 400 ปีได้ทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในสภาพอ่อนแอ และเมื่อถึงช่วงเวลาสุดท้ายของสงคราม ก็ได้ปรากฎขุนศึกผู้หนึ่ง นามว่า “โอดะ โนบุนางะ (Oda Nobunaga)”
โอดะ โนบุนางะ (Oda Nobunaga)
โนบุนางะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งโชกุน และกำจัดทุกคนที่ขวางทาง
ภายหลังจากที่โนบุนางะได้ใช้ให้นินจาเข้าช่วยในการยึดครองดินแดน โนบุนางะก็ตระหนักว่านินจานั้นเป็นตัวอันตราย และมีความสามารถพอที่จะกำจัดทุกคนที่ต้องการ ซึ่งนั่นก็รวมถึงตนด้วย
ในปีค.ศ.1581 (พ.ศ.2124) ได้เกิดสงครามระหว่างกองทัพของโนบุนางะจำนวน 46,000 นาย กับนินจาสำนักอิงะจำนวน 400 คน
สงครามนี้กินเวลายาวนานเป็นสัปดาห์ และจบลงด้วยการที่นินจาถูกฆ่าเป็นจำนวนมาก
จากนั้น ตั้งแต่ค.ศ.1603 (พ.ศ.2146) ยุคแห่งสงครามได้จบลงด้วยการออกกฎที่ควบคุมเรื่องการสงคราม ทำให้สงครามไม่ได้เกิดขึ้นมากเท่าแต่ก่อน
โชกุนได้ก่อตั้งเมืองหลวงที่เอโดะ (Edo) หรือก็คือโตเกียว (Tokyo) ในปัจจุบัน
เอโดะได้ขยายใหญ่กลายเป็นมหานคร ประชากรพุ่งแตะหนึ่งล้านคน และด้วยความที่คนมาก เงินและผลประโยชน์ก็ได้ล่อตาล่อใจให้เหล่าอาชญากรต่างๆ กระทำการผิดกฎหมาย
เมื่อเป็นอย่างนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานตำรวจที่เข้มแข็ง มีทักษะการต่อสู้ ซึ่งนินจาก็ดูจะเหมาะสม
แต่ก็ไม่ใช่นินจาทุกคนจะยอมเข้าร่วม ตรงข้าม หลายรายกลับกลายเป็นโจรซะเอง ส่วนที่เหลือที่ต่างก็เบื่อหน่ายสงคราม ก็หันเข้าหาศาสนา หรือไม่ก็ไปทำไร่ เป็นชาวไร่
บทบาทครั้งสำคัญของนินจาช่วงท้ายๆ ได้เกิดขึ้นที่ปราสาทฮาระ (Hara Castle) ในปีค.ศ.1637 (พ.ศ.2190) เมื่อเกิดกบฏชาวไร่ที่เป็นคริสตศาสนิกชน ต่อต้านรัฐบาลโชกุน ซึ่งเหล่าชาวไร่ได้สงสัยว่ารัฐบาลเป็นผู้สังหารไดเมียวชาวคริสต์
ทหารฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่า 200,000 นาย ชาวคริสต์จึงได้หลบเข้าไปในปราสาทฮาระ แต่ถึงแม้จะมีจำนวนมากกว่า แต่รัฐบาลก็ยังไม่สามารถหยุดการจลาจลได้ รัฐบาลจึงต้องหันไปหานินจา
ในทุกวันนี้ ศาสตร์แห่งนินจาหรือนินจุตสึไม่ใช่ความลับอีกต่อไป และก็เป็นที่สนใจของผู้คนแทบจะทุกมุมโลก
โฆษณา