Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A WAY OF LIFE : ทางผ่าน
•
ติดตาม
9 ม.ค. 2022 เวลา 02:12 • ไลฟ์สไตล์
“ยึดติดอยู่กับสิ่งใด ก็เป็นทุกข์อยู่กับสิ่งนั้น”
2
“ … การดูหนังฟังเพลง การเสพข่าวสาร
การหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวในโลกพวกนี้
มันมีแรงดึงดูดทั้งสิ้น
มันจะดึงให้เราไหลไป
1
ถ้าใครคิดว่าสู้ได้
ประมาทอย่างยิ่งเลยทีเดียวนะ
ไม่มีใครหรอกในวัฏฏะ
ที่จะสู้กำลังของวัฏฏะได้
1
…
ธรรมดากระแสของโลก กระแสของวัฏฏะ
ก็จะมีแรงดึงดูดอยู่
เมื่อเราสัมผัสโลก เราก็จะถูกโลกดึงดูดไป
ใจก็จะไหลไปกับอารมณ์ต่าง ๆ
เกิดการติดข้อง หลงอยู่กับอารมณ์ต่าง ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ยึดมั่นอยู่กับสิ่งใด ติดอยู่กับสิ่งใด
ก็เป็นทุกข์อยู่กับสิ่งนั้น
เพราะว่ามันไม่ได้เป็นไป ตามใจของเราหรอกนะ
เหมือนที่เมื่อวานพระส่งอารมณ์
ติดสบาย มันก็ทุกข์ไปกับความสบายนั่นแหละ
เพราะว่าในความเป็นจริง
มันก็ไม่ได้เป็นไปดั่งใจของเราทุกวันหรอก
พอมันไม่สบาย ทีนี้ก็ทุกข์เลยทีเดียว
ติดอยู่กับสิ่งใด มันก็ทุกข์อยู่กับสิ่งนั้นนั่นเอง
ถ้าไม่ติดน่ะสิ มันถึงจะไม่ไปทุกข์ไปกับสิ่งนั้น
ที่เรียกว่า ละอุปาทาน ละตัณหาอุปาทานนั่นเอง
กระบวนการนี้ มันจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเลย
เมื่อเราเข้าสู่วิถีที่ถูกต้อง
ที่เรียกว่า การอบรมสติปัฏฐาน 4 หรือ อริยมรรคมีองค์ 8
ปกติโลกมันมีแรงดึงดูด
แล้วการที่เราหมกมุ่นอยู่กับการใช้ชีวิต
อยู่กับโลก สัมผัสโลกเนี่ย
ใจเราก็จะถูกดึงดูดไปนั่นเอง
แต่ถ้าเราเข้าสู่วิธีการฝึกฝนขัดเกลาตนเองที่ถูกต้อง
ก็คือ เริ่มจากการลดการสัมผัสโลกลง
การสำรวมอินทรีย์
ก็คือ อยู่กับตนเองภายในให้มากขึ้น
ผลจากการที่เราลดจากการสัมผัสโลกลง
ลด ละ สละ วาง
สิ่งที่มันไม่จำเป็น สิ่งที่มันรกรุงรัง
ออกไปจากชีวิตของเราเนี่ยนะ
มีความสำรวมตนเองมากขึ้น
เจริญสติสัมปชัญญะ ทำความรู้สึกตัว
ก็จะตั้งสติให้ดีขึ้นนั่นเอง
ตราบใดที่เรายังคลุกเคล้าไปกับเรื่องราวในโลก
มันตั้งสติยาก เพราะสู้แรงดึงดูดของโลกไม่ได้นั่นเองนะ
แต่เมื่อใดที่เราลดการสัมผัสโลกลง
แล้วก็สำรวมตนอยู่ภายใน
ตั้งสติไว้กับกายให้มากขึ้น
ผลที่ตามมาสติก็เริ่มตั้งหลักได้
เริ่มมีสติ มีความรู้สึกตัวอยู่
จากใหม่ ๆ ที่รู้ตัวแป๊บนึงนี่
มันไหลไปทั้งวันเลย มันหายไปทั้งวันเลย
ก็เริ่มมีสติได้บ่อยขึ้น ๆ เรื่อย ๆ นะ
ฝึก ๆ ไปเริ่มรู้แนวทางแล้ว
ถ้าเรายิ่งไปสัมผัสโลก ใจมันก็ไหลไป
มันก็ตั้งสติได้ยากนะ
เมื่อเราลดสัมผัสโลกลง
สำรวมอินทรีย์ สำรวมตนเองให้มากขึ้น
มันก็เริ่มตั้งสติได้ง่ายขึ้น ใจก็นิ่งขึ้น สงบขึ้น
ฝึก ๆ ไป พอมีสติตั้งมั่น
ก็เริ่มหลุดออกจากแรงดึงดูดของโลก
กามราคะ ก็คือ แรงดึงดูดของโลก
ความยึดติดต่าง ๆ ก็คือ แรงดึงดูดของโลก
ผลที่ตามมา คือ เมื่อจิตตั้งมั่น
มันก็หลุดจากแรงดึงดูด
มันก็ไม่ไหลไปกับกระแสของโลก
ความพอใจ - ไม่พอใจนั่นเอง
ยิ่งจิตถ้ามีกำลังเข้าถึงอุเบกขาดี ๆ
มันก็จะไม่ไหลไป
แต่สภาวะนี้ ไม่ได้หมายความว่า
มันจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
มันเกิดขึ้นในระหว่างที่เรา
ดำเนินในวิถีที่ถูกต้องต่างหาก
ถ้าเรากลับวกวนไปคลุกเคล้าอยู่กับโลกใหม่
ความตั้งมั่นของใจ ก็จะหายไป
ใจมันก็จะไหลไป
มันก็จะกลับไปยึดติด หลงความสวยความงาม
ความมี ความไม่มี
ไหลไปกับกระแสโลก เกิดความทุกข์ใจ
เกิดความบีบคั้นใจอยู่ร่ำไปเหมือนเดิม
แต่ถ้าเราได้เรียนรู้แล้ว เห็นแล้ว เห็นแนวทางแล้ว
เห็นวิถีอันประเสริฐแล้ว
ยึดติดอยู่กับสิ่งใด มันก็ทุกข์อยู่กับสิ่งนั้น
ถ้าจะไม่ทุกข์ ก็อย่าไปยึดติด
ถ้าจะไม่ยึดติด ก็ต้องสำรวมตนเอง
ลดการสัมผัสโลกลง
ถ้ายิ่งวิถีสมณะ ก็คือ ละโลกเลย
หันหลังให้โลก ไม่ไปสัมผัสโลกนะ
สำรวมอยู่ภายใน
เพราะว่าวิชาของพระพุทธศาสนา
เป็นวิชาเรื่องของการทวนกระแส
ตราบใดที่เรายังสัมผัสโลกอยู่เนี่ย
เราสู้แรงดึงดูดของโลกไม่ได้หรอก
มันจะดึงเราไป
1
ถ้าใครคิดว่าสู้ได้ นั่นคือ ความหลงอย่างยิ่ง
ยังเป็นผู้ประมาททีเดียว
1
ผู้ที่ตื่นแล้วเนี่ย ท่านรู้กำลังของวัฏฏะ
กำลังของกระแสโลก
ท่านก็จะไม่สัมผัสโลกอีกทีเดียว
ก็จะเป็นวิถีของการทวนอยู่ภายใน
1
2
ผลจากการที่เราไม่สัมผัสโลก คือ คีย์สำคัญเลย
…
เคล็ดลับที่สำคัญเบื้องต้น ก็คือ
ต้องลดการสัมผัสโลกลง
…
การดูหนังฟังเพลง การเสพข่าวสาร
การหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวในโลกพวกนี้
มันมีแรงดึงดูดทั้งสิ้น
มันจะดึงให้เราไหลไป
ถ้าใครคิดว่าสู้ได้ ประมาทอย่างยิ่งเลยทีเดียวนะ
ไม่มีใครหรอกในวัฏฏะ
ที่จะสู้กำลังของวัฏฏะได้
จะพ้นได้ ก็คือ ต้องแยกตัวออกมา
1
แต่ธรรมดา คฤหัสถ์ฆราวาสก็ยังมีกิจภาระที่ต้องทำ
เพราะฉะนั้น ก็ทำได้ ก็คือ ลด ละ สละ วาง
สิ่งที่ไม่จำเป็น
แต่สำหรับผู้ที่มุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อการหลุดพ้น
ดำเนินในวิถีของสมณะ
ท่านก็จะสละโลกออกไปเลย ไม่ไปสัมผัสอีก
1
ถ้ายังวกวนกลับไปอีก
ก็จะติดเหมือนเดิมนั่นแหละ
แล้วก็จะถูกความทุกข์บีบคั้นเหมือนเดิม
เจ็บมาก ๆ ไม่จำ มันก็จะไหลไป
แต่ถ้าจำแล้วก็ไม่ไปสัมผัสอีก
ก็จะดำเนินในวิถีของสมณะ ก็คือ
วิถีที่จะพ้นออกไป จากวังวนของวัฏสงสาร
มันคือแรงดึงดูด มันเป็นกฏธรรมชาติ ธรรมดา มีแรงดึงดูด
ถ้าจะไม่ให้ถูกดูด ก็อย่าไปสัมผัสมันสิ
ตราบใดที่ยังสัมผัสมัน ก็ต้องถูกดูดเป็นธรรมดา
มันเป็นเรื่องธรรมชาติเลย … “
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
youtube.com
ยึดติดอยู่กับสิ่งใด ก็เป็นทุกข์อยู่กับสิ่งนั้น | ธรรมให้รู้•2565 : ตอนที่ 6
Photo by : Unsplash
6 บันทึก
21
10
7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เกล็ดธรรมคำครู
6
21
10
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย