13 ม.ค. 2022 เวลา 10:37 • การตลาด

เลือกซื้อเปียโนไฟฟ้า ยี่ห้ออะไรดี เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า : อนิรุทธ สอนให้รู้

ซื้อเปียโนไฟฟ้า ยี่ห้ออะไรดี ถึงจะทนทาน คุ้มค่า กับการใช้งานมากที่สุด ทั้งเปียโนใหม่ และ เปียโนมือสอง
คุณวิรัช หุตางกูร (คุณพ่อ) ซ่อมคีย์เปียโน ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61
ผมมีประสบการณ์ ซ่อมเปียโนไฟฟ้า ร่วมกับ คุณพ่อ มาเกือบทุกยี่ห้อ รวมๆ มากกว่า 1,000 เครื่องแล้วครับ เปิดเครื่องมาซ่อม ได้เห็นเทคโนโลยีการผลิต คุณภาพวัสดุอุปกรณ์ประกอบเปียโน และ ประสิทธิภาพ การใช้งาน ของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ภาคต่างๆ ที่ใช้ในเครื่อง เปียโนไฟฟ้า จะมาสรุปคร่าวๆ ให้เป็นข้อมูลในการ พิจารณาเลือกซื้อ เปียโนใหม่ และ เปียโนมือสอง กันนะครับ
ห้องปฏิบัติการ ซ่อมเปียโน ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61
การเลือกซื้อเปียโนไฟฟ้า ที่เป็นเครื่องมือสอง นำเข้า จากประเทศญี่ปุ่น คุ้มค่ามากที่สุด ถึงแม้จะต้องเสียค่าซ่อมบ้าง ก็ยังคุ้มค่า เพราะซ่อมไปแล้ว ก็ยังใช้ได้อีกนานครับ ที่บอกไว้ตรงนี้แบบนี้ เพราะ ตัวแทนจำหน่ายเปียโนไฟฟ้า ในประเทศไทย บวกราคาขายเปียโนไฟฟ้าเครื่องใหม่ ในราคาที่สูงมาก
ห้องปฏิบัติการ ซ่อมเปียโน ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61
เนื่องจากการใช้เปียโนไฟฟ้า อย่างต่อเนื่อง ไม่ปิดเครื่องทิ้งไว้นานๆ สามารถใช้งานได้ทนทาน นานมากกว่า 15 ปี เราจึงสามารถซื้อ เปียโนไฟฟ้ารุ่นเก่า มือสองมาใช้งาน ได้ในราคา เพียง 1 ใน 4 ส่วนของราคาเครื่องใหม่ได้ หรือ ถ้าซื้อแบบเสียๆ มาซ่อมราคาก็จะต่ำมากที่สุดครับ
ป้ายไวนิล ที่ติดหน้าบ้าน ปากซอยลาดพร้าว 61
1. ถ้าเรียงตาม ความคงทน ที่จะใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ไม่ค่อยเสีย แต่ราคาขายในประเทศไทย บวกไว้สูงมาก คุณภาพวัสดุโดยรวมดีกว่าของยี่ห้ออื่นๆ เช่น แท่นรองคีย์ แป้นคีย์บอร์ด ยางคาร์บอน และ การออกแบบ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เปียโน CASIO ไม่ค่อยมีวงจรอิเล็กทรอนิกส์เสีย ถ้ามีเสียบ้างก็จะเสียที่วงจรภาคจ่ายไฟ ผมว่า เปียโน CASIO น่าจะดีที่สุด ออกแบบวงจร ได้ทนทานที่สุด กว่ายี่ห้ออื่นๆ แต่มีข้อเสียคือ ถ้าใช้งานไปเกิน 5 -7 ปี ทุกรุ่น ของ เปียโน CASIO จะมีปัญหาเรื่อง ลิ่มตกคีย์ตก คีย์จม
ยางรองคีย์เสื่อมสภาพ เปื่อยยุ่ย ไม่ได้รองรับแป้นคีย์แล้ว คีย์จึงตกลงมา
เนื่องจาก ยางรองคีย์เสื่อมสภาพ ถึงแม้จะเกิด คีย์จม 2-3 คีย์ เวลาซ่อม จะต้องเปลี่ยน ยางรองคีย์ใหม่ ทั้งหมด 88 คีย์ ครับ ถ้าเปลี่ยนไปบางตัว ใช้ไปอีกไม่นาน คีย์ตัวอื่น ก็จะจมลงมาอีก การซ่อม ต้องถอดคีย์เปียโน ออกมาทุกตัวเพื่อเปลี่ยนยางรองคีย์ใหม่
ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61
ที่ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61 เวลาทำการซ่อมเปียโนไฟฟ้า รุ่นเก่า ทุกเครื่อง จะทำการซ่อมบำรุงให้ด้วย คือ ดูดฝุ่นทำความสะอาดภายใน เช็ดคราบจาระบีที่เลอะออก ล้างคอนแทคจุดต่างๆ ตรวจสอบชุดยางคาร์บอน ตรวจสอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61
ในส่วน วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของเปียโน CASIO ออกแบบมาดี และ ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีคุณภาพดี จึงไม่เสียง่ายครับ เปียโน CASIO จำนวนกว่า 95% ของงานที่ ผมซ่อม เกิดจากยางรองคีย์ เสื่อมสภาพ อีกส่วนน้อยก็เป็น เปิดไม่ติด
มาดู เปียโน CASIO และ คีย์บอร์ด บางส่วน ที่ส่งเข้ามาซ่อมครับ
2. เปียโน YAMAHA เป็นอันดับสอง วงจรอาจออกแบบมาดี แต่ใช้วัสดุอุปกรณ์ ที่ประกอบเครื่อง และ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ ลดต้นทุนมากเกินไป ใช้งานได้ไม่นาน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางตัว จะเสียในวงจร ต้องซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ ใหม่เข้าไป จึงจะใช้งานได้ อุปกรณ์ที่คุณภาพต่ำ เช่น capacitor ลำโพง สายแพ แท่นรองคีย์พลาสติก สีดำ ฯลฯ รูปด้านล่างเป็น ลำโพงของเปียโน YAMAHA DGX-620 ใช้ไปนานๆ ขอบลำโพงที่เป็นยาง จะแข็งแตกหักได้เอง
2.1 อาการเสียในวงจรที่พบบ่อย คือ เปิดติด แต่ไม่มีเสียง : เปียโน YAMAHA รุ่น P Series ต่างๆ
2.2 เปียโน YAMAHA DGX Series ใช้ไปนานๆ เสียงออกลำโพงจะเบา
2.3 เปียโน YAMAHA รุ่นที่ราคาสูง จะออกแบบแผงวงจรหลายแผ่นมาประกอบร่วมกัน เชื่อมต่อกันด้วย สายแพ ที่มีแถบลายทองแดงเส้นเล็กจำนวนหลายเส้น ด้านหลังที่ปลายสายทั้ง 2 ข้าง จะประกบด้วยแผ่นพลาสติกแข็งให้สามารถเสียบลงในซ๊อกเก็ตได้ รูปด้านล่าง เป็นแผงวงจรภายในของ เปียโน YAMAHA DGX-620
สายแพแบบนี้ คุณภาพไม่ดี ใช้ไปนานๆ กาวที่ยึดแผ่นพลาสติกแข็งที่ปลายสาย จะหลุดออกจากแถบลายทองแดง ถ้าช่างจะซ่อมเครื่องต้องห้ามดึงออกจากซ๊อกเก็ตเด็ดขาด จะทำให้เส้นทองแดงหลุดออกจากแผ่นพลาสติกแข็งนี้ คราวนี้จะใส่ไปในซ๊อกเก็ตใหม่ ก็จะใส่ไม่ได้อีก สายแพอะไหล่ก็หาซื้อยากมาก
2.4 อาการเสียในวงจรที่พบบ่อย คือ เสียบปลั๊กแล้วเครื่องเปิดเอง กดคีย์ตัวโน้ตดังช่วงแรก ต่อไปไม่มีเสียง : เปียโน YAMAHA P-105
2.5 อาการ เปียโน YAMAHA ลิ่มตกคีย์ตก คีย์แข็ง คีย์ฝืด : จะเกิดขึ้นกับเปียโน YAMAHA รุ่นเก่าทุกตัว เปียโนยี่ห้ออื่นๆ จะไม่เสียอาการแบบนี้ เปียโนส่วนใหญ่ของ YAMAHA จะใช้แท่นรองคีย์ เป็นพลาสติกคุณภาพต่ำ
ใช้งานไปนานๆ เมื่อจารบีละลายเลอะที่แท่นคีย์ ถ้าเก็บเครื่องไว้ในที่ร้อน ยิ่งเร่งปฏิกริยา ระหว่างเนื้อพลาสติกแท่นคีย์ กับจาระบี ทำให้โครงแท่นคีย์แตกเอง และ การซ่อมจะยากมาก
ถ้าซ่อม แท่นคีย์ จะต้องเสียค่าซ่อมเป็นหมื่นบาท เนื่องจาก ตัวแทนจำหน่าย เปียโน YAMAHA ในประเทศไทย ไม่ได้สนับสนุนการขายอะไหล่ เฉพาะแท่นพลาสติกคีย์ จะขายเป็นชุด มีแป้นคีย์ รวมไปกับแท่นคีย์ด้วย ราคา สองหมื่นกว่าบาท เรียกว่า สนับสนุนให้ซื้อใหม่ มากกว่า ซ่อมแล้วไม่คุ้ม ยิ่งถ้าเป็น เปียโน YAMAHA รุ่นเก่า ก็จะบอกว่า อะไหล่เลิกผลิตแล้ว
จาระบีเหลวไหลเลอะบนแท่นพลาสติก ของเปียโน YAMAHA
การซ่อม แท่นคีย์เปียโน YAMAHA ถ้าเสียหายมาก มีโอกาสที่จะซ่อมไม่ได้ ต้องทิ้งเครื่องไปเลย ก็มีจำนวนมาก ดังนั้น ใครจะซื้อเปียโน YAMAHA มือสอง ยิ่งไม่ควรคิดจะซื้อเลย ถ้าเป็นตัวเครื่องไม้สวยๆ ห้ามซื้อมาใช้เด็ดขาด เพราะใช้ไปไม่นาน ต้องส่งซ่อมเครื่องในอาการ ลิ่มตกคีย์ตก คีย์จม คีย์แข็ง คีย์ฝืด และต้องซ่อม แท่นคีย์ แน่นอนครับ
อาจจะเหมือน ซื้อเครื่องมือสอง มาทิ้งก็เป็นได้ครับ ใครขาย เปียโน YAMAHA มือสองที่ คีย์ฝืด อย่าซื้อเด็ดขาด โดนหลอกขายแล้วครับ สุดท้ายต้องนำมาซ่อม เสียค่าซ่อมเป็นหมื่นบาท แน่นอนครับ
แท่นคีย์บอร์ดพลาสติก ของเปียโน YAMAHA ที่โดนน้ำจาระบี ทำปฏิกิริยากัน จนทำให้โครงพลาสติกแตกเอง
ตัวอย่างเปียโน YAMAHA CLP-955 ของ คุณลูกค้า ตามรูปด้านล่าง ที่ส่งมาซ่อม ตัวเครื่องดูใหม่มาก เป็นแกรนด์เปียโนด้วย ส่งมาซ่อม แต่ด้านใน โครงคีย์พลาสติกสีดำ ของเครื่องนี้ ร้าว กรอบ แตกหักมาก จนไม่สามารถซ่อมได้ ต้องทิ้งเปียโนเครื่องนี้ไปเลย น่าเสียดายมากครับ ดังนั้นไม่ควรซื้อเปียโน YAMAHA มาใช้ เพราะไม่คุ้มค่ากับราคาที่ซื้อมาครับ
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เมื่อใช้งานเปียโน YAMAHA เกิน 7 ปี จาระบีที่ทาอยู่ใต้แป้นคีย์ จะเริ่มละลายออกมาเลอะ บริเวณแท่นคีย์พลาสติกสีดำ
น้ำจาระบีเหลว ที่เลอะบริเวณแท่นคีย์ จะทำปฏิกิริยากับพลาสติกแท่นคีย์ ทำให้ ร้าว กรอบ แตกหักเสียหายได้ จนไม่สามารถซ่อมได้แล้วครับ
มาดู เปียโน YAMAHA และ คีย์บอร์ด บางส่วน ที่ส่งเข้ามาซ่อมที่ร้านครับ
3. ที่ไม่คุ้มค่า ทั้งคุณภาพ และ ราคา มากที่สุด ไม่แนะนำให้ซื้อเลย คือ เปียโน KAWAI เป็น เปียโนที่สร้างแบรนด์ ขายในราคาสูง ออกแบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้ไม่ดี ไม่ได้มาตรฐาน มีการเสียที่ วงจรภาคจ่ายไฟ จำนวนมาก
เนื่องจาก บริษัทผู้นำเข้า ไม่ได้มีการสนับสนุนข้อมูลในการซ่อม เช่น ไม่ให้ดาวน์โหลด Service Manual สำหรับช่างซ่อมได้ต้องการให้เสียแล้วซื้อเครื่องใหม่ ถ้าเครื่องเป็นรุ่นเก่า บริษัทผู้นำเข้า มักแจ้งว่า อะไหล่เลิกผลิตไปแล้ว ถ้าเครื่องเสียคือจบ ทิ้งเครื่องอย่างเดียวครับ ไม่คุ้มค่าแน่นอน
เปียโน KAWAI เป็นเปียโนยี่ห้อเดียว ที่เสียแล้วซ่อมไม่ได้มากที่สุด ถ้าซ่อมต้องส่งเข้าศูนย์อย่างเดียว และ ศูนย์ก็จะแจ้งราคาซ่อมชนิดที่รับไม่ได้ จนลูกค้าต้องพิจารณาซื้อเครื่องใหม่ ทั้งที่เครื่องใช้งานไปได้ไม่กี่ปี ไม่คุ้มค่ากับราคาที่ซื้อไปครับ
แผงวงจรซ้ายสุด เป็นวงจรจ่ายไฟ ของ เปียโน KAWAI
เปียโน KAWAI ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขนาดเล็ก เช่น คอนเดนเซอร์ตัวเล็กกลมๆที่มีขีดสีดำอยู่ด้านบน คอนเดนเซอร์ชนิดนี้ใช้งานได้ไม่ทนทาน เสียหายได้ง่าย ทำให้ เปียโน KAWAI ใช้งานได้ไม่นานก็เสีย การออกแบบวงจรที่ไม่ดี ก็ทำให้เปียโนไฟฟ้า มีโอกาสเสียได้ง่ายเช่นกัน
แผงวงจรหลักของ เปียโน KAWAI CN27 ที่ในวงจร ใช้คอนเดนเซอร์ขนาดเล็กจำนวนมาก ชนิดที่เสียหายได้ง่าย
มาดูเปียโน KAWAI และ คีย์บอร์ด บางส่วน ที่ส่งเข้ามาซ่อมครับ
เนื่องจากราคาขาย เปียโนไฟฟ้า ในประเทศไทย บริษัทตัวแทนจำหน่าย และนำเข้า บวกกำไรมาก และ ขายเปียโน เครื่องใหม่ ในราคาที่สูง ซึ่งระดับราคาขนาดนี้ ผู้ใช้ จึงอยากให้สามารถใช้งานได้นาน และ ทนทาน มากกว่า 5 ปี อาจอยากให้ใช้งานได้ถึง 10 ปี ด้วยซ้ำไป แต่ถ้าเจอการเสียในช่วงเกิน 5 ปี ต้องส่งซ่อม
ทางบริษัทเหล่านี้ ก็ไม่ได้สนับสนุนให้ซ่อม โดยขายอะไหล่เป็น ทั้งแผงวงจร ซึ่งแผงวงจรแผ่นหนึ่ง ราคาค่าอะไหล่ สูงถึง 6-7 พันบาท หรือ ตัวอย่างแท่นคีย์ พลาสติก ที่เปียโน YAMAHA จะต้องเสียทุกเครื่อง เมื่อใช้งานไปนานๆ ค่าอะไหล่สูงถึงกว่า 2 หมื่นบาท ถ้าซ่อมไม่ได้คือ ทิ้งเป็นซาก ทำให้เกิด ขยะอิเลคทรอนิคส์ และ ขยะพลาสติก จำนวนมาก
4. เปียโน และ คีย์บอร์ด KORG เป็นเปียโนที่ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เสียแล้วซ่อมยาก บริษัทนำเข้ามา เป็นตัวแทนจำหน่าย ก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่ ไม่สนับสนุนการขายอะไหล่ ให้ซ่อมได้ แผงวงจรอะไหล่ที่ขายให้ถ้ามี ก็ขายราคาสูงมาก ทีมช่างซ่อมก็หมุนเวียน มีการปฏิเสธการซ่อม อย่างเครื่องที่เช็คหมายเลเครื่องแล้วไม่ใช่ที่บริษัทขายให้ ก็จะไม่รับซ่อม
KORG เป็นเปียโนที่เสียแล้วต้องทิ้งเครื่องไปมากที่สุด เพราะตัวแทนนำเข้าเป็นบริษัทเล็กๆ
บริษัทอาจไม่ได้มีกำลังในการสต๊อกอะไหล่จำนวนมาก คุณภาพชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับเครื่องที่ผลิตในจีน ไม่ค่อยดี เช่น เปียโน KORG บางรุ่นใช้ยางคีย์คาร์บอน บางมาก คุณภาพไม่ดี เปียโนมีโอกาสเสียได้มาก จึงเกิดอาการดีดคีย์บางตัวไม่ดัง เปียโน KORG จึงไม่ทนทานเหมือนยี่ห้ออื่นๆ
เรื่องกระเดื่องคีย์ ที่ออกแบบมาไม่ดี ใช้วัสดุพลาสติกที่บอบบาง ใช้ไปนานๆ ปลายกระเดื่องคีย์ ที่เป็นพลาสติกสีขาว หุ้มแกนเหล็กไว้ จะแตกหักได้ง่าย เหมือนภาพด้านบน เมื่อแตกหักแล้ว เวลาดีด คีย์จะติด แข็ง กดไม่ลง การซ่อมจะยาก และ ต้องเสียค่าซ่อมในราคาสูง
รูปแสดงให้เห็นปลายพลาสติกสีขาว ที่หุ้มเหล็กกระเดื่องคีย์ ที่แตกหักได้ง่าย
มาดูเปียโน KORG และ คีย์บอร์ด บางส่วน ที่ส่งเข้ามาซ่อมครับ
5. เปียโน และ คีย์บอร์ด Roland ถ้าผลิตในประเทศจีน ส่วนใหญ่ จะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพไม่ค่อยดี การผลิตในประเทศจีนส่วนใหญ่จะลดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบตัวเครื่องที่เป็นพลาสติก จะแตกต่างจากที่ผลิตใน ITALY ชัดเจน
คีย์บอร์ด Roland ที่ผลิตในประเทศ ITALY
แนะนำว่า ถ้าจะซื้อเปียโน ดูที่ประเทศผู้ผลิตด้วย ก็จะได้ของที่มีคุณภาพดี คงทนต่อการใช้งาน อย่าดูแต่ยี่ห้ออย่างเดียว เครื่องที่ผลิตในประเทศจีน จะไม่ค่อยทนทาน เพราะเน้นที่ลดต้นทุน แต่ถ้าผลิตในประเทศญี่ปุ่น ก็คุณภาพดี ไม่แพ้ ITALY และ USA.
ป้ายแสดงประเทศที่ผลิต และ หมายเลขเครื่อง
มาดูเปียโน และ คีย์บอร์ด Roland บางส่วน ที่ส่งเข้ามาซ่อมครับ
ทาง ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61 จึงได้คิดค้น นวัตกรรม ในการซ่อม เปียโนไฟฟ้า ให้สามารถซ่อมแล้วใช้งานต่อไปได้ยาวนานมากขึ้น เหมือนตอนที่ ซื้อเครื่องไปใหม่ๆ โดย เปียโนไฟฟ้า ทุกเครื่องที่นำเข้ามาซ่อม จะทำการซ่อมบำรุงให้ด้วย คือ ดูดฝุ่น ทำความสะอาดภายใน เช็ดคราบจาระบีที่เลอะออก ล้างคอนแทคจุดต่างๆ ตรวจสอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจสอบชุดยางคาร์บอน และ ซ่อมตามอาการเสีย โดยคำนึงถึง การซ่อม ให้มีความทนทาน และ ใช้งานได้ยาวนานกว่า 5 ปี
ทาง ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61 จึงเห็นว่า การซื้อ เปียโนไฟฟ้า มือสอง จากประเทศญี่ปุ่น ตามร้านขาย เปียโนมือสอง ทั่วไป จะคุ้มค่ากว่า การซื้อเปียโนใหม่ ในประเทศไทยมาก ที่ญี่ปุ่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ถูกควบคุมมาตรฐาน ที่สูงกว่า ถึงแม้ เป็นเปียโนไฟฟ้า ที่ผลิตในประเทศจีน คุณภาพวัสดุอุปกรณ์ภายใน จะมีมาตรฐานสูงกว่า ที่นำมาขายในประเทศไทยมาก ดังนั้นเครื่องจึงทนทานกว่า
ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองหนาว อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในเครื่องจะใช้งานได้ทนทานมากกว่า ที่ใช้งานในเมืองร้อน อย่างประเทศไทย เปียโนมือสอง ทีเสียบางตัว ก็ซ่อมได้ไม่ยาก เพราะเสียหายไม่มาก บางเครื่องสภาพดี ใช้งานมาไม่นาน
คนญี่ปุ่น เวลาแต่งงานใหม่ เขาถือ ต้องซื้อแต่ของใหม่เข้าบ้าน ของมือสองสภาพดีๆ ที่ขายอยู่ตามโกดังของมือสองนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จึงมีมากมาย การสนับสนุน ซื้อเปียโนมือสอง นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จึงเป็นการ ลดขยะอิเลคทรอนิคส์ และ ขยะพลาสติก เพื่อช่วยลดโลกร้อน ทำให้สิ่งแวดล้อมของโลกเราดีขึ้นด้วยครับ
เปียโน แบรนด์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ไม่แนะนำครับ เพราะขายได้ในประเทศไทยน้อย ไม่มีช่างซ่อมให้น่าเชื่อถือ ใครซื้อมาแล้วเสีย ก็หาร้านซ่อมเอาเอง ซ่อมได้บ้างไม่ได้บ้าง ซ่อมไม่ได้ต้องเสียทิ้งไปก็เยอะครับ การตัดสินใจเลือกซื้อ อย่าดูแต่รูปลักษณ์ภายนอก ดูสวย ดูใหม่ ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีครับ จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
มาดู เปียโน และ คีย์บอร์ด ในภาพรวมบางส่วน ที่ร้าน บ้านของรัก ปากซอยลาดพร้าว 61 ได้ซ่อมเสร็จไปแล้วครับ
โฆษณา