11 ม.ค. 2022 เวลา 12:52 • สุขภาพ
11-01-21 - ทดสอบ
เนื่องในโอกาสเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้ามาเกือบครบ 2 ปีแล้ว (ระหว่างทางมันเปลี่ยนเป็น ไบโพลาร์ ไปตอนไหนก็ไม่รู้) .. เลยอยากลองเขียนบันทึกเก็บไว้อ่านหน่อย
ตอนแรกที่ไปหาหมอก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะเป็นโรคยอดฮิต แค่รู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้ว เอะอะอะไรก็ร้องไห้ โกรธกับเรื่องไร้สาระ แล้วก็เหนื่อยๆ เซ็งๆ ง่วงนอนตลอดเวลา เลยอยากจะลองไปหาหมอดูเผื่ออะไรจะดีขึ้น กว่าจะได้คิว กว่าจะถึงวันหมอนัดก็ปาเข้าไปเดือนกว่า รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นปกติดีแล้วไม่ต้องหาก็คงได้แต่ไหนๆ นัดไว้แล้วก็เลยไป หมอถามว่า มีอาการยังไง ก็เล่าให้หมอฟังแบบนี้แหละ แล้วก็บอกหมอด้วยว่าตอนนี้หายแล้วเพราะรอคิวหมอนานมากเลยค่ะ หมอก็ยิ้มๆ แล้วบอกว่า อาการมันเข้าข่ายแหละ เอายาไปกินนะ ..
เป็นงั้นไปเฉยเลย .. ได้โรคประจำตัวเพิ่มมาอีก 1 โรค
หลังจากนั้นก็รักษาด้วยยามาตลอด ไปหาหมอตามนัด กินยาไม่เคยขาด อาการก็มีขึ้นๆ ลงๆ บ้าง ตามธรรมชาติ แต่รวมๆ มันก็รู้สึกว่าดีขึ้นนะ ไอ้ที่พีคๆ หน่อยก็มีบ้างแต่คงเอาไว้เล่าวันหลัง ..
เวลาไปหา หมอจะไม่ค่อยพูดอะไรมาก จะถามเหมือนเวลาเราไปหาหมอตอนปวดท้อง เป็นไข้ ว่า มีอาการเป็นยังไงบ้าง บลาๆๆๆ .. ถ้ารอบไหนเราพูดน้อยก็ตรวจเร็ว บางทีรอคิว 2 ชม ได้ตรวจ 5 นาที ก็มี หมอจะปรับยาไปตามอาการที่เราบอก ช่วงแรกๆ บอกว่าร้องไห้ไร้เหตุผล หมอก็ให้ยาซึมเศร้า บอกว่ากลางคืนนอนไม่หลับ ก็ให้ยานอนหลับ อะไรประมาณนี้ เหมือนเป็นโรคปกติทั่วไม่ได้มีการพูดคุยอะไรยาวๆ แบบที่เคยเห็นในหนัง หรืออันนั้นต้องไปหานักจิตวิทยาก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันเพราะไม่เคยไป
ก็อยู่กับมันไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไป จนเมื่อประมาณปลายปีก่อนไปเห็นบทความของคุณหมอท่านหนึ่งบอกว่า ปัญหาใหญ่อีกอย่างของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าคือ ไม่มีสมาธิ สูญเสียความสามารถในการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานๆ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ซึ่งมันค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เรากำลังมีปัญหา คุณหมอยังให้วิธีแก้มาด้วย คือ ให้อ่านหนังสือ .. อ่านอะไรก็ได้ จะเป็นนิยาย นิทาน หรืออะไรก็ได้ที่มันเป็นเรื่องยาวๆ เมื่อได้อ่าน สมองเราจะค่อยๆ ปรับตัวและพัฒนาขึ้นตามลำดับ ก็เลยลองทำดูแต่ไม่สำเร็จ เพราะอ่านไปซักพักก็จะเบื่อ ง่วง หรือรู้สึกว่ามันไม่น่าสนใจ สมัคร Amazon Kindle Unlimited เอาไว้(เพราะเจอโปรถูก) ก็ปล่อยจนหมดอายุอ่านอะไรไม่จบซักเล่ม การไล่ไถมือถือ แทปเล็ต ดูโซเชียลมีเดียต่างๆ ยิ่งไม่ได้ช่วยอะไร
อยู่กับมันมาจนถึงวันนี้ ถึงจะบอกว่าเข้าใจมากขึ้นแต่ไม่ได้แปลว่ามันไม่ได้สร้างปัญหาให้ชีวิต ก็เลยอยากลองเปลี่ยนวิธีบำบัดจิตดูบ้าง ในเมื่ออ่านหนังสือยาวๆ ไม่ได้ ลองเขียนอะไรยาวๆ บ้างก็น่าจะให้ผลคล้ายๆ กัน (มั้ง) .. เคยเห็น App Blockdit มานานแล้ว รู้สึกว่าน่าจะเหมาะสำหรับการนี้ ก็เลยสมัครแล้วลองเขียนบันทึกดู คิดว่าใช้เวลาช่วงเย็นๆ ค่ำๆ หลังเลิกงานเขียนอะไรวันละนิดก็ไม่น่าจะกระทบการใช้ชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่นักอะนะ ..
เมื่อปีก่อนเคยคิดว่า อยากจะลองทำอะไรให้คนเข้าใจโรคนี้ได้มากขึ้น จะได้ลดความสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิด เพราะโรคนี้มันเข้าใจยากจริงๆ ขนาดได้ใบรับรองแพทย์ว่าเป็น ยังไม่ค่อยเข้าใจมันเลย ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าโปรเจคนี้จะเป็นแค่บันทึกบ่นเรื่อยเปื่อยหรือจะพัฒนาไปถึงจุดนั้นได้ เลยคิดว่าจะค่อยๆ ลองทำๆ ไปก่อน แล้วดูว่ามันจะเติบโตไปเป็นอะไร ..
พบกันใหม่พรุ่งนี้
mm
โฆษณา