10 ม.ค. 2022 เวลา 10:50 • ธุรกิจ
สรุปสิ่งที่ควรรู้ ถ้าอยากพาแบรนด์ ไปตีตลาดต่างประเทศ
สำหรับคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ก็คงอยากมองหาลู่ทาง ให้สินค้าของเราเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่จะเข้าถึงคนหมู่มากได้ ถ้าในประเทศมันถึงทางตันแล้ว หลายคนก็จะนึกถึง การเอาสินค้าของตัวเอง ไปตีตลาดวางขายในต่างประเทศ
แต่เมื่อตลาดต่างประเทศที่มีปริมาณกำลังซื้ออย่างมหาศาล คือสิ่งที่หอมหวาน และเราก็ไม่ใช่คนเดียวที่มองเห็นโอกาสนี้ แถมการตีตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย
แล้วเราจะใช้กลยุทธ์ หรือควรรู้อะไรบ้าง หากอยากบุกไปตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาส สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ?
THE BRIEFCASE จะสรุปเรื่องที่ควรรู้ในการไปตีตลาดต่างประเทศให้ฟัง
1. ทำ Branding วางจุดยืนให้ชัดเจน หาจุดแข็งของแบรนด์ให้ได้
แน่นอนว่าในตลาดบ้านเขาเอง (ต่างประเทศ) ก็มักจะมีสินค้าให้เลือกเยอะแยะมากมาย แล้วสินค้าต่างชาติจากไทยอย่างเรา ถ้าจะขายของทั่ว ๆ ไป ที่หาจุดเด่นอะไรไม่เจอ ก็คงจะไม่มีใครสนใจมากนัก
ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การต้องหาจุดเด่น จุดแข็งของแบรนด์ให้เจอ
แล้วใช้สิ่งนี้ไปงัดสู้กับสินค้าต่างชาติอื่น ๆ ให้ได้
อย่างเช่น PAÑPURI ที่จะเน้นขายความเป็นไทย ขายความเชี่ยวชาญด้านสปา ในส่วนนี้ก็จะไปตอบโจทย์คนที่ต้องการสินค้าสุขภาพมากขึ้น
ซึ่งประเทศไทยเองก็โดดเด่นเรื่องผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และการใช้ส่วนผสมธรรมชาติออร์แกนิกอยู่แล้ว
PAÑPURI จึงใช้ตรงนี้เป็นจุดแข็งของแบรนด์ ทำให้คนเข้าใจจุดแข็งสินค้าได้ชัดเจน
นอกจากจะต้องมีจุดเด่นแล้ว เรายังต้องมีสินค้าพระเอกที่จะเอาเข้าไปชนะในตลาดต่างแดนให้ได้
แล้วให้เราลงทุนให้สินค้าตัวนั้นเป็นหลักก่อน เพื่อที่จะให้คนต่างชาติรู้จัก และคุ้นเคยสินค้าของแบรนด์เราก่อนที่จะขยายสินค้าอื่น ๆ ต่อไป
2. เข้าใจวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ แล้วปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
ในแต่ละประเทศนั้น มีช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไป
เพราะสภาพสังคมต่างกัน วัฒนธรรมการดำเนินชีวิต การเลือกซื้อสินค้าก็ย่อมต่างกันเป็นธรรมดา
การที่เราจะคิดกลยุทธ์มาเพียง 1 อย่าง แล้วหวังว่าจะเข้าได้กับตลาดในทุกประเทศนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ดังนั้นเราต้องปรับตัวให้ลื่นไหลเหมือนสายน้ำแทรกซึม เข้าใจตลาดของแต่ละประเทศอย่างลึกซึ้ง
ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในประเทศนั้น ๆ
เช่นกรณีตัวอย่างของ คาราบาว
ที่มองว่าประเทศอังกฤษ กีฬาฟุตบอลนั้นถือเป็นหัวใจของคนในประเทศ
คาราบาว จึงเข้าไปตีตลาดในประเทศอังกฤษ ผ่านการทำสปอร์ตมาร์เก็ตติง คือ เข้าไปสนับสนุนทีมฟุตบอล รวมถึงฟุตบอลถ้วย ก็ทำให้ชาวอังกฤษนั้นเกิดการรับรู้แบรนด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งยังมีการลงพื้นที่เพื่อแจกจ่ายเครื่องดื่มฟรีให้กับแฟน ๆ
 
โดยปัจจุบันทางคาราบาวกรุ๊ปเองก็เป็นสปอนเซอร์ให้กับทีม Chelsea และยังเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับทาง อิงลิชฟุตบอลลีก หรือ EFL โดยมีการใช้ชื่อ “คาราบาวคัพ” พร้อมเสื้อนักกีฬาที่มีโลโกของคาราบาว ตลอดระยะสัญญา
เรื่องนี้ยังถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะนอกจากจะได้ตีตลาดประเทศอังกฤษแล้ว คนที่ดูบอลอังกฤษทั่วโลก ยังได้รู้จักคาราบาวมากขึ้นด้วย
ในส่วนของคนที่อยากเข้าไปบุกตลาดจีน ก็ไม่อาจเดินดุ่ม ๆ เข้าไปทำการตลาดได้เอง
แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง เถ้าแก่น้อย หรือคาราบาวเอง จึงเลือกจับมือกับ Local partner ที่เป็นคนจีนท้องถิ่นจริง ๆ เพราะจะมีความเข้าใจตลาดจีนและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง ต่างจากธุรกิจต่างชาติที่อยู่ในประเทศจีน
3. ตามเทรนด์ช่องทางการตลาดให้ทัน
เรื่องสำคัญต่อมาก็คือ ช่องทางการตลาด ต้องตามเทรนด์ให้ดี
ซึ่งเราก็ต้องมาดูว่า ในตอนนี้ประเทศที่เราสนใจเข้าไปทำธุรกิจ เขาใช้ช่องทางการตลาดกันแบบไหน
เช่น ในประเทศจีน ที่ช่องทางมาแรงตอนนี้นั่นคือ TikTok หรือ Douyin ของจีน
ซึ่งเป็นการไลฟ์ขายของออนไลน์ มีฟีเชอร์สามารถเปิดร้านขายใน TikTok ได้เลย
และตอนนี้แบรนด์ต่าง ๆ ของจีนกำลังสนใจช่องทางนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ Douyin ยังเปิดให้ทำ Cross-Border E-commerce หรือก็คือสามารถซื้อขายกันข้ามประเทศได้แล้ว นี่จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสของนักธุรกิจไทยที่อยากจะบุกตลาดจีน
1
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีสิ่งที่ต้องระวังในการบุกตลาดต่างประเทศ คือ หลายคนมี Mindset ว่า คนต่างประเทศจะมีกำลังซื้อมาก จึงดันไปคิดว่า แค่เป็นสินค้าไทย ก็คงขายได้แล้ว ซึ่งนั่นอาจเป็น “กับดัก” ที่น่ากลัว
เพราะผู้บริโภคจะคำนึงเรื่อง Value of money หรือก็คือ การซื้อสินค้าหรือบริการต้องคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
และการขายสินค้าดีในราคาถูกก็อาจเป็นเรื่องที่ธรรมดาไปแล้ว
เราจึงต้องศึกษาและวางกลยุทธ์ให้ดีที่สุดก่อนตัดสินใจลงมือ
และอย่าลืมว่า เราไม่ใช่คนเดียวที่มองเห็นและหมายตาโอกาสทองอันหอมหวานนี้
การวางแผนและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ก็อาจทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จในต่างแดนได้ไม่มากก็น้อย..
References
โฆษณา