14 ม.ค. 2022 เวลา 08:14 • ความคิดเห็น
"คนสองคน” ที่พบกันได้ เพราะเป็น “บุพเพสันนิวาส” ก็เพราะดวงจิตสองดวงที่เคยผูกพันกันมา แล้วมีเหตุปัจจัยให้ได้มาพบกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด และ “บุพเพสันนิวาส” ตามที่พุทธองค์ทรงตรัสว่าเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ (1) ด้วยเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน และ (2) ด้วยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากในปัจจุบัน (อาจเป็นความสิเน่หา และความรักใคร่ใกล้ชิด อันเกิดขึ้นเพราะมีเห-ตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิด)
ทั้งนี้หากพิจารณาตามที่พุทธองค์ทรงตรัส ก็จะพบว่า แท้จริงแล้วนั้น "บุพเพสันนิวาส" มิได้หมายแต่เพียงคู่ที่มีรักแท้ หรือรักกันจนถึงวันสิ้นลม ล้มหายตายจากกันไปเท่านั้น แม้คู่ที่ต่างพึงใจหลงใหลกันด้วยรูปกาย แล้วเสพสมกัน และลงท้ายด้วยการหึงหวง ตบตีหนีห่าง นี้ก็เรียกว่า "บุพเพสันนิวาส"
ดังนั้น คู่ที่เกิดจาก "บุพเพสันนิวาส" จึงกินความได้กว้างทั้ง คู่เวรคู่กรรม คู่บุญคู่สร้าง คู่ธรรมคู่บารมี ไปจนถึงคู่กินคู่นอน คู่ล้างคู่ผลาญ คู่ตบคู่ตี และไม่จำเป็นต้องเป็นเพศที่ต่างกัน กล่าวกันว่า พระโมคคัลลานะ กับพระสารีบุตรนั้น ท่านเป็นคู่ธรรม ที่จะต้องเกิดมาพบเจอเกื้อหนุนกันทำให้แต่ละท่านโดดเด่นกันคนละด้าน จนสั่งสมบารมี ได้เป็นพระอัครสาวกในพุทธองค์
ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า "กรรม" ที่แต่ละคู่สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วนนั้น อาจมีทั้งกรรมขาว และกรรมดำ คลุกเคล้าปะปนกันไปไม่มากก็น้อย
โฆษณา