Blockdit Logo (Mobile)
ลงทุนเกิร์ล
ยืนยันแล้ว
•
17 ม.ค. 2022 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
Zepto แพลตฟอร์มส่งอาหารมูลค่า 1.9 หมื่นล้าน จากผู้ก่อตั้งวัย 19 ปี
ในปี 2020 ที่ผ่านมา Swiggy แพลตฟอร์มดิลิเวอรีรายใหญ่ ในประเทศอินเดีย ประกาศปลดพนักงานนับพันคน หรือคิดเป็นประมาณ 15% เนื่องจากการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้อยู่รอดกับวิกฤติโรคระบาด
แต่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และในประเทศเดียวกัน กลับมีสตาร์ตอัปดิลิเวอรี ที่ชื่อ “Zepto” สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจ ที่แม้ว่าเปิดตัวมาได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น แต่กลับมีมูลค่าสูงถึง 1.9 หมื่นล้านบาท
แล้ว Zepto ทำอย่างไรถึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Zepto คือ แพลตฟอร์มที่ใช้สั่งซื้อของสด และสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เน้น “ความรวดเร็ว”
 
ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของแพลตฟอร์มนี้ก็คือ สองหนุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทนี้อายุเพียง 19 ปีเท่านั้น นั่นก็คือ
คุณ Aadit Palicha และคุณ Kaivalya Vohra
ด้วยสถานการณ์โรคระบาดทำให้ ผู้คนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านในเมืองมุมไบเป็นเวลาเกือบปี
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เอง ที่ทำให้เขามองเห็นปัญหาในชีวิตประจำวัน นั่นก็คือ “การเข้าถึงร้านขายของสด” และ “บริการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น”
เพราะถ้าหากเราอยากจะสั่งสินค้าเหล่านี้ผ่านทางดิลิเวอรี ก็อาจต้องรอของนาน 2-3 วัน ซึ่งนั่นทำให้การใช้ชีวิตของเขาลำบากมาก และแน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับคุณ Vohra เพื่อนของเขาด้วยเช่นกัน
เมื่อปัญหาเหล่านี้รบกวนเขาทั้งคู่ พวกเขาจึงคิดว่าก็น่าจะกวนใจใครหลาย ๆ คนด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเขาทั้งสองคน จึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ฟอร์มทีม และจัดตั้งบริษัท Zepto เพื่อมาขจัดปัญหาการขนส่งที่ล่าช้า
โดยลูกทีมส่วนใหญ่ในบริษัทก็เป็นอดีตพนักงานจากบริษัทชื่อดัง เช่น Uber, Flipkart และ Dream11
ที่น่าสนใจก็คือ ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น บริษัท Zepto ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และหลังจากนั้นอีก 2 เดือนต่อมา Zepto ก็พร้อมเปิดให้บริการ โดยเริ่มต้นที่เมืองมุมไบเป็นที่แรก
ซึ่งในเวลาต่อมา บริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ ๆ โดยการระดมทุนรอบแรก Zepto สามารถระดมทุนไปได้ 2,000 ล้านบาทจาก Nexus Venture Partners และ Global Founders Capital
และห่างจากรอบแรกเพียงแค่ 45 วันในรอบ Series C ก็ได้รับเงินลงทุนจาก Y Combinator เพิ่มอีก 3,300 ล้านบาท ซึ่งนั่นทำให้บริษัทมีมูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท เป็นที่เรียบร้อย
ทำไม Zepto ถึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขนาดนี้ ?
โดยจุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้ก็คือ “ความเร็ว” ที่การันตีการจัดส่งภายในเวลาเพียง 10 นาที สินค้าสดใหม่ก็พร้อมอยู่ในมือของลูกค้า
ซึ่งจริง ๆ แล้วบริการส่งของสดในอินเดียก็มีเจ้าตลาดอยู่แล้ว อย่าง Blinkit, Grofers และ BigBasket
แต่บริษัทเหล่านี้ก็มีข้อจำกัด เรื่องพื้นที่การขนส่ง และความเร็วในการจัดส่ง โดยจะอยู่ที่ประมาณ 15-30 นาที แต่ Zepto ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันค่าเฉลี่ยการส่งสินค้าอยู่ที่ประมาณ 8 นาทีต่อการส่งสินค้า
ซึ่งการโฟกัสที่ความรวดเร็วในการจัดส่งเป็นหลัก จึงทำให้ Zepto ไล่ตามคู่แข่งในตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 1 แสนคน ทุก ๆ สัปดาห์ และทำรายได้เพิ่มขึ้น 200% ทุก ๆ เดือน
แล้วปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ Zepto เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ?
1. มีเครือข่ายโกดังสินค้าเป็นของตัวเอง
Zepto มีเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าสำหรับออนไลน์มากกว่า 100 แห่ง ซึ่งเราเรียกโกดังเหล่านี้ว่า
“Dark Stores” หรือ “Micro-warehouses” ซึ่งการมีศูนย์กระจายสินค้าอยู่มากมายนี่เอง ที่ทำให้ Zepto สามารถส่งสินค้าได้ในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว
แม้ปัจจุบัน Zepto จะมีจุดกระจายสินค้าแค่ในมุมไบเท่านั้น แต่ในอนาคตก็มีแผนที่จะขยายสู่เมืองใหญ่ ๆ ในอินเดีย อย่าง ไฮเดอราบัด, ปูเน่ และโกลกาตา
2. ประสิทธิภาพของระบบการจัดการ
ระบบการจัดการภายในของ Zepto ล้วนใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ตั้งแต่การเลือกโลเคชันร้านค้า, หาตำแหน่งของสินค้า, หาเส้นทางการจัดส่งที่ดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่คับคั่ง
1
อย่างที่รู้กันดีว่านครมุมไบ ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีการจราจรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากมอสโก ในปี 2020 ดังนั้นการมีระบบที่แม่นยำจึงเป็นข้อได้เปรียบเรื่องความรวดเร็ว
แม้โมเดลธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้น จะดูเหมือนเป็นความรู้พื้นฐานในการบริการ แต่รู้หรือไม่ ปัจจัยง่าย ๆ เหล่านี้นี่เอง ที่หลายบริษัทใหญ่ ๆ ในอินเดียไม่ใส่ใจ และทำให้ขาดตกบกพร่องไป
แต่อย่างไรก็ตามคอนเซปต์การส่งสินค้าด้วยความรวดเร็วในประเทศอินเดีย ก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่แล้ว เพราะปัจจุบัน สตาร์ตอัปที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่หลาย ๆ แห่ง ก็เริ่มหันมาจับโมเดลนี้ด้วยเช่นกัน
เช่น Dunzo บริษัทลูกของ Google
Flipkart บริษัทลูกของ Walmart
Blinkit (หรือชื่อเดิม Grofers) และ Swiggy ที่ได้เงินทุนจาก SoftBank
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะตั้งคำถามกับเรื่องอายุของคุณ Aadit Palicha และคุณ Kaivalya Vohra ว่าทำให้ตัดสินใจเร็วไปหรือไม่
แต่ก็คงเป็นเพราะการที่พวกเขาอายุ 19 ปี จึงทำให้กล้าตัดสินใจโดยไม่ต้องกลัวอะไร กลายเป็นความรวดเร็ว “ที่ถูกต้อง”
เพราะความคิดเร็วทำเร็ว ที่เป็นจุดแข็งนี้ ก็ทำให้บริษัท Zepto เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และถึงแม้บริษัทอื่นจะหันมาทำธุรกิจส่งของสดเร่งด่วนตาม แต่ Zepto ก็ถือว่าก้าวนำกว่าบริษัทเหล่านั้นมาหลายก้าวแล้ว..
โฆษณา