ศพนักรบมุสลิมบางคนถูกผ่าและควักตับออกมาเคี้ยวเพื่อให้หายแค้น
ฝ่ายมุสลิมโดนผ่าศพ
ชาวกุร็อยช์(กุเรช)ต่างยินดีในชัยชนะครั้งนี้ ความแค้นในการรบที่บ่อน้ำบัดร์ ดูเหมือนมันได้ถูกล้างกันไปในคราวนี้ และนำความภาคภูมิใจมาสู่พวกเขา อบูซุฟยานได้ประกาศว่า
“วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ ความแค้นในสงครามบัดร์ได้ถูกชำระแล้ว และปีหน้าก็จะเป็นเช่นนี้อีก”
ฮินด์ ภรรยาของเขาที่ดูเหมือนจะเป็นสตรีที่เจ็บแค้นที่สุดในมักกะฮ์ ยังไม่พอใจนักกับชัยชนะในครั้งนี้ นางวิ่งไปกับเพื่อนผู้หญิงบางคนพร้อมมีดในมือแล้วลงมือตัดจมูกและหูจากศพของมุสลิมนำมาร้อยเป็นสร้อยคอ เมื่อนางค้นหาร่างของ ท่านฮัมซะฮ์จนเจอนางก็ผ่าศพของฮัมซะฮ์ ล้วงเอาตับออกมาเคี้ยวกิน การกระทำของนางและเพื่อนๆเป็นที่น่ารังเกียจแม้แต่สามีของนางก็ยังทนไม่ได้และกล่าวในภายหลังว่า
“ศพของพวกเขาถูกตัดจริงๆ แต่ฉันขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่า ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับการกระทำเช่นนั้น จะมากล่าวหาว่าฉันได้สั่งให้นางกระทำเช่นนั้นไม่ได้”
มักกะฮ์ยกทัพกลับพร้อมด้วยชัยชนะ
เมื่อชาวมักกะฮ์ได้ทำการฝังศพทหารของเขาแล้วก็ยกทัพกลับ มุสลิมก็กลับมายังสนามเพื่อจัดการฝังศพทหาร เมื่อท่านนบีได้พบสภาพศพท่านฮัมซะฮ์ ท่านรู้สึกเสียใจอย่างมากและสาบานว่าจะต้องแก้แค้นในการกระทำครั้งนี้ให้ได้ และได้มีโองการกุรอานลงมา
-“ และหากสูเจ้าจะลงโทษตอบก็จงลงโทษเยี่ยงที่สูเจ้าถูกลงโทษ แต่หากสูเจ้าอดทนได้ แน่นอน เป็นการดียิ่งสำหรับผู้อดทนทั้งหลาย จงอดทนเถิดและการอดทนของเจ้ามิได้เกิดขึ้นนอกจากความกรุณาของอัลเลาะฮ์ และจงอย่าเศร้าโศกต่อพวกเขา และอย่าอยู่ในความกลัดกลุ้มต่อสิ่งที่พวกเขาวางแผน”-
(อัลกุรอาน 16/126-127)
ด้วยโองการนี้ท่านนบีจึงได้ยอมให้อภัยและยอมรับการอดทน และห้ามอย่างเด็ดขาดที่จะมิได้มุสลิมตัดหั่นศพ แล้วท่านนบีและบรรดามุสลิมก็จัดการฝังศพฝ่ายมุสลิม จำนวน70 คน เมื่อเดินทางกลับมะดีนะฮ์มุสลิมต่างเคร่งขรึมและโศกเศร้าต่อการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ หลังจากที่ชัยชนะเกือบจะเป็นของเขา แล้วเปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่รวดเร็ว เพราะการไร้ระเบียบและไม่ยึดมั่นในคำสั่งของท่านนบี ปล่อยใจให้หลงเพลิดเพลินอยู่กับทรัพย์สงครามนั่นเอง
รุ่งขึ้นมุสลิมรวบรวมทัพออกไปเพื่อไล่ตามทัพมักกะฮ์ แต่กองทัพมักกะฮ์ไม่เห็นประโยชน์อันใดในการจะกลับมาปะทะกับมุสลิมอีกในครั้งนี้เพราะชัยชนะในครั้งนี้พวกเขาถือว่าได้แตกหักไปแล้วการแก้แค้นแห่งบัดร์ที่ชาวมักกะฮ์เคยพ่ายแพ้ได้ลุล่วงแล้ว แม้มุสลิมจะปักหลักรออยู่ที่ตำบล ฮัมรออัลอะชัด ถึงสามวันและก่อไฟตลอดคืนเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขารออยู่ที่นั่น
เมื่อมุสลิมยกทัพกลับมามะดีนะฮ์แม้จะไม่ได้รบกับมักกะฮ์แต่อย่างน้อยก็เรียกขวัญกำลังใจของมุสลิมกลับมาอีกได้บ้างพอสมควร แต่บรรดาผู้ที่ศรัทธาอย่างไม่จริงใจและภาคีสมาชิกที่ต่อต้านก็รู้สึกสะใจ และเย้ยหยันต่อมุสลิมพร้อมกับตั้งคำถามบรรดามุสลิมที่ยังสะบักสะบอมจากการรบว่า
“หากสงครามบัดร์คือเครื่องหมายแห่งพระเจ้า ที่พิสูจน์ว่า มูฮัมหมัดเป็นศาสนทูตของพระเจ้าอย่างแท้จริงแล้วละก็ สงครามอุฮุดล่ะจะเป็นเครื่องหมายของอะไร?”
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
