8 ม.ค. 2022 เวลา 02:50 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“ตกหลุมรัก AI, ชีวิตอมตะ, มนุษย์จักรกล” โลกอนาคต อาจมาเร็วกว่าที่คิด
12
อนาคตอีก 30 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ?
มีปัญญาประดิษฐ์ที่แสนฉลาด และเข้าใจเราได้เหมือนกับมนุษย์จริง ๆ เช่นเดียวกับหนังเรื่อง Her
มีโลกเสมือนจริง ที่เราเข้าไปใช้ชีวิต ได้เหมือนกับหนังเรื่อง Ready Player One
หรือมีประตูวาร์ปไปที่ไหนก็ได้ เหมือนประตูวิเศษของโดราเอมอน
10
ดูเหมือนว่า ยากที่จะคาดเดาอนาคตได้เลย
เพราะหากย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว ก็คงมีน้อยคนที่รู้ว่าเวลาต่อมา โทรศัพท์จะสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น ถ่ายรูป, กดสั่งอาหาร, เรียกแท็กซี่, ช็อปปิง, ทำงาน และอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนทำได้เพียงแค่รับสาย และโทรออกเท่านั้นเอง
5
เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะรู้อนาคตว่ามีหน้าตาเป็นเช่นไร ?
พูดตรง ๆ ก็คือ “ไม่ง่าย”
แต่.. เราก็มีคนคนหนึ่ง ทำนายอนาคตไว้แล้วว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
4
เขาคนนี้ เป็นคนที่ Bill Gates มหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก ผู้ก่อตั้ง Microsoft ยกย่องว่า
เป็นบุคคลที่ทำนายอนาคต ในด้านปัญญาประดิษฐ์ได้ดีที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในศาสตร์ชั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4
บุคคลนี้มีชื่อว่า “Ray Kurzweil”
1
แล้วเขาทำนายโลกอนาคตว่าอย่างไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
“ทำไมคำทำนายของคนคนนี้ ถึงควรค่าแก่การรับฟัง และน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน”
ประโยคข้างต้น อาจเป็นสิ่งที่หลายคนคิดไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะอยู่ ๆ ให้เชื่อคำพูดเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ หากเราไม่รู้จักคนพูดคนนั้นมาก่อน แม้ว่า Bill Gates จะชื่นชอบก็ตาม
 
ดังนั้น เริ่มต้นด้วยการมาทำความรู้จักกับประวัติ และผลงานของชายผู้นี้เสียก่อน..
3
Ray Kurzweil เป็นนักประดิษฐ์ และนักอนาคตศาสตร์ชาวอเมริกัน วัย 73 ปี
3
หากพูดถึงผลงานด้านการประดิษฐ์ของเขามีอยู่มากมาย และหลายอย่างก็ยังถูกใช้ในชีวิตประจำวัน
เช่น เครื่องสแกนแบบแท่นนอน โปรแกรมที่ใช้เพื่อจำ หรืออ่านข้อความที่ปรากฏในไฟล์ภาพโปรแกรมที่แปลงข้อความเป็นเสียงพูด โปรแกรมที่แปลงคำพูดเป็นเสียง โปรแกรมหาแพตเทิร์นเพลง เพื่อนำมาสร้างเพลงใหม่ เครื่องสังเคราะห์เสียง และอื่น ๆ
11
ตัวอย่างผลงานด้านการเขียน เช่น
- The Singularity Is Near: When Humans Transcend Biology หนังสือที่พูดถึงยุคที่เทคโนโลยีไปไกล เกินกว่ามนุษย์ทำความเข้าใจได้ และเปลี่ยนอารยธรรมของมนุษยชาติไปอย่างสิ้นเชิง
- How to Create a Mind หนังสือที่พูดถึงการทำงานของความคิดมนุษย์
- The Age of Spiritual Machines หนังสือที่พูดถึงเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21
9
ด้วยผลงานเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจแต่อย่างใด ที่ Kurzweil จะได้รับการยกย่อง และรางวัลระดับชาติมากมาย ตั้งแต่การได้รับเหรียญรางวัล เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ
ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุด ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา
2
เขาถูกรับเลือกเป็นสมาชิกของ National Academy of Engineering สถาบันวิศวกรรมแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา
1
นอกจากนี้ ก็ยังได้รับการเสนอชื่อให้เข้าสู่หอเกียรติยศนักประดิษฐ์แห่งชาติ ซึ่งก่อตั้งโดย สำนักงานสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกา
3
และในปี 2012 เขาได้ถูกทาบทามจาก Larry Page หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Google ให้มารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมด้าน Machine Learning และ Language Processing อีกด้วย
8
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ Kurzweil เป็นที่จับตามอง ในวงการเทคโนโลยี ไม่ใช่เพียงเพราะประวัติ และผลงานที่ผ่านมา แต่คือความสามารถในการทำนายอนาคตที่แม่นยำ
จากสถิติการทำนายของเขาทั้งหมด 147 ครั้ง
2
- 115 ครั้งที่ทายถูกต้องทั้งหมด
- 12 ครั้งที่ถูกต้องตามหลักการ
- 17 ครั้งถูกต้องบางส่วน
- 3 ครั้งที่ทายผิด
26
เมื่อรวมการทำนายที่ถูกต้องทั้งหมด และถูกต้องตามหลักการเข้าด้วยกัน จะเห็นได้ว่ามีอัตราความแม่นยำถึง 86%
1
แล้วมีเหตุการณ์ หรือปรากฏการณ์ใดบ้าง ที่ Kurzweil ทำนายได้ถูกต้อง ? ลองมาดูตัวอย่าง
3
1. ทำนายว่า ก่อนปี 2000 คอมพิวเตอร์จะสามารถเล่นหมากรุกชนะมนุษย์ที่เล่นดีสุด ซึ่งปี 1997 Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ก็เอาชนะ Garry Kasparov แชมป์หมากรุกโลก
2
2. ปี 1990 ทำนายว่า อินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นสิ่งที่คนใช้กันเป็นเรื่องปกติ ขณะที่เวลานั้นมีผู้ใช้งานเพียง 2.6 ล้านคนจากทั้งหมด 5,000 กว่าล้านคน และการเข้าใช้งาน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
4
และยังบอกต่อว่า อินเทอร์เน็ตจะไม่ได้เติบโต แค่เฉพาะจำนวนผู้ใช้งานเท่านั้น แต่จะเติบโตจนกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้ง ๆ ที่เวลานั้น อินเทอร์เน็ตถูกใช้แค่เพียงบางเรื่องเท่านั้น
5
3. ปี 1999 ทำนายว่า คอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์ ที่มีขนาดเล็กลงจนเท่าหนังสือ และอาจเล็กขนาดเท่าเครื่องประดับ รวมถึงสุดท้ายคนส่วนใหญ่จะมีคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่องด้วย
7
ซึ่งปัจจุบันเราก็เห็นได้จากคนรอบข้าง หรือกระทั่งตัวเราเอง ที่มีตั้งแต่ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน ไปจนถึงสมาร์ตวอตช์
6
คำถามที่เกิดขึ้นในใจของหลายคนเวลาต่อมา คือ Kurzweil รู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ?
คำตอบ เพราะเขาใช้ “The Law of Accelerating Returns” หรือกฎผลลัพธ์ของอัตราเร่ง ช่วยในการคาดการณ์ ซึ่งมีแนวคิดว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าอย่างทวีคูณ เพราะเทคโนโลยีเดิมจะเป็นตัวต่อยอดให้กับเทคโนโลยีใหม่
6
กฎของมัวร์ หรือ Moore's Law เป็น 1 ในกฎที่สอดคล้องกับกฎข้างต้น โดยกล่าวไว้ว่า จํานวนทรานซิสเตอร์ ที่สามารถบรรจุลงในชิปประมวลผล จะมีการเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก ๆ 2 ปี
4
การรู้แนวโน้มแบบนี้ ทำให้เราสามารถคาดการณ์ ความสามารถของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ ตั้งแต่ความเร็วของการประมวลผล ความจุของแรม จำนวนพิกเซลของกล้องดิจิทัล และอื่น ๆ อีกมากมาย
5
จนสุดท้าย นำไปสู่การคาดการณ์เทคโนโลยีในอนาคตได้นั่นเอง
ทีนี้ก็มาถึงไฮไลต์ของเรื่องนี้ว่าอนาคตที่กำลังจะมาถึง Kurzweil คาดการณ์อะไรไว้บ้าง ?
- ปี 2024 รถยนต์ไร้คนขับ ถูกใช้ในวงกว้างเป็นที่เรียบร้อย และอาจถึงขั้นไม่อนุญาตให้คนขับรถด้วยตัวเองอีกต่อไป
22
- ปี 2029 คอมพิวเตอร์จะผ่านการทดสอบของทัวริง ที่เป็นการทดสอบความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ ว่าใกล้เคียงมนุษย์แล้วหรือไม่ ทั้งในแง่ความฉลาดและอารมณ์
โดยวิธีการทดสอบคือ ให้คนจำนวนหนึ่งที่เป็นผู้ตัดสิน สื่อสารกับคนและคอมพิวเตอร์ผ่านรูปแบบการพิมพ์ข้อความ หรือเสียงก็ได้ แล้วให้ตัดสินว่า คู่ที่สนทนาอีกฝั่ง เป็นคนหรือคอมพิวเตอร์
5
ถ้าหากทายผิด หรือไม่สามารถแยกได้ ถือว่าผ่านการทดสอบของทัวริง และสรุปได้ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเลียนแบบความคิดที่เหมือนมนุษย์ได้แล้ว
2
ซึ่งหากถึงเวลานั้นจริง ก็ดูเหมือนว่าเราคงสามารถ พูดคุยกับปัญญาประดิษฐ์ได้เหมือนกับเพื่อนคนหนึ่งเลย และบางครั้งอาจนำไปสู่การตกหลุมรักในที่สุดก็ได้ เช่นเดียวกับ Theodore ที่ตกหลุมรัก Samantha ปัญญาประดิษฐ์ในภาพยนตร์เรื่อง Her ที่ฉายในปี 2013
8
และในเวลาใกล้เคียงกัน เราจะมีอุปกรณ์ขนาดเล็กที่รู้จักกันในชื่อ Nanobots กระจายอยู่ในร่างกาย โดยอุปกรณ์นี้ ทำหน้าที่ในการต่อสู้กับโรคร้ายต่าง ๆ รักษาบาดแผล รวมถึงซ่อมแซมความจำ และเพิ่มความสามารถทางปัญญาของเราด้วย
12
ซึ่งเมื่อถึงช่วงเวลานั้น มนุษย์จะป่วยได้ยากและเริ่มมีอายุยืนยาวมากขึ้น จนอายุ 100 กว่าปีถือเป็นเรื่องที่ปกติไปแล้ว
13
- ช่วงทศวรรษ 2030 มนุษย์เข้าใจระบบการทำงานของสมองเชิงลึก จนถึงขนาดสามารถอัปโหลดสมองของคนเรา ไปสู่คอมพิวเตอร์หรือหุ่นยนต์ได้
8
ช่วงเวลาเดียวกัน Metaverse หรือโลกเสมือนจริง ที่เรารู้จักมาจากกระแสที่ Meta หรือชื่อเดิมว่า Facebook กำลังจะสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราจะเริ่มรู้สึกเหมือนอยู่ในอีกโลกนั้นจริง ๆ 100%
12
นั่นหมายความว่า เราจะได้ใช้ชีวิตไม่แตกต่างจาก ภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One ในไม่ช้า
6
- ปี 2040 มนุษย์สามารถสร้างอาหาร และสิ่งของต่าง ๆ จากอากาศ ได้ด้วยนาโนเทคโนโลยี
8
- ภายในปี 2045 ความเป็นมนุษย์ และเครื่องจักรกลจะแบ่งแยกได้ยาก เพราะร่างกายของเราจะไม่ได้มีเฉพาะชีวภาพอีกต่อไปแล้ว
 
- และที่น่าสนใจที่สุดอีกเรื่องคือ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “The Singularity” หรือการที่คอมพิวเตอร์พัฒนา จนมีความสามารถที่เหนือมนุษย์ทุกด้าน และมนุษย์ทั่วไปไม่สามารถตามได้ทันอีกต่อไป
13
โดยเหตุการณ์หลังจากนี้ Kurzweil บอกไว้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์แล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งก็ตรงกับความคิดของ John von Neumann นักคณิตศาสตร์คนแรก ที่พูดถึงคำว่า Singularity ขึ้นมา
5
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าอนาคตนั้นจะเป็นไปตามที่ Kurzweil คาดการณ์ไว้หรือไม่ จนกว่าจะถึงเวลานั้นแล้วจริง ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อดตื่นเต้นไม่ได้เช่นกัน
1
แต่ต้องบอกว่าเรื่องนี้ คงไม่มีใครตื่นเต้นเท่ากับ Kurzweil อีกแล้ว
เพราะเขาในวัย 73 ปี ปัจจุบันกำลังรักษาเนื้อรักษาตัวอย่างดี
ด้วยการกินอาหารเสริมวันละเป็นร้อยเม็ด และฉีดสารต่าง ๆ เช่น Phosphatidylcholine เพื่อให้มีชีวิตรอด
เพื่อจะดูว่าสิ่งที่เขาทำนายไว้ ถูกต้องจริงหรือไม่..
19
References
2
โฆษณา