11 ม.ค. 2022 เวลา 13:40
“ห้อง407” โรงแรมผีหลอนๆแถวพัทยา
1
เริ่มเรื่องเลยนะคะ...ช่วงเดือนตุลาคมเราต้องเข้าฟังการการประชุมวิชาการเครือข่ายวิศวกรรมเครื่องกลแห่งประเทศไทยวันที่ 16-18 ตุลาคม 2556แต่ไม่ได้นําเสนอบทความนะคะ ไปเอาข้อมูลการทํางานวิจัยค่ะ และงานนี้จัดขึ้นที่โรงแรมดุสิตธานีพัทยา (อันนี้ขอเอ่ยชื่อนะคะ เพราะไม่ใช่โรงแรมที่เกิดเหตุ)
ตอนแรกดีใจมาก...ว่าภาควิชาต้องพาไปพักโรงแรมนี้ แต่แล้วก็ต้องสิ้นหวังเมื่อเราต้องไปพักโรงแรมอื่นที่อยู่ใกล้ๆพวกเราทั้ง 24 คนพร้อมเดินทางไปพัทยา
ด้วยรถตู้แต่แยก 2คันค่ะ 13คนแรกไปค้นที่หนึ่ง ส่วนเรานั่งคันที่สองกับสมาชิกอีก 10 ท่าน
เดินทางถึงโรงแรมประมาณ 4ทุ่มค่ะตอนเข้ามาข้างในเราก็ยกมือไหว้ศาลพระภูมิหน้าโรงแรมเพื่อขอให้ท่านดูแลปกปักรักษาและในช่วงนั้นประเทศไทยเรามีพายุเข้าฝนตก ฟ้าผ่า ไฟดับ บิวท์มากอ่ะบรรยากาศ โรงแรมเข้าไปจากซอยถนนใหญ่ประมาณ1 กิโลกว่าๆค่ะ ลักษณะโรงแรมเป็นตึกคล้ายๆอพาร์ทเม้นท์ มีสระว่ายน้ำข้างหลังลิฟท์ที่ขึ้นไปก็แคบๆ เข้าได้ไม่เกิน 4คนค่ะ เมื่อถึงชั้น 4 สิ่งที่พบเห็นระหว่างทางคือน้ำฝนที่สาดเข้ามา เจิ่งนองไปหมด ไฟกระพริบๆ ตกๆ ดับๆ
โอ้โห้...บิวท์เข้าไปอีก
เราได้พักกับพี่ผู้หญิงคนหนึ่งค่ะเป็นหนึ่งในอีกทีมที่ต้องนำเสนอผลงาน ซึ่งห้องต้นเรื่องคือห้อง “407” เราเป็นคนไขกุญแจเข้าไปในห้องแวบแรกที่เข้าไป ในใจก็คิดว่า
“คืนนี้ตรูเจอแน่ๆ" 5555555 แต่เราไม่ได้บอกพี่เขานะคะ วางของไรเสร็จ จัดห้องเสร็จเดินเช็คโน่นนี่นั่นเสร็จ ก็อาบน้ำต่อเลยค่ะ ง่วงนอนมากู เพลียสุดๆ เพราะเดินทางมาทั้งวันลืมบอกไปค่ะ ห้องนี้เป็นเตียงเดี่ยว เพราะฉะนั้นเรากับพี่ต้องนอนเตียงเดียวกันแต่พระเจ้าช่วย...ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ พี่ผญ.คนนั้นบอกว่า“เดี๋ยวพี่ขอไปซ้อมนำเสนอผลงานพรุ่งนี้กับเพื่อนอีกห้องก่อนนะ" แล้วนางก็จากเราไปปล่อยให้เราอยู่ห้องเจ้าปัญหานั้นคนเดียวเปลี่ยวสุดๆ ไอ้เราก็คิดว่า“หึหึ เอาอีกและ ทิ้งตรูซะแล้ว” คือบอกตรงๆค่ะ...คืนนั้นกลัวมาก ไม่รู้เพราะอะไรก็เลยลดความกลัวลงด้วยการเปิดทีวีดังๆนอน แข่งกับเสียงแอร์ในห้องที่ดังราวกับโรงน้ำแข็งและเปิดไฟทุกหลอดในห้อง ก่อนที่จะสวดมนต์ไหว้พระแผ่ส่วนกุศลซักพักด้วยความง่วงเราผลอยหลับไป
ในระหว่างที่เรานอนสภาพอากาศข้างนอกโรงแรม ฝนตกแรงมากๆ ฟ้าผ่าดังสุดๆแต่ก็ไม่ได้ทําให้เราตื่นแต่ก็ได้ยินอยู่แว่วๆสำหรับเสียงฟ้าค่ะ เวลานอนของเราก็ผ่านไปจนกระทั่งเรามาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงฟ้าผ่าแรงมาก ตอนนั้นก็เป็นเวลาประมาณตีสามกว่าๆเมื่อเรากําลังดูเวลาจากมือถือ อยู่ๆเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเสียงชักโครกในห้องน้ำดังขึ้น เสียงฟักบัวในห้อง ถูกเปิด นําไหล...แล้วก็ถูกปิด...ณ จุดๆนี้เราคิดว่าพี่ผญ.คนนั้นคงกลับมาจากห้องเพื่อนแล้ว คงจะเข้าห้องตอนเรานอนอยู่ก็เลยคิดว่าจะไม่นอนต่อ รอพี่คนนั้นออกจากห้องน้ำ แล้วค่อยนอนพร้อมกันไอ้เราก็นอนรอ 5 นาทีก็แล้ว 10 นาทีก็แล้วทำไมพี่เขายังไม่ออกมาอีกฟร่ะหรือว่า ปลดทุกข์... เราก็รออีก 10 นาที ก็ไม่มีใครออกมาจากห้องน้ำเลย...ตอนนั้นสติแตกแล้ว กลัวมาก คือบรรยากาศตอนนั้นมันให้มากค่ะ เย็นๆ
หนาวๆ ฝกตกฟ้าร้อง ในระหว่างที่เราตกใจอยู่นั้น อยู่ๆไฟในห้องดับ!!!โอ้โหว....มาด้บอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ บอกเลยว่าแทบช็อค เรานอนช็อคบนเตียงทําไรไม่ถูกเลยค่ะ ซักพักประมาณเกือบ 1นาที (1 นาทีเหมือน 1 ปี นานแทบขาดใจ)ไฟมาค่ะ เราคลุมโปงด้วยความกลัวแล้วก็หลับไปแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น อยู่ๆเราก็เห็นผญ.คนหนึ่งผมยาว ใส่ชุดสีขาวเดินออกมาจากห้องน้ำ เดินมาทางเตียงเราและเดินมาฝั่งที่เรานอน แล้วก็ยื่นหน้าลงมาใกล้เรา มองเราแล้วยิ้มแล้วก็หายตัวไป แล้วเราก็หลับต่อ อันนี้หลับแบบหลับเลยค่ะ...พอตื่นเช้ามา พบว่าไม่มีใครนอนที่เตียง ซึ่งแสดงว่า ผญ.คนนั้นไม่ได้กลับมานอนซักพักนางเปิดประตูเข้ามา ด้วยกุญแจห้องอีกดอกค่ะ เราเลยถามว่า"เมื่อคืน ได้เข้ามาในห้องป่ะ? ช่วงเวลานี้ๆๆๆๆ" เราก็อธิบายและถามไปพี่เขาตอบมาว่า “ไม่หนิ เมื่อคืนพี่นอนกับเพื่อนไม่ได้เข้ามาเลย” หึหึ
คำตอบของพี่แก เป็นเครื่องยืนยันว่า สิ่งที่เห็นเมื่อคืนเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดไปเองเราไม่ได้เล่าให้พี่เขาฟังค่ะ พอพี่เขาตอบเราเสร็จพี่ก็เลยเข้าไปอาบน้ำ
เราเลยใช้เวลาน้สวดมนต์และแผ่ส่วนกุศลให้ผญ.ท่านนั้นไปค่ะดูทรงแล้วท่านคงอยากได้ส่วนกุศลค่ะ เลยอยากให้เราสวดมนต์ให้ส่วนประวัติของโรงแรมอันนี้เราไม่ได้ถามค่ะไม่กล้าถาม กลัวถูกหาว่าบ้า
เช้าวันนั้นเราตัดสินใจว่า จะไม่อาบนํ้าจะไม่ไปในงานด้วย เพราะขี้เกียจนอนที่นี่ไม่ไหวแล้ว....กลัวมากอ่ะสุขภาพจิตเสียสุดๆ ...สุดท้ายแล้ว ทางภาควิชาให้เปลี่ยนโรงแรมได้ค่ะอีกใจก็อยากให้เขาเปลี่ยนโรงแรม เพราะดีใจมากๆๆๆ รอดแล้ว บอกเลยค่ะถ้านอนอีกวัน ตายแน่ๆ ช็อคชัวร์ๆส่วนโรงแรมที่สองไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ นอนหลับสบายใจ
โฆษณา