สรุปภาษีคริปโตฯ ทำอย่างไรให้ถูกต้อง
.
เรื่องของภาษีคริปโตฯ ณ ตอนนี้ถือว่าเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่ว่าเพิ่งจะเริ่มมีการจัดเก็บภาษีในปีนี้อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่จริง ๆ เริ่มมีการจัดเก็บและยื่นภาษีคริปโตมาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว เรามาดูกันว่าการเก็บภาษีจากการลงทุนในตลาดคริปโตฯ นั้นจะมีวิธีการเก็บอย่างไร และในทางปฏิบัตินักลงทุนจะต้องยื่นอย่างไร
.
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้กรมสรรพากรได้ออกมาย้ำเตือนถึงผู้ที่มีกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องยื่นภาษีให้ถูกต้อง เพราะโดยปกติหากมีกำไรจากการซื้อขายคริปโตฯ จะถือว่าเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) จัดอยู่ในหมวดหมู่การลงทุนแบบเดียวกับดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้
.
อย่างไรก็ตามแนวทางในการเสียภาษีคริปโตฯ ยังคงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างตั้งคำถามถึงความชัดเจนของแนวทางการปฎิบัติว่าเป็นอย่างไร เราจึงสรุปมาเป็นหัวข้อดังนี้
.
- กำไรที่ได้จากการซื้อขายคริปโตฯ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เช่น เราได้กำไร 100 บาท เราต้องเสีย 15 บาท ดังนั้นจะได้กำไรหลังหักภาษี 85 บาท และบุคคลที่มีเงินได้จากการซื้อขายคริปโทจะต้องยื่นแบบแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- กำไรที่ได้จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Staking, Yield Farming หรือ Airdrop ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) เช่นเดียวกันกับกำไรที่ได้จากการเทรดคริปโตฯ
- ณ ตอนนี้ Exchange ในไทยไม่ได้หักภาษีจากการทำกำไรในคริปโตฯ นักลงทุนจะต้องคำนวณการหักภาษี 15% ด้วยตนเองและยื่นรายงานด้วยตนเอง
ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องนำข้อมูลของกำไรที่ได้ (Capital Gain) ไปกรอกใส่ไว้ในแบบฟอร์มการยื่นภาษีทั้งหมด หลังจากนั้นจึงนำไปรวมกับเงินได้ทั่ว ๆ ไป แล้วก็คำนวณภาษี
.
อย่างไรก็ตามการเรียกเก็บภาษีดูเหมือนว่าจะยังคงมีความคลุมเครือไม่น้อย ทั้งการคิดคำนวณจากต้นทุนการซื้อขาย หรือการเสียภาษีในรูปแบบของการขุดเหรียญ
.
สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นคำถามที่นักลงทุนหลายคนสงสัย เราจึงต้องรอติดตามข่าวที่เกี่ยวกับไกด์ไลน์หรือแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันต่อไป
อ่านข่าวและบทความบนเว็บไซต์ได้ที่ https://techtoro.co/
#Techtoro #มากกว่าสินทรัพย์คือความรู้
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
