• Ems Telegram โทรเลขปลอมที่ทำให้เยอรมันรวมชาติสำเร็จ
ในช่วงทศวรรษที่ 1860 อาณาจักรปรัสเซียภายใต้การนำของพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 (Wilhelm I) และนายกรัฐมนตรี ออทโท ฟอน บิสมาร์ค (Otto Von Bismarck) ได้ดำเนินนโยบายทางการเมืองที่เรียกว่า เลือดและเหล็ก (Blood and Iron) ซึ่งเป็นนโยบายที่ปรัสเซียจะทำสงคราม เพื่อรวบรวมรัฐของชาวเยอรมันที่กระจัดกระจายให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้อำนาจของปรัสเซีย
ภายใต้นโยบายเลือดและเหล็ก บิสมาร์คได้นำปรัสเซียทำสงครามครั้งสำคัญ ได้แก่ สงครามกับเดนมาร์กในปี 1864 เพื่อแย่งชิงดินแดนชเลสวิก-โอลสไตน์ (Schleswig-Holstein) อันเป็นดินแดนที่มีประชากรเป็นชาวเยอรมันแต่ตกเป็นของเดนมาร์ก และสงครามกับออสเตรียในปี 1866 เพื่อทำให้ปรัสเซียกลายเป็นผู้นำของบรรดารัฐเยอรมันแทนที่ออสเตรีย ซึ่งปรัสเซียก็เอาชนะสงครามทั้งสองนี้ได้
พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 กษัตริย์แห่งปรัสเซีย
ออทโท ฟอน บิสมาร์ค นายกรัฐมนตรีแห่งปรัสเซีย
หลังชัยชนะจากออสเตรีย ในปี 1867 รัฐเยอรมันที่อยู่ทางตอนเหนือก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของปรัสเซีย นำไปสู่การสถาปนาสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือ (North German Confederation) ขณะที่รัฐเยอรมันที่อยู่ทางใต้ ยังไม่ได้ตกเป็นของปรัสเซีย และยังอยู่ใต้อิทธิพลของฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้ บิสมาร์คจึงต้องหาเหตุที่จะทำให้ปรัสเซียทำสงครามกับฝรั่งเศสให้ได้ เพื่อให้การรวมชาติเยอรมันประสบความสำเร็จ
ในปี 1868 พระราชินีอิซาเบลลาที่ 2 แห่งสเปน (Isabella II of Spain) ทรงถูกกลุ่มปฏิวัติขับไล่ออกจากราชบัลลังก์ ส่งผลให้สเปนว่างเว้นจากการมีกษัตริย์นานถึง 2 ปี ด้วยกัน
พอถึงปี 1870 ฝรั่งเศสภายใต้การนำของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 (Napoleon III of France | เป็นหลานชายของนโปเลียน โบนาปาร์ต) ก็ได้สืบทราบมาว่า หนึ่งในคนที่ถูกเสนอชื่อให้มาเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของสเปนนั้น ก็คือเจ้าชายลีโอโปลด์แห่งโฮเฮนโซลเลิร์น (Leopold of Hohenzollern)
เจ้าชายลีโอโปลด์แห่งโฮเฮนโซลเลิร์น หนึ่งในแคนดิเดทที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นกษัตริย์สเปน
เมื่อฝรั่งเศสทราบเรื่องดังกล่าว ก็ได้ทำให้ฝรั่งเศสเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะว่า เจ้าชายลีโอโปลด์ทรงเป็นพระญาติของพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 แห่งปรัสเซียนั่นเอง ดังนั้นถ้าปล่อยให้เจ้าชายลีโอโปลด์มาเป็นกษัตริย์ของสเปน ก็เท่ากับว่าฝรั่งเศสตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของปรัสเซีย
ทว่าในเวลาต่อมา เจ้าชายลีโอโปลด์ก็ได้ประกาศสละสิทธิ์จากการถูกเสนอชื่อให้เป็นกษัตริย์สเปน แน่นอนว่าฝรั่งเศสพอใจกับเรื่องนี้ แต่เพื่อให้แน่ใจว่าปรัสเซียจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องในสเปนอีก นโปเลียนที่ 3 จึงได้สั่งการให้วินเซนต์ เบเนเดตตี (Vincent Benedetti) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำปรัสเซีย เดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 ที่เมืองเอมส์ (Ems)
เบเนเดตตีเข้าเฝ้าพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 ในวันที่ 13 กรกฎาคม 1870 โดยพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 ทรงยืนยันกับเบเนเดตตีว่า เจ้าชายลีโอโปลด์ได้ถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อ และเรื่องทุกอย่างก็ได้จบลงไปแล้ว
หลังจากพบเบเนเดตตี พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 ก็ได้ส่งโทรเลขเพื่อแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับบิสมาร์ค (เรียกว่าโทรเลขเมืองเอมส์ Ems Telegram) ซึ่งหลังจากที่ได้รับโทรเลขแล้ว บิสมาร์คก็ได้ทำการปลอมเนื้อหาที่อยู่ในโทรเลข จากนั้นเขาก็สั่งให้นำเนื้อหาในโทรเลข (ที่ผ่านการปลอมแล้ว) เผยแพร่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งที่ปรัสเซียและฝรั่งเศส
บางส่วนของโทรเลขเมืองเอมส์
สงสัยใช่ไหมครับว่า บิสมาร์คทำแบบไปทำไม คำตอบก็คือ ก็เพื่อให้ปรัสเซียทำสงครามกับฝรั่งเศสนั่นเอง
นั่นก็เพราะว่า เนื้อหาโทรเลขที่อยู่ในหนังสือพิมพ์ของปรัสเซียกับฝรั่งเศส มีเนื้อหาที่แตกต่างกัน โดยถ้าเป็นเนื้อหาบนหนังสือพิมพ์ปรัสเซีย จะมีเนื้อหาที่ว่า ทูตฝรั่งเศสอย่างเบเนเดตตีได้ดูหมิ่นพระเกียรติและกระทำหยาบคายต่อพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 แต่ถ้าเป็นเนื้อหาบนหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส จะกลายเป็นเนื้อหาที่ว่า พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 ทรงดูหมิ่นและไม่ให้เกียรติเบเนเดตตี
ผลพวงจากโทรเลขปลอมโดยฝีมือบิสมาร์ค ก็ทำให้ทั้งสองชาติต่างพากันโกรธแค้นอีกฝ่าย ท้ายที่สุดวันที่ 19 กรกฎาคม 1870 ฝรั่งเศสก็เป็นฝ่ายที่เริ่มก่อน โดยประกาศสงครามต่อปรัสเซีย นำไปสู่สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (Franco-Prussian War) ซึ่งสงครามก็จบลงด้วยชัยชนะอย่างสวยงามของปรัสเซีย รัฐเยอรมันทางใต้ตกอยู่ใต้อำนาจของปรัสเซีย และในวันที่ 18 มกราคม 1871 พระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 พร้อมกับบิสมาร์คก็ได้สถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน (German Empire) ภายในพระราชวังแวร์ซายส์ อันถือได้ว่า การรวมชาติเยอรมันได้ประสบความสำเร็จแล้ว
การสถาปนาจักรวรรดิเยอรมันภายในพระราชวังแวร์ซายส์
*** Reference
• หนังสือประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่ (ค.ศ. 1789-1914) สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
#HistofunDeluxe
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
