11 ม.ค. 2022 เวลา 11:00 • คริปโทเคอร์เรนซี
สำรวจประเทศที่เป็นมิตรกับ “คริปโตเคอร์เรนซี”
เราจะพามาสำรวจนโยบายการจัดเก็บภาษีของประเทศที่เป็นมิตรกับนักลงทุนและธุรกิจคริปโตฯ จนได้ฉายาว่าแดนสวรรค์ของนักลงทุนบิตคอยน์ จะมีประเทศไหนบ้าง แต่ละประเทศจะจัดเก็บภาษีอย่างไร ตามมาอ่านกัน
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap และ ประชาชาติธุรกิจ)
ประเทศที่เป็นมิตรกับ “คริปโตเคอร์เรนซี”
#สิงคโปร์
ธนาคารกลางสิงคโปร์ มองว่าระบบนิเวศของสกุลเงินดิจิทัลต้องได้รับการตรวจสอบเพื่อป้องกันการฟอกและกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่นวัตกรรมจะต้องไม่ถูกยับยั้ง ในปี 2020 หน่วยงานด้านภาษีของสิงคโปร์ได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับภาษีคริปโต ซึ่งชี้แจงว่า “กำไรจากการซื้อขายระยะสั้นต้องเสียภาษี”
แต่ “บุคคลและธุรกิจ” ที่ถือสินทรัพย์คริปโตเพื่อการลงทุนระยะยาว ไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษีกำไรจากการซื้อขายคริปโตฯ
#ฮ่องกง
สินทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกงที่ซื้อและถือไว้เป็นการลงทุนระยะยาวไม่ต้องเสียภาษีใดๆ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ฮ่องกงไม่เก็บภาษีกำไรจากการขายคริปโต
แต่ ธุรกิจหรือบุคคลธรรมดาที่จดทะเบียนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็น “ธุรกิจปกติ” ที่ ภาษี 17% เฉกเช่นธุรกิจประเภทอื่นๆ
#โปรตุเกส
โปรตุเกสเป็นชาติหนึ่งที่ทั้งบรรดานักขุดและนักเทรดเหรียญชื่นชอบ เนื่องจากรัฐบาลได้ออกกฎหมายตั้งแต่ปี 2018 ที่ข้อกำหนดว่า ผู้เทรดเงินสกุลดิจิทัลได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ บุคคลในโปรตุเกสที่มีกำไรจากการซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลจะไม่ถูกเก็บภาษีกำไรจากการขายนอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินอื่นๆ ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย
แต่ “ธุรกิจที่ยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโต” ยังคงต้องเสียภาษีเงินได้ตามปกติเหมือนกับเอกชนทั่วไป
#สวิตเซอร์แลนด์
ธุรกรรมคริปโตได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับภาษีเงินได้บุคคลแบบดั่งเดิมโดย Swiss Federal Tax Administration หน่วยงานด้านภาษีของสวิตฯ ถือว่า กำไรและขาดทุนจากการซื้อขายคริปโตของบุคคลทั้งหมดได้รับการยกเว้นภาษี
แต่ “บริษัทที่ทำธุรกิจด้านคริปโท” จำเป็นต้องรายงานผลกำไรและต้องเสียภาษีต่อรัฐ
#สหรัฐอเมริกา
แต่ละมลรัฐในอเมริกา อาจมีกฎระเบียบที่แตกต่างกัน ทว่าสำนักงานสรรพากรของรัฐบาลกลางวอชิงตันกำหนดว่า กรณีซื้อขายคริปโต เพื่อทำกำไรในระยะสั้น จะถูกเก็บภาษีราว 10-37% ส่วนกำไรจากการลงทุนระยะยาวจะเสียภาษีระหว่าง 0-20%
นอกจากนี้ ธุรกรรมคริปโตซึ่งมีมูลค่าเกิน 10,000 ดอลลาร์ ต้องแจ้งต่อสรรพากรสหรัฐภายใน 15 วัน ส่วนผลกำไรหรือขายทุนจากการเทรดสามารถหักลบกันได้
#เยอรมนี
เยอรมนียังไม่ได้มีกฎหมายที่เก็บภาษีจากการลงทุนในสกุลดิจิทัล จึง “ไม่เก็บภาษี” จากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ที่ถือครองเกิน 1 ปี นอกจากนี้ยังยกเว้นภาษี 600 ยูโร สำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่แลกเปลี่ยนเป็นเงินตราทั่วไปที่ออกโดยรัฐบาล หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ
แต่ “ผู้ที่มีกำไรจากการซื้อขายคริปโตตั้งแต่ 600 ยูโรขึ้นไป ภายใน 1 ปี” จะต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นกฎหมายเดิมเช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น
#มาเลเซีย
เนื่องจากมาเลเซีย ไม่ถือว่าเงินสกุลดิจิทัลเป็นสินทรัพย์หรือธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ธุรกรรมสกุลดิจิทัลจึง “ยังไม่ต้องเสียภาษี” ซึ่งกฎหมายนี้ใช้เฉพาะกับบุคคลเท่านั้น
แต่ “ธุรกิจที่ทำธุรกิจด้านคริปโต” ต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีเงินได้ของมาเลเซีย
ฝากติดตามเพจ Cashury - เพจความรู้พื้นฐานด้านการเงินการลงทุน
ติดตาม Cashury ผ่านช่องทางอื่นๆ ได้ที่
🔸YouTube Channel: https://www.youtube.com/cashury
โฆษณา