7 ม.ค. 2022 เวลา 23:59 • การศึกษา
เรียนรู้การทำงานสไลตล์เยอรมันจากปัญหากระเป๋าดีเลย์
หลังจากที่ผมมาอยู่ที่เยอรมันได้ประมาณ 3 เดือน ผมก็ได้สัมผัสความเป็นเยอรมันในบางส่วนเช่น ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรม วิธีคิด และระบบการทำงาน จึงทำให้วันนี้ผมอยากมาเล่าประสบการ์ณบางส่วนที่เกี่ยวกับการทำงานและวิธีคิดของคนเยอรมันที่ผมได้สัมผัสในช่วงสั้นๆกันครับ
เรื่องราวการได้เห็นวิธีการทำงานของชาวเยอรมันของผม เริ่มต้นเมื่อผมเดินทางมาถึงสนามบินในเมืองมิวนิค หลังจากเดินทางจากไฟลต์ที่ยาวนานประมาณ 12 ชั่วโมง จากสนามบินสุวรรณภูมิ ปัญหาเเรกที่เจอมาถึงคือ กระเป๋าเดินทางทั้งหมดของผมดีเลย์ เนื่องจาก ผมตกเครื่องที่ transit จาก Frankfurt มา Munich เพราะ มีคนที่อยู่หน้าผมในแถวตรวจคนเข้าเมืองโดนจับด้วยความผิดบางอย่าง เเละกระเป๋าดันไม่ตามมาด้วย จากปัญหาดังกล่าวผมจึงต้องเดินไปแจ้งที่ศูนย์ช่วยเหลือและแจ้งเรื่องกับสายการบินที่ผมเดินทางมาเมื่อผมอยู่ที่สนามบินมิวนิค
หลังจากที่ผมเดินเข้าไปแจ้งปัญหาที่ออฟฟิศสายการบิน การจัดการเมื่อกระเป๋าหายก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามกระบวนการปกติที่ทุกสายการบินทำเมื่อกระเป๋าของผู้โดยสารหาย
แต่ว่าในระบบการทำงานมีสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตได้คือ ระบบการทำงานที่จะต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง 100% และไม่มีการข้ามขั้นตอนใดๆทั้งสิ้น
ตัวอย่างเช่น การที่ผมจะทำการรับกระเป๋า ผมจำเป็นที่จะต้องมีเบอร์โทรศัพท์ของประเทศเยอรมันเท่านั้น ไม่อย่างนั้นกระบวนการส่งมอบกระเป๋าจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งในตอนนั้น ผมพึ่งเดินทางมาถึงประเทศเยอรมันเพื่อการศึกษา นอกจากนั้นผมไม่มีช่องทางการติดต่อใดๆเลยในประเทศเยอรมัน นอกจากอีเมลล์ส่วนตัวของผมและแอปพลิเคชั่นพื้นฐาน เช่น Line และ Whatsapp
ผมจึงบอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่า ผมพึ่งเดินทางมาถึง ผมไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ แล้วผมต้องการกระเป๋าเดินทางโดยด่วนที่สุด เนื่องจาก ในช่วงที่ผมมาเป็นช่วงฤดูหนาว และในตอนนั้นผมมีของที่ติดตัวแค่ โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ค และเสื้อกันหนาวแค่เพียงตัวเดียว และผมต้องการของใช้หลายๆอย่างที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง
นี่คือสิ่งที่ผมอธิบายกับเจ้าหน้าที่ของสายการบิน และสิ่งที่พนักงานตอบกลับมาคือ คุณต้องมีเบอร์โทรศัพท์ของประเทศเยอรมันเท่านั้น เราถึงจะดำเนินการต่อให้คุณ เพราะ ถ้าคุณมีแค่อีเมลล์ เราจะทำการแจ้งเรื่องในอีเมลล์ของคุณ และจะดำเนินการต่อไปเมื่อคุณมีเบอร์โทรศัพท์มือถือของเยอรมัน
หลังจากสิ้นคำพูดของพนักงาน
ณ เวลานั้นผมรู้สึก โมโห แค่ขั้นตอนแค่นี้ทำไมจะต้องเป็นไปตามกระบวนการ 100% เพราะ ในตอนนั้นผมก็บอกพนักงานว่า ผมสามารถตอบอีเมลล์ได้ทันทีเมื่อคุณต้องการ การยืนยันอะไรต่างๆ ผมสามารถทำได้ ขอแค่คุณบอกมาว่าให้ผมทำอะไร
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อผมได้ทำการวิเคราะห์ด้วยตนเองจากเหตุการณ์นั้นและพยายามสรุปว่าทำไมพนักงานถึงตัดสินใจแบบนั้น จึงทำให้ผมคิดได้ว่า ถ้าหากเขาไม่ยอมทำงานให้เป็นระบบอย่างถูกต้อง 100% และใจอ่อนต่อเรื่องราวปัญหาส่วนตัวของผมเอง อาจทำให้ใครอีกหลายคนที่กำลังทำงานในส่วนนี้เกิดปัญหาที่ตามมา และทำงานยากมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อถึงเวลาจัดส่งถ้าหากผมมีเบอร์โทรศัพท์ เมื่อเกิดปัญหาเร่งด่วนเรื่องการจัดส่ง พนักงานจัดส่งอาจจะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อและทำให้เสียเวลาการจัดส่งกับผู้โดยสารบางคนที่กระเป๋าดีเลย์ด้วยเช่นเดียวกัน
สรุป จากประสบการ์ณดังกล่าว จะเรียกว่าคราวซวยก็คงไม่ผิดหนักครับ แต่ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ และได้มองเห็นวิธีคิด การทำงาน ในสไตล์เยอรมัน ที่มีระบบการทำงานที่เคร่งครัด เพื่อทำให้การทำงานของพวกเขามีประสิทธิภาพ และลดปัญหาต่างๆเมื่อ พวกเขาทำงาน
เสริมอีกนิดครับ ในมุมมองของผม จริงๆเรื่องวิธีการทำงานที่เคร่งครัดและทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการทั้งหมดของชาวเยอรมันนั้นมีรากฐานที่หยั่งลึกตั้งแต่ระบบการศึกษา แต่ผมขอเอาไปเล่าในบทความต่อไปนะครับ เนื่องจาก เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดมากๆ
ทั้งหมดก็เป็นเรื่องราวที่ผมอยากจะแชร์ในวันนี้ครับ อ้อแล้วก็สุดท้ายผมได้รับกระเป๋าครบทุกใบนะครับ แต่ว่าต้องรอจากวันนั้นอีกสามวัน เพราะ วันที่ผมเดินทางมาถึงเป็นวันอาทิตย์ ในเยอรมันและหลายๆประเทศในยุโรป ทุกๆอย่างจะปิด แม้กระทั่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต เลยทำให้ผมต้องเปิดเบอร์ในวันถัดไป กว่าจะยืนตัวตัวตนอะไรต่างๆเสร็จก็เลยต้องรออีกสามวัน
ขอบคุณกระเป๋าดีเลย์ที่ทำให้ได้เรียนรู้ครับ
สำหรับวันนี้ผมหวังว่าผู้อ่านจะชอบเรื่องราวที่ผมเล่า และถ้าใครมีประสบการณ์อื่นๆอยากแชร์สามารถแชร์ได้คอมเมนต์ได้เลยครับ
โฆษณา