15 ม.ค. 2022 เวลา 13:02 • ประวัติศาสตร์
ภาวะสงคราม กับการร้องขอความช่วยเหลือต่อพระเจ้าของมุสลิม
ขวัญและกำลังใจทั้งสองฝ่าย
เมื่อยิวเผ่ากุร็อยเซาะฮ์แปรพักตร์หักหลังมุสลิมไปเข้ากับศัตรู ในยามขับขันทุกด้านของมุสลิมในเวลานี้มันเป็นเรื่องใหญ่เอาการ คงเดาใม่ยากว่าอะไรจะตามมา ส่วนกองทัพพันธมิตรจากเมืองมักกะฮ์นั้นก็เริ่มมองเห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น
น้องไลลา คงเห็นได้ว่าถึงแม้อิสลามจะมอบหมายทุกอย่างต่อพระเจ้าและมั่นใจในศรัทธาและการช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างมีความหวังเสมอ แต่มุสลิมนั้นจะทำการทุกอย่าง ไปตามเหตุผลที่ควรเป็น และทำดีที่สุดเท่าที่สามารถ มิใช่คิดเพียงการร้องขอ ดั่งที่หลายคนมองอิสลามโดยมิได้ศึกษาในสิ่งที่เขากล่าวหาอย่างเย้อหยิ่งในข้อเขียนมากมายจากผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม และเมื่อมุสลิมได้กระทำอย่างดีที่สุดแล้วหลังจากนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ยอมน้อมรับความเป็นไปตามพระประสงค์แห่งพระเจ้า
หากสมหวังมุสลิมก็จะขอบคุณต่อพระจ้าและหากผิดหวังมุสลิมก็จะอดทนในการทดสอบของพระเจ้าอย่างผู้ศิโรราบ และนำสิ่งเหล่านั้นมาวิเคราะห์ตามเหตุผล เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เรื่องที่เกิดในยามสงครามเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์อย่างดี ในการกระทำของท่านศาสนทูตมูฮัมหมัด ผู้เป็นศาสนทูตองค์สุดท้ายของพระเจ้าเป็นตัวอย่าง ในเรื่องการร้องขอต่อพระเจ้าและการปฏิบัติลงมือกระทำอย่างรอบขอบ เพราะภาวะสงครามนั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงไม่ได้ จะเป็นต้องเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดต่อมวลชน มิใช่แค่นั่งภาวนาเพราะท่านมิได้รับปาฏิหารย์ใดๆจากพระเจ้าในการศึกสงครามนี้
สิ่งแรกที่มุสลิมคาดก็เป็นจริงในไม่ช้า คือ ยิวเผ่ากุร็อยเซาะฮ์ก็เริ่มที่จะตัดการส่งเสบียงอาหารทั้งหมดทันที มุสลิมหวั่นเกรงต่อไปอีกว่า ยิวอาจจะเปิดเมืองในด้านถิ่นที่อยู่ของพวกเขาในส่วนที่พวกเขาคุมให้แก่ศัตรูเข้ามา นั่นหมายความคันคูอันเป็นกลยุทธเดียวที่จะรักษามะดีนะฮ์ไว้ได้ในขณะนี้ก็จะไม่มีความหมายใดอีก มุสลิมต้องตรึงกำลังพลที่มีอยู่ราว 3,000คนไว้ ป้องกันกองทัพศัตรูที่แบ่งออกเป็นสามกอง กระจายอยู่ตามจุดสามจุดเพื่อรอโอกาสเหมาะ และถ้ามีบางส่วนเข้าสมทบกับยิวที่อยู่ในเมืองได้ และตีตลบหลังออกมา คราวนี้มะดีนะฮ์และกองกำลังมุสลิมคงไม่มีเหลือรอดจากการกวาดล้างของกองทัพใหญ่ที่สุดแห่งคาบสมุทรอารเบียที่รวมกันมาในครั้งนี้ไปได้
ยิวเผ่ากุร็อยเซาะฮ์นั้นก็คาดเดาการรบได้เด็ดขาดเช่นเดียวกัน พวกเขาร้องขอต่อกองทัพมักกะฮ์ว่าให้รอออกไปอีกสักสิบวันก่อนค่อยเข้าโจมตี เพื่อพวกเขาจะได้เตรียมตัวรวมพลทำสงครามจากภายใน และให้ฝ่ายมักกะฮ์ตรึงกำลังกดดันกองทัพมุสลิมไว้มิให้มีส่วนใดวางใจถอนออกมาโจมตีเผ่ากุร็อยเซาะฮ์ได้ก่อนที่พวกเขาจะเตรียมตัวสำเร็จ
ชาวเมืองมะดีนะฮ์ต่างก็ขวัญเสียต่อการปิดล้อมในครั้งนี้อย่างสุดขีดก็เป็นได้ พวกเขาคิดว่าการเข้ามาจัดการ สถาปนาการปกครองของท่านนบีจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ยัซริบซึ่งได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นมะดีนะฮ์ ดั่งที่อาณาจักรรอบข้างที่ยิ่งใหญ่มั่งคั่งเป็นอยู่ เช่น โรมัน เปอร์เชีย อันร่ำรวยหรืออียิปต์ที่กำลังโรยราก็ยังดี แต่ถึงเวลานี้พวกเขากำลังจะถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก จมหายไปในทะเลทรายอารเบียที่บรรพบุรุษของเขาสู้อุตสาห์เก็บแผ่นดินนี้ไว้ให้พวกเขา พวกเขากำลังจะถูกทรยศจากยิวเผ่ากุร็อยเซาะฮ์ที่เป็นพันธมิตรที่อยู่ในเมือง พวกเขากำลังจะถูกยิวเผ่านะฏีรที่พวกเขาให้โอกาสปล่อยไปพร้อมทรัพย์บางส่วนนั้นจะเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดว่า เป็นการให้โอกาสแก่คนผิด
เพราะถ้าหากพวกเขาฆ่ายิวเผ่านะฎีรเสียในวันนั้นก็คงไม่มีใครไปรวบรวมผู้คนในอารเบียมาทำลายพวกเขาในวันนี้แน่ ความกลัวในเวลานั้นทำให้พวกเขาคิดไปได้ต่างๆนาๆ เว้นเสียแต่ผู้มีความศรัทธาที่มั่นคงเท่านั้น ที่มอบหมายทุกสิ่งให้อยู่ในอุ้มพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงอำนาจเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น
มีการเข้าปะทะกันเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ตรึงกำลังกันอยู่นั้น โดยมีทหารบางคนของศัตรูข้ามคูเข้ามาแต่ก็ถูกฝ่ายมุสลิมฆ่าเสีย
โฆษณา