14 ม.ค. 2022 เวลา 14:47 • การศึกษา
ย้อนอดีต ศิลปะเชิงสังวาส หรือแค่เครื่องสนองกามารมณ์
เราคงไม่อาจปฎิเสธได้ว่า สิ่งจรรโลงหัวใจยามค่ำคืน ของเหล่ามนุษยชาติส่วนใหญ่นั้น คือแผนการขยายเผ่าพันธุ์ ที่ถือปฎิบัติสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ก่อนยุคโฮโม เซเปียนส์ จนมาถึงยุค ฮอร์โมน พุ่งพล่านในปัจจุบัน
1
ก่อนนี้นักโบราณคดีเคยลงความเห็นเรื่อง งานศิลป์หรืออีกนัยหนึ่ง เสมือนมหรสพปลุกใจเสือป่า ของชาติพันธุ์เรา ว่าเป็นเรื่องที่ปกปิด มิดชิด และมีอยู่อย่างลับ ๆ มายาวนาน มันเริ่มตั้งแต่ผู้สืบเชื้อสายของลู่ซี่ เริ่มวิวัฒน์ตัวเอง มีความเชื่อ มีประเพณี รู้จักศรัทธาในพระเจ้า เข้าใจในสวรรค์ นรก เทวดา ปีศาจ หรือแม้แต่มหาเทพแห่งดาวนาเม็ก
นานวันเข้า เมื่อหลักฐานหลายชิ้นเริ่มปรากฎ เหล่านักโบราณคดีก็เริ่มปวดขมับ ต้องมาดีดลูกคิด บวกลบคูณหารกันอีกครั้ง เพราะทฤษฎีที่เคยคาดหวัง เมื่อครั้งก่อน อาจไม่ถูกเสียแล้ว หรืออาจถูกก็แค่จำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ ว่าแท้จริงแล้ว บรรพบุรุษของเรา อาจเคยสรวลเส เฮฮากับวัตถุ หรือสิ่งเร้าอารมณ์ มาแต่ไหนแต่ไรก็เป็นได้
ในแง่ของการตีความ ฝรั่งตาน้ำข้าว จากฟากฝั่งยุโรปบอกว่า pornography มีรากศัพท์มาจาก prostitute และ graphein เป็นภาษาของชาวกรีก แปลว่า โสเภณี และ งานเขียนตามลำดับ ซึ่งเดิมที มักใช้นิยามงานศิลปะ หรือบรรยายเรื่องราวของโสเณี เรื่องนี้ตีความโดย จอห์น ฟิลิป เจนกินส์
สำหรับบ้านเรา คำว่า pornography อิงตามราชบัณฑิตยสถาน อธิบายความหมายในแง่ของศิลปะแบบเข้าใจง่ายว่า "งานลามก" หรือถ้าจะให้ดูดี มีคลาสขึ้นมาหน่อย จัดอยู่ในหมวดวรรณกรรมก็จะเป็น "เรื่องเร้ากามารมณ์" นั่นเอง
จบในเรื่องทฤษฎีแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องปฎิบัติ เฮ้ยย ..!!! เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ความเป็นมากันบ้าง
1
ในยุคต้น ๆ ของมวลมนุษย์ สิ่งเร้ากามารมณ์ส่วนใหญ่ ถูกผสมกลมกลืนอยู่ในรูปแบบของงานปั้นเป็นส่วนใหญ่ รูปปั้นที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ในหมวด 18+ ถูกค้นพบที่เยอรมนี เมื่อปี 2005 ที่ผ่านมานี่เอง คาดกันว่ามันมีอายุราว 7,200 ปี นั่นเท่ากับว่า เป็นรูปปั้นยุคหิน ที่แสดงท่วงท่า ลีลาก๋ากั่น ที่เคยสร้างไว้เป็นอนุสรณ์ แด่ชนรุ่นหลัง
1
การค้นพบครั้งนี้ ทีมนักโบราณคดีเจอเข้ากับรูปปั้นผู้ชาย อันแสดงให้เห็นถึงคชสาร และสรีระชัดเจน ก่อนที่หนึ่งเดือนให้หลัง จะพบเข้ากับรูปปั้นผู้หญิง ที่แสดงให้เห็นถึงหมีขั้วโลก และสรีระ ในอริยาบทโน้มตัวไปข้างหน้า ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว ก็ดูเข้ากั้น เข้ากัน กับรูปปั้นผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด
1
นักโบราณคดีสันนิฐานว่า รูปปั้นอาจจะแสดงท่าทาง ร่ายรำของคู่หนุ่มสาวในยุคก่อน หรือไม่ก็อาจเป็น การแสดงกายกรรมผาดโผนสำหรับผู้ใหญ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งเร้าอารมณ์อย่างที่คุณ ๆ หรือคนข้าง ๆ คุณกำลังคิด
อันที่จริง นี่ไม่ใช่งานปั้นที่เก่าแก่ที่สุดหรอก เพราะก่อนหน้าเคยมีการค้นพบรูปปั้นผู้หญิง ที่มีหน้าอก และบั้นท้ายดินระเบิดมาแล้ว และคาดกันว่า มันมีอายุมากกว่า 27,000 ปี แต่ก็นั่นล่ะ มันไม่ได้ชัดเจนเหมือนงานศิลป์ชิ้นล่าสุด
1
แต่ถ้าจะให้ชัดเจน แบบไม่ต้องหมุนเสา คงหนีไม่พ้นภาพเขียนสี ที่แสดงให้เห็นถึง กิจกรรมสันทนาการของชายหญิงอย่างชัดเจน มันมีอายุประมาณ 2,000 ปี และถูกนิยามให้เป็นวัตถุที่เข้าข่าย pornography ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
นับตั้งแต่นั้น ศิลปะเชิงสังวาสก็หล่อเลี้ยงชาวประชา มาอย่างไม่ได้ขาดสาย แม้ว่ามันจะเป็นเพียงงานศิลป์เฉพาะกลุ่ม ที่อยู่ในครอบครอง ของบรรดาเหล่าชนชั้นสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเร้าใจเหล่านี้ก็เริ่มขยายตัวออกทีละนิด ทีละนิด
เริ่มที่ชาวสุเมเรียน หลังจากที่พวกเราเรียนรู้การเขียนบันทึกลงบนแผ่นจารึก ที่ทำจากดิน พวกเขาก็ริเริ่มรังสรรค์ผลงานศิลป์ชั้นเยี่ยม มันเป็นโคลงบทหนึ่ง ที่กล่าวถึงหมีขั้วโลกอย่างออกรส ทิ้งเอาไว้ให้บรรดาลูกหลาน ได้ศึกษาความเป็นมา เป็นไป
จนเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 16 ในยุคแรกที่สื่อสิ่งพิมพ์กำลังเป็นที่รู้จัก มีเหรอที่ศิลปินอย่าง ปีเอโตร อาเรติโน จะพลาด เขานำเอาท่าแดนซ์สามช่าฉบับผู้ใหญ่ ผูกติดกับโคลงจนแลดูน่าอ่าน ซึ่งก็นับว่าเป็นบิดาของวงการอีโรติกยุคแรก แต่ก็นั่นแหละนะ เมื่อมันถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ ไม่เป็นที่ยอมรับ ในที่สุดก็ถูกโป๊ปสั่งแบน
pornography ไม่เคยตาย หรือสูญหายไปจากแผ่นดินแน่นอน ตราบที่ชายหญิงยังคงปราถนาต่อกิเลศ และสิ่งปลุกเร้า ราวปี 1460-1480 มีงานเขียนที่ค่อนข้างโด่งดัง ในสายอิตาเลียนตอนเหนือ ที่ชื่อว่า An allegory on copulation หรือ อุปมานิทัศน์แห่งการร่วมเพศ โดยมันเป็นงานศิลป์ที่มนุษย์เริ่มผสมผสาน จินตนาการเข้ากับพลังแห่งเซ็กซ์ที่แท้จริง
2
เข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 18 มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับ มหาราชินีแคทเธอรีน ผู้ปกครองแคว้นรัสเซีย ว่ากันว่าพระนางหลงไหลงานศิลปะอีโรติกเป็นอย่างมาก รวมไปถึงเหล่าศิลปิน และชนชั้นสูง ต่างก็เริ่มให้ค่านิยมกับงานศิลป์ประเภทนี้ แม้แต่ศิลปินระดับตำนานอย่าง เอดัว มาเนต์ หรือ เอ็ดการ์ เดอกาส์ ก็ยังออกอัลบั้มงานเปลือย ที่ทำเอาชาวโลกตกตะลึงกันถ้วนหน้า
นักวิชาการเชื่อว่า แม้ว่างานเหล่านี้จะเริ่มมีบทบาทต่อคนในสังคม แต่ด้วยราคาที่แพงเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าถึง มันจึงกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้มีอันจะกินเท่านั้น จนกระทั่งต่อมา ในยุคของวิคตอเรีย ปี 1857 ประเทศอังกฤษคือดินแดนแรก ที่มีกฎหมายควบคุมคอนเท็นต์ลามกอนาจาร ซึ่งต่อมาอีกสองทศวรรษ อเมริกาก็กลายเป็นประเทศที่สอง ที่เริ่มใช้กฎหมายลักษณะเดียวกัน
ต่อมา เมื่อเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว เริ่มเป็นที่รู้จัก เป็นไปไม่ได้ที่ศิลปะแขนงนี้ จะไม่ใช้ประโยชน์จากมัน หลังจากสิ่งประดิษฐ์จาก พี่น้องลูเมียร์ ที่เรียกว่าภาพยนต์สร้างความตื่นเต้นให้คนทั้งโลก ในปี 1895 ต่อมาอีกแค่ปีเดียว ก็มีภาพยนตร์เร้าอารมณ์เรื่องแรกของโลกตามมาติด ๆ โดยมันถูกฉายที่ปารีส มีชื่อเรื่องว่า Le Coucher de la Marie
ไม่นานนักอีกสามปีให้หลัง หนังอีโรติกสไตล์ซอฟต์คอ ในชื่อ Coucher de la Mariée ก็เป็นหนังที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด อีกเรื่องหนึ่ง รู้กันดีว่าจินตนาการผสานงานศิลป์ของมนุษย์นั้น กว้างไหลเกินขอบเขต มีหนังมากมายเริ่มออกสู่สายตาประชาชนในยุคนั้น ส่วนมากมักฉายในสถานเริงรมย์ หนังสไตล์ฮอาร์ดคอ ที่ยังเหลือรอดมาถึงปัจจุบันมีเพียงไม่กี่เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ L’Ecu d’Or ou la Bonne Auberge ส่วนใหญ่มักสูญหาย หรือไม่ก็ถูกทำลายไป
นวัตกรรมที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิงของวงการเร้ากามารมณ์ คือแผ่นฟิล์ม 8 มิลลิเมตร มันยกระดับอุตสาหกรรมปลุกใจ ไปสู่จุดที่ทำให้ท่านชายหลายคนร้องว้าววว ตามมาด้วยน้ำลายที่หยดลงพื้น อีกหลายแหมะ ส่วนเทคโนโลยีการบันทึกภาพลงบนคาสเซ็ตต์ ในอีก 2 ทศวรรษต่อมา ก็เปลี่ยนแปลงวงการศิลปะเชิงสังวาส ไปตลอดกาล
ไม่นานนักในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สิ่งพิมพ์ค้ำจุนโลกกลุ่มแรก ๆ ก็เริ่มสำแดงฤทธาทั่วอาณาจักร นิตรสารปลุกใจ ชายกลัดมันเล่มแรก ๆ มีชื่อว่า Le Frisson ในขณะที่แม็กกาซีนปลุกใจเสือป่าระดับตำนานอย่าง Playboy นั้นเริ่มตีพิมพ์ในช่วง ปี 1953 และตามมาอีกเล่มจากสหราชอาณาจักร ชื่อ Penthouse ในช่วงยุค 60S
1
พัฒนาการของศาสตร์และศิลป์แขนงนี้ ถูกลบเหลี่ยมออกอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยมีมุมมองเพียงเรือนร่าง สรีระ และกายกรรมเหินเวหา ถูกนำมาแต่งเติม เพิ่มสีสัน พล็อตเรื่องให้ดูน่าชมยิ่งขึ้น แม้ดนตรีประกอบและบทหนังจะดูขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้าง แต่ก็ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงเวลานั้น ด้วยหนังที่มีชื่อเรื่องว่า Deep Throat ออกฉายในปี ปี 1972
1
ยิ่งวิทยาการเริ่มก้าวล้ำเท่าไหร่ นวัตกรรมสิ่งเร้ากามารมณ์ก็จะก้าวไกลเท่านั้น เมื่อโลกเริ่มก้าวเข้าสู่ยุค World Wide Web มีหรือ ที่ชาวเน็ตจะพลาดชมมหรสพส่วนตัว ที่หาได้ง่าย ยิ่งกว่าร้านส้มตำหน้าปากซอย เทคโนโลยีระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า เว็บไซต์ สร้างรายได้มหาศาลให้กับธุระกิจอัพแอนด์ดาวน์ รวมไปถึงสื่อทำนองเดียวกัน ก็เติบโตรวดเร็วอย่างกับถั่วของแจ๊ค
จากการเปรียบเทียบสถิติของ "อุตสาหกรรมเร้ากามารมณ์" ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงปี 1985 การผลิตสื่อปลุกใจ มีมูลค่าประมาณ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อโลกข้ามผ่านปี 2000 ท่ามกลางวิกฤต Y2K แล้ว มูลค่าของอุตสาหกรรมแขนงนี้สูงขึ้นถึง 6,500% แบ่งเป็นช่องทางออนไลน์ 2.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ วีดีโอเคลื่อนไหวหรือหนังโป๊ 1.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสิ่งพิมพ์อีก 740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่กล่าวมาทั้งหมด ยังไม่นับรวมยุคสมาร์ทโฟนฟีเวอร์ หรือที่เคยเรียกว่าอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย อันทรงอานุภาพ โดยเฉพาะเรื่องการสตรีมวีดีโอ จนมันทำให้งานศิลป์เหล่านี้ เกือบกลายเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐาน ที่เสือหิวหลายคนต้องมี
เรื่องน่าเศร้า และน่าเป็นกังวลอย่างหนึ่งคือ การใช้ซอฟแวร์ชื่อ Deepfake ที่มีคุณสมบัติปลอมวีดีโอสุดเนียน โดยอาศัย AI เป็นตัวชูโรง หลัก ๆ คือมันจะตัดต่อใบหน้าของคนที่เราต้องการ ให้เข้าไปอยู่ในคลิป ประหนึ่งกลายร่างเป็นผู้แสดง ชนิดที่คล้ายจนน่าทึ่ง ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณ
โลกยังคงไม่หยุดพัฒนา เมื่อเทคโนโลยี Virtual Reality กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิต สิ่งหนึ่งที่โลกต้องรู้คือ ศาสตร์แห่งการเร้ากามารมณ์ก็จะตามมาทันที แม้มันจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความตื่นตา ตื่นใจ จะทำให้วงการเร้ากามารมณ์ ถูกเขย่าอีกครั้ง
กดไลค์ถ้าถูกใจ
แชร์หากเห็นว่ามีประโยชน์
คอมเมนท์เพื่อแนะนำและติชม
อัพเดทบทความสนุกแบบรัว ๆได้ที่
***พิมพ์ 1 แทนไอ ใส่ 0 แทนโอ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา