Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Godzilcoin
•
ติดตาม
6 ม.ค. 2022 เวลา 23:07 • คริปโทเคอร์เรนซี
การลดขนาดงบดุลของ FED คืออะไร..?
What is FED’s balance sheet shrinking..?
(โพสเก่า เอามาเล่าใหม่)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา FED ได้ทำ QE (พิมพ์เงิน) จำนวนมากเพื่อยื้อชีวิตเศรษฐกิจสหรัฐหลังวิกฤติ subprime เมื่อ FED พิมพ์เงินออกมานั้น แปลว่าทุกครั้งที่พิมพ์เงิน งบดุลของ FED ก็จะโตขึ้น (คิดภาพบริษัทนึงมีสินทรัพย์ 10 ล้านบาท ถ้าจู่ๆ บริษัทนั้นเสกเงินขึ้นมาได้อีก 20 ล้าน สินทรัพย์ของบริษัทนั้นก็จะเพิ่มเป็น 30 ล้าน)
แต่เงินที่พิมพ์ออกมานั้นแทบไม่ได้เข้าถึง real sector เลย
เงินส่วนหนึ่งที่พิมพ์ออกมา FED เอาไปซื้อพันธบัตรสหรัฐ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ FED เป็นเจ้าหนี้รัฐบาลสหรัฐ (นั่นคือเงินสดในงบดุลจะกลายเป็นพันธบัตรสหรัฐแทน)
เงินอีกส่วนเอาไปซื้อ MBS (mortgaged back securities) ซึ่งก็คือหนี้เน่าของแบงค์ตั้งแต่ยุค subprime ด้วยความหวังที่แบงค์จะเหลือสภาพคล่องที่จะไปปล่อยกู้ให้ระบบเศรษฐกิจ
ดังนั้นการที่ Jerome Powell ออกมาบอกว่า จะลดงบดุลของ FED ลง ก็คือการที่ FED จะต้องขายทั้งพันธบัตรและ MBS ออกไป พอได้เงินสดกลับมาก็ดูดเงินสดออกจากงบดุลด้วยวิธีการของธนาคารกลาง เงินที่เคยเสกมาได้ในอากาศ ก็จะสูญสลายหายไปในอากาศ
ตอนนี้งบดุลของ FED มีขนาดใหญ่โตมหึมาถึง $8.7 ล้านล้าน แบ่งไปถือพันธบัตรสหรัฐ $5.6 ล้านล้าน และถือ MBS อยู่ $2.6 ล้านล้าน
ประเด็นสำคัญก็คือ ถ้า FED ต้องขายพันธบัตรสหรัฐกับ MBS ทิ้งไป (พูดภาษาชาวบ้าน คือโอนลูกหนี้ให้คนอื่น กรูไม่ขอเป็นเจ้าหนี้มึงแล้ว) ใครจะเป็นคนรับซื้อหนี้พวกนี้..?
แน่นอนว่ามีคนจำนวนมากยังเชื่อถือพันธบัตรสหรัฐว่าเป็น safe haven อยู่ แต่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ผู้ซื้อกดราคาพันธบัตรลงไปอีก
เช่น ถ้ามีเพื่อนจะโอนหนี้ให้คุณ 100 บาท โดยคุณจะได้รับดอกเบี้ย 2% ต่อปี แต่ถ้าคุณรู้ว่าเดือนหน้าดอกเบี้ยธนาคารจะเพิ่มเป็น 3% คุณเอาเงินให้เพื่อนหรือเอาเงินไปฝากธนาคาร ถ้าคุณจะรับโอนหนี้จากเพื่อนของคุณ คุณก็จะต้องกดราคาว่าคุณจะรับซื้อหนี้นี้ในราคาไม่เกิน 65 บาท (2/65 = 3% งงมั้ยครับ)
กลับมาเรื่องของ FED คือถ้า FED จะขายพันธบัตรทิ้งในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น FED ก็จะต้อง discount ราคาพันธบัตรมากเป็นพิเศษ เพื่อให้คนรับซื้อได้ผลตอบแทนสูงพอที่เค้าจะรับซื้อหนี้ต่อ
เมื่อเกิดสถานะการเทขายพันธบัตรจำนวนมากจาก FED ตามทฤษฏีแล้ว yield พันธบัตรจะเพิ่มสูงขึ้นตามกลไกตลาดที่ผมอธิบายให้ฟังในข้างต้น
แต่ FED คงไม่ได้ขายพันธบัตรทั้งหมด พันธบัตรบางส่วนก็จะหมดอายุตามกำหนดไปส่วนหนึ่ง FED ก็แค่ไม่ซื้อเพิ่ม งบดุลก็จะลดลงได้เองอย่างช้าๆ (แต่รัฐบาลจะหาเงินมาคืนได้มั้ย จะหาเงินมาคืนได้ก็อาจจะต้องออกพันธบัตรใหม่ให้คนอื่นมาซื้อ แล้วใครจะซื้อถ้าไม่ใช่ FED..? จีนก็คงไม่ค่อยอยากอุดหนุนพันธบัตรสหรัฐอยู่แล้ว อันนี้ไม่ใช่ประเด็นในบทความนี้นะครับ)
FED บอกว่าการลดงบดุลไม่ใช่เรื่องใหญ่ กระจิ๊บกระจ๊อยมากๆ แต่ผมคิดว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมา FED คือเจ้าหนี้ใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐมาโดยตลอด หลายคนอาจจะคิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นแล้ว แต่อัตราความเร่งในการสร้างหนี้ของรัฐบาลไม่ได้ลดลงเลย
ถึงจุดหนึ่งเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐก็จะทะลุอีกครั้ง นักลงทุนจะเชื่อมั่นในรัฐบาลสหรัฐไปได้อีกนานแค่ไหน..?
เมื่อเจ้าหนี้ของสหรัฐที่ใหญ่ที่สุด 3 อันดับ เริ่มไม่โอเคกับพันธบัตรสหรัฐ
เจ้าหนี้อันดับที่ 1 กองทุนประกันสังคม ตอนนี้กองทุนประกันสังคมไม่อยากถือพันธบัตรสหรัฐ เพราะผลตอบแทนไม่พอที่จะทำให้กองทุนประกันสังคมรอดได้ (กรณีศึกษานี้เกิดขึ้นแล้วที่กองทุนประกันสังคมของญี่ปุ่นขายพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นไปให้ BOJ แล้วไปถือหุ้นแทน เพราะถือพันธบัตรนานๆ ผลตอบแทนแย่ กองทุนจะเจ๊งเอาได้)
เจ้าหนี้อันดับที่ 2 FED ซึ่งถ้า FED จะลดขนาดงบดุลจริงๆ ก็คงจะไม่ซื้อพันธบัตรสหรัฐเพิ่มแล้ว และพันธบัตรเดิมๆ ก็จะทยอยหมดอายุไปเรื่อยๆ
1
แถมจีน ซึ่งเป็นเจ้าหนี้อันดับ 3 ก็ไม่เคยมีความสุขกับการถือพันธบัตรสหรัฐอยู่แล้ว หาทางทิ้งพันธบัตรสหรัฐอยู่ตลอด
คำถามคือ ใครจะยอมให้สหรัฐกู้อีก..? (หวยอาจจะออกที่ญี่ปุ่นเจ้าหนี้อันดับ 4 อาจจะโดนหักคอให้ช่วยอุดหนุน 😂)
เมื่อนั้นวิกฤติพันธบัตรสหรัฐ (Soverign Debt Crisis) อาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คาด
ไม่มีใครในโลกนี้ที่สร้างหนี้ไปได้เรื่อยๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศสหรัฐอเมริกา
PS. แต่ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าก่อนจะถึงจุดนั้นคงจะใช้เวลาหลายปี และเมื่อคนเริ่มหนีห่างจากพันธบัตรสหรัฐ เงินน่าจะไหลไปที่ตลาดอื่น เช่นตลาดหุ้นสหรัฐแทน โดยเฉพาะยุโรปที่ยังลูกผีลูกคน น่าจะมีเงินฝั่งยุโรปจำนวนมากที่หนีมาพักใจที่ดอลล่าร์ ส่วนตัวผมเลยเชื่อว่าในภาพใหญ่ตลาดหุ้นสหรัฐยังจะ bullish ไปอีกนาน
PS. ผมเอาโพสเดิมเมื่อ 4 ปีก่อนมาโพส เปลี่ยนชื่อ Yellen เป็น Powell และอัพเดทตัวเลขงบดุล FED เท่านั้นเอง เรื่องอื่นๆ ก็เหล้าเก่าในขวดใหม่ล้วนๆ
บทความดีจากคุณ Niran Pravithana
12 บันทึก
3
17
12
3
17
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย