The Last Duel (2021)
รักในงานกำกับของ ริดลีย์ สก็อตต์ มาโดยตลอด คราวนี้ The Last Duel ได้ ‘เบน แอฟเฟล็ก’ กับ ‘แมตต์ เดมอน’ มาร่วมโปรดิวซ์พร้อมกับแสดงควบคู่ไปด้วย ซึ่งทิศทางหนังมันก็ยังสนุกและเข้าทางเราอยู่ ออกจะไปในทางโดดเด่นมีเอกลักษณ์ชัดเจนดีด้วยซ้ำ
ที่สำคัญคือเป็นหนังไม่ควรพลาดแห่งปีที่ผ่านมาสำหรับเราเลย ว่าด้วยประเด็นของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศ ถูกละเมิดสิทธิทั้งด้านร่างกายและความคิดในยุคนั้นที่ชายเป็นใหญ่ หนทางเดียวที่จะรอดหลุดพ้นจากความเหลื่อมล้ำตรงนี้ได้ เห็นจะมีแต่ความกล้าหาญเท่านั้น กล้าที่จะต่อกรกับความเชื่อเดิมๆ และพลิกสถานการณ์เลวร้ายให้เป็นโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ของผู้ตกเป็นเหยื่อได้อย่างเด็ดเดี่ยว
หนังแบ่งเล่าเป็นสามมุมมอง จากสามคนในเวลาและเหตุการณ์เดียวกัน อันนี้ไม่รู้ว่าถ้าเลือกเล่าเป็นเส้นตรงแล้วนำไปสู่บทสรุปเดียวกัน เรายังจะชอบเหมือนที่เป็นอยู่นี้ไหม แต่ถึงอย่างนั้นการแบ่งเล่าออกเป็นสามมุมมองดังกล่าวมันเป็นเสน่ห์ของหนังอย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเลือกฟังความจากข้างไหน จากสายตาผู้ใด หากแต่ความจริงก็ไม่ได้เปลี่ยนหรือต่างไปจากเดิมเลย มีเพียงแต่ว่าฝ่ายใดเป็นคนถ่ายทอด ฝ่ายใดรับฟัง และรายละเอียดเหล่านั้นถูกปรุงแต่งให้ผิดเพี้ยนออกไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน
ถึงแม้จะบอกว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อนั้นต้องใช้ความกล้า ที่จะพูดเพื่อเปลี่ยนแปลง พูดเพื่อให้สังคมเห็นความเป็นธรรม หรืออย่างน้อยพูดเพื่อตัวเอง เธอก็ควรจะมีสิทธิ์แสดงออกถึงจุดยืนโดยเลือกที่จะไม่ปิดปากเงียบ แต่เมื่อสิทธิและเสียงของสตรีในยุคนั้นที่ไม่มีน้ำหนักพอจะกล่าวให้ใครเชื่อถือได้ ความไม่เท่าเทียมจึงก่อเกิดขึ้น
ทำให้ฝ่ายชายอย่างสามีเธอต้องออกมารับมือด้วยศักดิ์ศรีความเป็นชายของตน และเพื่อปกป้องคนที่ตนรักด้วยการประลองกับอีกฝ่ายที่มีชีวิตทั้งสามคนเป็นเดิมพัน ซึ่งเราว่าประเด็นมันหนักหน่วงตรงที่การถ่ายทอดย้อนไปยังยุคกลาง ที่ผ่านมาหลายช่วงสมัยแล้วประเด็นเหล่านี้ยังเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบัน
นอกเหนือจากนี้หนังยังนำเสนอให้อารมณ์จิกกัดเล่นกับเรื่องความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ที่เห็นแก่ได้จนนำมาซึ่งความไม่ยุติธรรมอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การที่หนังไม่ได้วางตัวเป็นแอ็คชั่นใหญ่โตนั้น ไม่ได้ทำให้ความเข้มข้นมันถูกลดทอนลงไปเลย ดราม่าที่ค่อยๆ นวดเราไปจนถึงฉากสู้กันในตอนท้ายมันเป็นอะไรที่เดือดดาลดีจริงๆ
ชอบแคสต์จับคู่ระหว่าง อดัม ไดรเวอร์ กับ แมตต์ เดมอน ที่การมาชนกันของทั้งคู่เป็นศึกที่น่าจับตามองอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนนักแสดงสาวสวยอย่าง ‘โจดี้ คอเมอร์’ (หญิงผู้ตกเป็นเหยื่อ) ก็โดดเด่นอย่างเหลือล้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาเธอได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่ามีของจริงๆ จะคอมเมดี้อย่าง “Free Guy” หรือดราม่าหนักๆ อย่างเรื่องนี้ก็เอาเราอยู่หมัด และคิดว่าในอนาคตจะมีผลงานตามมาอีกเพียบ
ความจริงไม่คิดว่าจะได้มาฉายในสตรีมมิ่งด้วยซ้ำ สำหรับ The Last Duel เนื่องจากก่อนหน้าแค่จะหาโรงไปดูรอบฉายจริงก็ยากมากๆ แล้ว วันนี้มีให้ชมแล้วทาง Disney+ Hotstar เลยอยากจะมาชวนให้ไปดูกัน เพราะหนังมันดีจริงๆ และอย่างที่บอกว่านี่คือหนังที่ควรค่าแก่การชมอีกเรื่องหนึ่งเลยสำหรับปีที่ผ่านมา ส่วนใครที่กำลังรอหนังจาก ริดลีย์ สก็อตต์ อยู่ ปีนี้ยังมีอีกเรื่องอย่าง ‘House of Gucci’ ที่นำโดย เลดี้ กาก้า และ อดัม ไดรเวอร์ (คนหลังอีกเช่นเคย) ซึ่งกำลังจะเข้าฉายในไทย 20 มกราคมนี้แล้ว อย่าลืมไปดูกันล่ะ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
