15 ม.ค. 2022 เวลา 04:49 • หนังสือ
▶ Mindset(กรอบความคิด)
Mindset(กรอบความคิด)
▶ มีใครหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือหลงไหลในเรื่องอะไร
▶ ไม่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถทางด้านไหนบ้าง
▶ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำแต่ไม่กล้าลงมือทำซะที
▶ กลัวความล้มเหลว กลัวแทบไปหมดทุกเรื่อง จนปล่อยเวลาล่วงเลยไป 1ปี 2ปี 3ปี โดยไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
▶ สุดท้าย พอคนอื่นเขาประสบความสำเร็จ แล้วก็พูดขึ้นว่า"รู้งี้น่าจะทำมันไปตั้งนานแล้ว"
"ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆนะครับทั้ง 2 กรณีนะครับ
(จากเหตุการณ์จริงๆที่ผมพบมา)
▶ กรณีที่ 1:
มีน้องในที่ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้างานในระดับผู้บริหารระดับต้น-กลาง(Management Level) มาขอคำปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำจากผม
"น้องบอกว่าไม่รู้ว่าตัวเองนั้นชอบอะไรและมีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ"
"ผมจึงแนะนำไปว่า ให้ทดลองทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อค้นหาความชอบของตัวเองและลองคิดพิจารณาดูว่า อะไรที่เราทำไปแล้วนั้น สามารถโฟกัสอยู่กับมันได้นานๆโดยที่เราไม่เบื่อหรือเบื่อได้แต่สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเองกลับมาทำมันซ้ำๆอย่างสม่ำเสมอ "นั่นแหละคือสิ่งที่เราชอบและหลงไหลง คลั่งไคล้มัน ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซักพักไม่เกิน 1 เดือน มันจะกลายเป็นนิสัยใหม่ ทักษะใหม่ของเรา ถึงแม้ว่าใครบางคนอาจจะมองว่ามันไม่สำคัญ มันไม่มีประโยชน์ก็ตาม"
"รู้ไหมครับว่า ตำตอบทีได้กลับมาคืออะไร"
1. หนูไม่มีเวลาที่จะทำมัน(ในเรื่องที่อยากจะทำ)
2. หนูยังไม่พร้อมที่ที่จะทำมัน(ในเรื่องที่อยากจะทำ)
3. หนูกลัวว่าทำแล้วมันจะเกิดความผิดพลาด(ในเรื่องที่อยากจะทำ)
4. หนูกลัวความล้มเหลวที่มันอาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อหนูทำผิดพลาด
"ทุกอย่างที่น้องเขาบอกมามันไม่ใช่ความผิดนะครับ แต่มันเป็นกรอบความคิด ทัศนคติที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ สำหรับตำแหน่งหัวหน้างาน ระดับผู้บริหาร"
"ทุกอย่างที่น้องเขาพูดมาล้วนเป็นข้ออ้างเพื่อใช้เป็นเหตุผลสำหรับคนประเภทที่มีกรอบความคิดแบบจำกัดหรือแบบตายตัว(Fixed mindset)
▶ กรณีที่ 2:
น้องคนหนึ่ง ที่รู้จักใน Social network Facebook และเราเคยเรียนด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จนตอนนี้ผ่านมาเกือบๆ 20กว่าปี แต่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวและไม่ได้สนิทกันเลย แค่คุยผ่านและเห็นผ่าน Social network จำหน้าตาไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ
"น้องเขาติดตามและเป็นเพื่อนใน Facebook มาเรื่อยๆ ซักพักหนึ่งผมได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นประโยขน์ เกี่ยวกับวิธีคิด ในเรื่องปรัชญาการทำงานและการใช้ชีวิตให้สมดุลย์ การอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง(How to)"
"ลืมบอกไปครับว่าน้องเขาทำงานที่เ่กาหลีใต้ เป็นพนักงานคนไทยธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไปทำงานใช้แรงงานอยู่ที่นั่น แต่บอกได้เลยว่าวิธีคิด กรอบแนความคิดของน้องเยี่ยมมากๆเลยครับ มีทัศนคติเชิงบวกมากๆ"
"สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือน้องเขาให้ผมแนะนำหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง แนวลงทุน แนวทางการบริหารการจัดการเรื่องเงินให้" บอกเลยว่าผมภูมิใจมากเลยครับที่เป็นช่องทางเล็กๆที่สามารถเปลี่ยนแปลงแนวความคิด ทัศนคติของน้องได้ โดยที่น้องเขาอ่านแค่บทความสั้นๆจากที่ผมเอาลงแค่บางส่วนจากที่อ่านมาในหนังสือ
และขอให้ผมแนะนำหนังสือ แนะแนวทางการลงทุนเบื้องต้นในเรื่องที่น้องเขาสนใจ และโอนตังค์จากเกาหลีมา 3,000 บาท เพื่อซื้อหนังสือเกี่ยวกับพัฒนาตัวเอง การลงทุน การบริหาร จัดการเงิน"
"นี่แหละครับ Mindset ที่แตกต่างมันจะมาสร้างความแตกต่างระหว่างคนที่จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ และทำนายได้เลยว่าผลลัพธ์ในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร"
"ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จ เขาทำสำเร็จได้" เพราะว่าเขา
* เขาไม่ได้ฉลาดกว่าคุณมากเท่าไหร่หรอกครับ
* เขาก็ยังกลัวเหมือนกับคุณนั่นแหละครับ
* อีกอย่างหนึ่ง ในตอนเริ่มต้น ทำบางสิ่ง บางอย่าง เพื่อทำสิ่งใหม่ๆ เขาก็ยังไม่พร้อมเหมือนกับคุณเช่นเดียวกัน
* เขาไม่ได้หวังความสมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ
* เขาไม่ได้กลัวความล้มเหลวเพียงแค่มองว่ามันคือ บทเรียน การเรียนรู้และบททดสอบในการก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และไม่ไห้เกิดความผิดพลาดซ้ำๆในเรื่องเดิมๆ
* เขามองว่าทุกความผิดพลาดคือการย่างก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
"แต่มันมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปคือ ระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จกับคนไม่สำเร็จ"คืออะไรรู้ไหมครับ
มันคือ "Mindset หรือกรอบหรือแนวความคิดนั่นเอง"
https://www.planning.kmutnb.ac.th/
ซึ่งเจ้าตัว mindset หรือ กรอบความคิด คือ กระบวนการทางความคิด ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีต่อพฤติกรรมที่ฝังอยู่ในตัวมนุษย์ แต่ไม่แสดงออกชัดเจน ทำให้เกิดเป็นทัศนคติและเป็นประสบการณ์ต่างๆในตัวมนุษย์เรานั่นเอง
ซึ่ง Mindset หรือ กรอบความคิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ
1. Fixed mindset(กรอบความคิดแบบตายตัวหรือแบบจำกัด)
> การมีกรอบความคิดแบบตายตัว หมายถึง การเชื่อว่าคุณสมบัติของตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้เราต้องพิสูจน์ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราต้องพิสูจน์ตัวเองว่ามีสติปัญญา บุคคลิกและศีลธรรมในระดับที่มากพอ เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าไม่ได้ขาดคุณสมบัติพื้นฐานที่สุดเหล่านี้
2. Growth mindset(กรอบความคิดแบบเติบโตหรือพัฒนาได้)
> กรอบความคิดแบบนี้เชื่อว่า คุณสมบัติพื้นฐานของเราคือสิ่งที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ด้วยความพยายาม ถึงแม้ว่าคนเราจะมีความแตกต่างกันในทุกๆด้าน(ทั้งพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ความถนัด ความสนใจและนิสัยใจคอ) แต่ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้ด้วยความพยายามและประสบการณ์ ผู้คนที่มีกรอบความคิดแบบนี้เชื่อว่าใครจะเป็นอะไรก็ได้ ตามที่ใจปรารถนาและด้วยความพยายามและศักยภาพที่มีต่อความเชื่อนั้นๆ
▶ หวังว่าบทความนี้ที่ได้มีการกลั่นกรองมาจากหนังสือ Mindset
(ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา) จะเป็นแรงผลักดันและแรงจูงใจให้กับทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลง"กรอบความคิด" เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นประโยชน์กับทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่าน
▶ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้อ่านทุกท่านจะแชร์ความรู้ไปให้กับผู้คน คนอื่นๆอีกมากมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลง พัฒนากรอบความคิดของตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป
▶ สามารถแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ทีมงานได้พัฒนาปรับปรุงและต้อ
การอยากให้ทางเพจนำเสนอเรื่องอะไร
▶ สามารถแนะแนวทางแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ
▶ สามารถแนะแนวทางแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ
▶ ถ้าชอบกดไลค์ ถ้าใช่กดแชร์ให้กับทีมงานเพจ:Phundee เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา ได้เลย
แหล่งที่มาของข้อมูล
▶ หนังสือ Mindset(ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา)
โฆษณา