12 ม.ค. 2022 เวลา 12:04 • กีฬา
'คิง คาซู'​ ชายผู้ที่ไม่เคยหมดแพสชั่น
ตอนปี 1981 ที่โรงเรียนมัธยมในเมืองชิซูโอกะ คำถามสำคัญจากครูประจำชั้นคือ "โตไปจะทำอาชีพอะไรกัน?"
หมอ, ทนาย, ครู, ตำรวจ หรือแม้แต่นายธนาคาร ล้วนแล้วแต่เป็นคำตอบสุดฮิต เพราะมันคือความมั่นคงและมีเกียรติสำหรับคนยุคนั้น แต่มีเพียงคนเดียวในห้องที่ตอบคำถามดังกล่าวด้วยอาชีพซึ่งต่างออกไปจนทุกคนฉงน
"ผมจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพครับ"
คาซูโยชิ มิอุระ ในวัย 14 ย่าง 15 คือเจ้าของคำตอบนั้น
สำหรับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว อาชีพนักฟุตบอลสำหรับคนเอเชียถือว่ามองไม่เห็นความมั่นคงเลยสักนิด แต่ในเมื่อ คาซู มีความฝัน เขาไม่ลังเลใจเลยกับการออกเดินทางไล่ล่ามันแม้จะรู้ว่ายากบรมยากเลยก็ตาม
คาซู ตอนอายุ 15 ย่าง 16 กำเงินกว่า 700 ดอลล่าร์ไปตามหาความฝันที่ประเทศบราซิลด้วยตัวเอง ในยุคที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตแบบทุกวันนี้ เด็กคนนั้นต้องกล้าหาญมากขนาดไหนสำหรับการออกล่าความฝันที่คนอื่นมองว่าบ้ามากกว่าบูม
เขาเริ่มต้นจากการไปอยู่กับทีมเยาวชนซึ่งเป็นทีมลูกของ เซา เปาโล ที่ชื่อว่า คลับ แอตเลติโก ยูเวนตุส ครับ ที่นั่นไม่ได้ง่ายเหมือนในมังงะ เขาไม่ได้เป็นซึบาสะหรือ โย ชีน่า แต่เขาเป็นแค่ คาซู ผู้โนเนม ดังนั้นทุกวันที่บราซิลเขาจึงเป็นเพียงคนเอเชียธรรมดา ๆ ที่ไม่มีใครส่งบอลให้ ภาษาก็ไม่แข็งแรง บางครั้งโดนเหยียดเชื้อชาติเข้าให้อีก
แถมว่ากันตามตรงแล้ว บราซิลยังเป็นประเทศที่มีนักเตะระดับพรสวรรค์เดินกันเกลื่อนกลาดอีกต่างหาก ตลอด 4 ปีแรกเขาเริ่มรู้แล้วว่าที่ เซา เปาโล มันใหญ่เกินไปสำหรับเขา พอถึงปีิ 1986 จึงได้ไปคัดตัวและได้สัญญาอาชีพฉบับแรกกับทีมรองลงมาอย่าง ซานโตส แทน
อยู่กับ ซานโตส 4 ปีได้ลงสนามไป 2 นัด โดยตลอดช่วงเวลาดังกล่าวเขาถูกปล่อยไปอยู่กับ พัลไมรัส, กอริติบ้า รวมถึงเคยเล่นกับทีมผู้อพยพชาวญี่ปุ่นในบราซิลอีกด้วย
แม้จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด แต่สิ่งที่ คาซู ได้รับกลับมาคือประสบการณ์และความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เขากลับมาอยู่ญี่ปุ่นตอนปี 1990 ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นลีกกึ่งอาชีพอยู่เลย
คาซู ในสีเสื้อของ พัลไมรัส
คาซู เซ็นสัญญากับ เวอร์ดี้ คาวาซากิ (โตเกียว เวอร์ดี้ ในปัจจุบัน)​ และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของลีกได้อย่างไม่ยาก ประสบการณ์​จากแดนแซมบ้าทำให้เขาเหนือชั้นกว่าคนอื่น ๆ อยู่เยอะ จนในช่วงเวลาดังกล่าวพูดได้เต็มปากเลยว่าหากคิดถึงฟุตบอลญี่ปุ่น ต้องคิดถึง คาซูโยชิ มิอุระ เท่านั้น
3 ปีหลังจากกลับมาบ้านเกิด วงการฟุตบอลของญี่ปุ่นเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครับ จากที่เคยใช้ชื่อว่า Japan Soccer League พวกเขาปรับจากฟุตบอลกึ่งอาชีพมาเป็นฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว และเปลี่ยนชื่อมาเป็น J League โดยมี คาซู นี่แหละครับที่เป็นตัวชูโรง
จุดเปลี่ยนสำคัญของ คาซู เดินทางมาถึงในปี 1994 เมื่อสโมสร เจนัว จากกัลโช่ เซเรีย อา สนใจยืมตัว คาซู มาเล่นที่ลีกเลี่ยนดู นัยหนึ่งดีลนี้เกิดขึ้นเพราะสปอนเซอร์​หลักของ เจนัว คือ Kenwood เป็นคนผลักดันด้วยแหละครับ แต่ใครล่ะจะสนใจ ในเมื่อมันคือหนทางสู่การลุยลีกอาชีพในยุโรปครั้งแรกของเขา แถมในยุคนั้นอย่าลืมว่า กัลโช่ เป็นลีกที่ได้รับการยกย่องว่าคือลีกอันดับหนึ่งของยุโรปหรือแทบจะเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยด้วยซ้ำ การไปกัลโช่ของ คาซู จึงมีแต่ได้กับได้แค่อย่างเดียว
คาซู อยู่กับ เจนัว โดยยิงได้แค่ 1 ลูกกับอีก 1 แอสซิสต์จากการลงสนาม 23 นัด อีกทั้งทีมยังตกชั้นอีกต่างหาก นั่นจึงทำให้การเดินทางในอิตาลีจึงจบลงแค่ตรงนั้น ถึงจะไม่เปรี้ยงปร้างมาก แต่ คาซู ถือว่าได้บุกเบิกเส้นทางด้านฟุตบอลให้กับคนญี่ปุ่นรุ่นต่อมาได้เยอะเลยทีเดียว
คาซู กลับมาอยู่กับ แวร์ดี้ อีก 4 ปี ยิงได้ถึง 65 ประตูจาก 117 นัด ก่อนจะลองของในยุโรปอีกครั้งตอนปี 1998 กับ โครเอเชีย ซาเกร็บ ซึ่งสุดท้ายก็ยังไม่ประสบ​ความ​ส​ำ​เร็จอยู่ดี ลงสนามไป 12 นัด ยิงไม่ได้เลยสักประตูเดียว
เมื่อกลับมาญี่ปุ่นรอบนี้ เขาอยู่ที่บ้านเกิดยาว ๆ ครับ และมันก็ยาวจนไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนึงจะยืนหยัดเล่นฟุตบอลอาชีพได้นานขนาดนี้
หลังจบจากงานที่ ซาเกร็บ เขากลับมาเล่นให้ โตเกียว เพอร์เพิ่ล ซังงะ 2 ปี (อายุตอนนั้นคือ 32 ปี)​, อยู่กับ วิสเซิ่ล โกเบ 5 ปี, ลงไปเล่นในเจทูกับ โยโกฮาม่า เอฟซี 1 ปี, บินมาเล่นที่ออสเตรเลียช่วงสั้น ๆ กับ ซิดนี่ย์ เอฟซี อีกครึ่งปี สุดท้ายก็มาลงหลักปักฐานยาว ๆ กับ โยโกฮาม่า เอฟซี ตั้งแต่ปี 2006 เรื่อยมาจนจบฤดูกาลที่ผ่านมา
โยโกฮาม่า มอบสัญญาส่วนใหญ่​ให้ คาซู แบบปีต่อปี แต่ที่เหลือเชื่อคือทุกครั้งที่ยื่นสัญญามา คาซู ยินดีเซ็นต่อโดยไม่รู้สึกว่าอยากจะเลิกเล่นเลยสักครั้งเดียว
วันที่เขาฉลองอายุ 50 ปีเมื่อตอนปี 2017 มีสื่อจากฝั่งยุโรปมาร่วมทำข่าวพร้อมยิงคำถามถึงตัวเขาว่า เคยมีห้วงอารมณ์​ไหนบ้างไหมที่อยากเลิกเล่นฟุตบอล
คาซู ยิ้มและตอบว่า "ไม่มีเลยครับ"
ปี 2022 กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลที่ 37 ของ คาซู ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเข้าไปแล้ว ล่าสุดเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ ซูซุสะ พอยต์ เก็ตเตอร์ ทีมระดับดิวิชั่น 4 ของลีกเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน​ คาซู อายุ 54 ย่าง 55 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ แต่ดูทีท่าว่าเขายังสนุกกับบทบาทนักเตะอยู่เลย
สถิติกับทีมชาติ คาซู ยิงให้ญี่ปุ่นไป 55 ประตูจาก 89 นัด ช่วงพีค ๆ เขายิงในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกได้ถึง 27 ลูก (รอบคัดเลือกบอลโลก 94 กับ 98)
ปี 2012 คาซู เคยเล่นฟุตซอลทีมชาติญี่ปุ่นด้วยนะครับ ตอนนั้นเขาอายุ 45 โดยยิงได้ 1 ประตู 1 แอสซิสต์จาก 6 นัด และได้ไปลุยศึกฟุตซอลโลกปีนั้นอีกด้วย
คาซู เมื่อตอนเล่นฟุตซอลโลก
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะครับว่าผู้ชายคนนึงจะเล่นฟุตบอลอาชีพได้ยาวนานมากขนาดนี้ แถมยังไม่ใช่ผู้รักษาประตูอีกต่างหาก
แม้จะไม่ประสบ​ความสำเร็จในยุโรป แต่ คาซู คือแรงผลักดัน คือแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมของคนญี่ปุ่นรุ่นหลัง การที่เด็กคนนึงทุ่มเทให้กับความฝันมากขนาดนี้ เขาไม่ได้มีแค่ความอยาก แต่ยังมีความตั้งใจและไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรค​อีกด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด การรักษาแพสชั่นในกีฬาฟุตบอลให้อยู่กับตัวได้ยาวนานจนเรียกได้ว่าแทบทั้งชีวิตขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำมันได้ง่าย ๆ เลยสักนิด
บ้าอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความรักแบบสุดลิ่มจริง ๆ ถึงจะทำแบบนี้ได้
ชีวิตนักฟุตบอลของ คาซูโยชิ มิอุระ จึงถือว่าโคตรของโคตรคุ้มค่าและน่ายกย่องอย่างที่สุดจริง ๆ
โฆษณา