Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
•
ติดตาม
16 ม.ค. 2022 เวลา 04:42 • ความคิดเห็น
หนังสือเล่มนี้ได้เจ้าของคนต่อไป คือ คุณ Atitaya Duagnate นะคะ หากท่านใดที่สนใจแต่ไม่ได้รับไปในรอบนี้ ไม่เป็นไรนะค้า อิคิ ∙ 生き ยังมีหนังสือมาส่งมอบอีกเป็นระยะ ๆ ค่า 😊
∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎
📕 ส่งมอบหนังสือ จำนวน 1 เล่ม [ ไม่มีค่าใช้จ่าย ]
∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎∎
♟• EGO IS THE ENEMY [ ตัวคุณคือศัตรู ]
✍🏻• RYAN HOLIDAY เขียน || นพัฒน์ หัทยานันท์ แปล
🔖• แนะนำหนังสือ
🔖• ส่วนที่ 1 : การตั้งปณิธาน
“คนเราเมื่อประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง
บางทีเราจะลืมสิ่งสำคัญในชีวิตไป เราลืมไปว่าเรา
เป็นแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ บนโลกใบนี้ และเมื่อเรา
ลืมสิ่งนี้เราจะเผลอคิดแบบไม่รู้ตัวว่าเรานั้นช่าง
ยิ่งใหญ่และหนึ่งชีวิตของเรามีค่ากว่าชีวิตอื่น ๆ”
- RYAN HOLIDAY
หลัง ๆ มานี้ อิคิ ∙ 生き เริ่มมีความรู้สึกแบบนั้น
ในใจ ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร
มากมาย แต่บางอารมณ์เรารู้สึกว่า . . . ตัวเรา
คิดแปลก ๆ ประพฤติแปลก ๆ พูดแปลก ๆ
จนบางครั้ง อิคิ ∙ 生き ต้องกลับมาถามตัวเองว่า . . .
ทำไมเราถึงคิด พูด ทำเช่นนั้น
อิคิ ∙ 生き รู้สึกไม่ชอบมาพากลกับสิ่งเหล่านี้
ที่เกิดขึ้นภายในใจและคิดว่าถ้าปล่อยไปในที่สุด
ตัวเราอาจเป็นสาเหตุของการทำลายตัวเอง
เมื่อระลึกได้ดังนั้น อิคิ ∙ 生き ก็กวาดสายตามองที่
ชั้นหนังสือเพื่อหาสิ่งที่จะมาขจัดความอหังการที่
แอบซ่อนในซอกหลืบในจิตใจของเราให้สิ้นเชื้อ
ไม่เหลือเศษ
และหนังสือที่ อิคิ ∙ 生き เลือกมาเป็นแม่ทัพในการ
ต่อสู้กับ พยัคฆ์ร้ายที่ชื่อว่า “EGO” ก็คือ
====================
EGO IS THE ENEMY
ตัวคุณคือศัตรู — เขียนโดย
คุณ Ryan Holiday
====================
การอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ อิคิ ∙ 生き ตระหนักถึง
วงจรในการลงมือทำบางสิ่งบางอย่างที่ทุกคนมัก
จะต้องประสบพบเจอ
วงจรจะเริ่มต้นจากการตั้งปณิธาน หากเราตั้งใจ
วางแผน ลงมือทำ ประกอบกับกุศลผลนำส่งเสริม
ส่ิงนี้จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ
แต่ความสำเร็จจะไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป เพราะ
เราทุกคนมักมีช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่จะย้อนกลับ
มาที่ ความล้มเหลว ล้มลุกคลุกคลานก่อนที่จะ
เริ่มตั้งปณิธานใหม่อีกครั้ง . . .
ชีวิตของคนเราหรือการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งมักมี
วงจรเช่นนี้ค่ะ
คุณ Ryan กล่าวว่า . . .
ปณิธานของเราจะนำไปสู่ความสำเร็จ และ
ความสำเร็จจะสร้างความยากลำบากเฉพาะตัวขึ้นมา
รวมไปถึงความทะเยอทะยานใหม่ ๆ ด้วย
ส่วนความยากลำบากก็นำไปสู่ปณิธานและ
ความสำเร็จเพิ่มเติม นี่คือวงจรที่ไม่มีวันจบสิ้น
เราทุกคนอยู่ในวงจรนี้ โดยยืนอยู่ในจุดที่
แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงชีวิตของแต่ละคน
ซึ่งทุก ๆ ช่วง EGO จะแฝงตัวมาทดสอบ
ความแข็งแกร่งของจิตใจเราอย่างไม่ลดละ
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เรากำลังเผชิญหน้ากับ
ปณิธานอันแน่วแน่ ความตัวลอยในวันที่
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นใจ และวันที่เราน้ำตาไหล
เป็นทางเพราะตกจากที่สูงและกำลังล้มลุก
คลุกคลานเพื่อกลับมายืนหยัดอีกครั้ง
ไม่ว่าเรากำลังอยู่ช่วงไหน สิ่งที่เราต้องหลีกเลี่ยง
ก็คือ การปล่อยตัวปล่อยใจให้ EGO ขับเคลื่อน
ชีวิตของเราค่ะ
หนังสือเล่มนี้ได้แบ่งเป็น 3 ส่วนตามวงจรที่กล่าว
ข้างต้น นั่นคือ . . .
① การตั้งปณิธาน
② ความสำเร็จ
③ ความล้มเหลว
สำหรับวันนี้เรามาเริ่มส่วนที่ 1 นั่นก็คือ
การตั้งปณิธานกันก่อนนะคะ
=====================
🔖• ส่วนที่ 1 : การตั้งปณิธาน
=====================
การตั้งปณิธานคือช่วงเวลาที่เรากำลังจะเริ่มทำ
บางสิ่งบางอย่าง ทุกการเดินทางเริ่มต้นจาก
จุดนี้เสมอ
แต่หลายคนไม่เคยไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้
เพราะถูก “อีโก้” สกัดกั้นความสำเร็จของเรา
ในขั้นนี้เราจะวาดฝันมองทุกสิ่งทุกอย่างสวยงาม
และราบรื่นเกินความเป็นจริงไปเสียหมด เมื่อ
ทำอะไรสำเร็จเพียงเล็กน้อยเราจะรู้สึกตัวลอย
หัวใจพองโต
นี่คือสัญญาณที่กำลังบอกว่าเรากำลังมองโลกไม่
ตรงตามความจริงและถ้าหากเราปล่อยความรู้สึก
เหล่านี้ชี้นำทาง ความสำเร็จของเราจะอยู่ได้
เพียงไม่นาน
ซึ่งอาการฝันหวานตัวลอยสามารถถูกรักษาได้ด้วย
ความถ่อมตัวและมองโลกตามความเป็นจริง
เมื่อไม่นานมานี้ อิคิ ∙ 生き มีโอกาสดู Series เรื่อง
“The Good Doctor” ซึ่ง อิคิ ∙ 生き คิดว่าช่วงแรก
ของ Series เรื่องนี้สามารถสะท้อนเนื้อหาของ
การตั้งปณิธาน จากหนังสือ EGO IS THE ENEMY
ได้ดีมาก ๆ ค่ะ
เรื่องราวของ “The Good Doctor” เริ่มต้นจาก . . .
Dr. Shaun Murphy แพทย์จบใหม่ที่มีอาการ
ออทิสติก กำลังเดินทางไปสัมภาษณ์งาน
ในตำแหน่ง “แพทย์ประจำบ้าน”
(แพทย์ฝึกหัดเพื่อเป็นแพทย์เฉพาะทาง)
ที่โรงพยาบาล San Jose St. Bonaventure
แม้อาการออทิสติกของ Dr. Shaun Murphy
จะทำให้เขามีปัญหาเรื่องการสื่อสาร การปฏิสัมพันธ์
กับผู้คน
แต่ในอีกด้านการเป็นออทิสติกที่ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ
เดิม ๆ ก็ส่งผลให้ Dr. Shaun Murphy เป็นคนที่มี
ความฉลาด ความจำเป็นเลิศ ซึ่งต้องถือว่าเขาเป็น
แพทย์ผู้มีความอัจฉริยะคนหนึ่งเลยค่ะ
อิคิ ∙ 生き ประทับใจฉากสัมภาษณ์งานของ
Dr. Shaun Murphy เป็นอย่างมาก
มันเป็นเรื่องปกติมากค่ะ ที่คนทั่วไปจะคิดว่า
ผู้ป่วยออทิสติกอย่าง Dr. Shaun Murphy
ไม่มีทางจะเป็นหมอผ่าตัดได้
ซึ่งเหล่าคณะกรรมการการสัมภาษณ์งานในครั้งนี้
ก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกันค่ะ พวกเขารู้สึกไม่เชื่อมั่น
ในตัว Dr. Shaun Murphy
ยิ่งไปกว่านั้นหลาย ๆ ท่านกลับต่อต้านในการรับ
Dr. Shaun Murphy เข้าทำงานและถกเถียงไป
ต่าง ๆ นานา ว่าเขาจะเป็นแพทย์ผ่าตัดได้หรือไม่
แต่ท้ายที่สุดเหล่าคณะกรรมการก็ให้โอกาส
Dr. Shaun Murphy ในการพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเ
หมาะที่จะเป็นแพทย์ประจำบ้านของโรงพยาบาล
แห่งนี้ได้หรือไม่ ด้วยการตอบคำถามสำคัญหนึ่ง
คำถามจากเหล่าผู้บริหารโรงพยาบาล
และคำถามนั้นก็คือ . . .
===========================
“Dr. Shaun Murphy บอกเราหน่อยว่า . . .
ทำไมคุณถึงอยากเป็นศัลยแพทย์”
===========================
ก่อนจะเล่าว่า Dr. Shaun Murphy ตอบคำถาม
ผู้บริหารโรงพยาบาลอย่างไร อิคิ ∙ 生き คงต้องเล่า
ภูมิหลังของ Dr. Shaun Murphy ให้เพื่อน ๆ ฟังก่อน
Dr. Shaun Murphy มีพี่น้องสองคนซึ่งรักกันมาก
แม้ Dr. Shaun Murphy จะเป็นออทิสติก
แต่น้องชายเขาเป็นเด็กปกติ
เขาและน้องชายมาจากครอบครัวที่คุณพ่อเป็นคน
โมโหร้าย ในวันนึงคุณพ่อของ Dr. Shaun Murphy
โมโหเผลอขว้างกระต่าย สัตว์เลี้ยงแสนรักของเขา
อัดกำแพงและเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา
วันนั้นเป็นหนึ่งวันที่ Dr. Shaun Murphy หัวใจสลาย
เพราะกระต่ายของเขาต้องจากโลกนี้ไปด้วยพฤติกรรม
อันโหดร้ายของคุณพ่อ และตัวเขาเองก็ช่วยอะไร
กระต่ายน้อยตัวนั้นไม่ได้
ต่อมามีเหตุการณ์ทำให้พี่น้องคู่นี้ต้องหนีออกจากบ้าน
ทั้งสองต้องอาศัยอยู่บนรถโรงเรียนเก่า ๆ
ดูแลกันและกัน ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้นทั้งสองยังเด็กอยู่ค่ะ
[ อิคิ ∙ 生き เข้าใจว่าน้องชาย Dr. Shaun Murphy
น่าจะอายุประมาณ 10 ขวบต้น ๆ ส่วนตัว
Dr. Shaun Murphy แม้จะอายุมากกว่าน้อยชาย
แต่ด้วยการที่เขาเป็นออทิสติกทำให้น้องชายดูมี
ความคิดความอ่านที่โตกว่าและเป็นผู้ดูแล
ปกป้องพี่ชายด้วยความรักเสมอมา ]
มีอยู่วันหนึ่ง Dr. Shaun Murphy และน้องชาย
ไปเล่นซ่อนแอบกับเพื่อน ๆ ในโรงเก็บของ
เขาและน้องชายพยายามหาที่ซ่อนตัวบนที่สูง
ท้ายที่สุดน้องชายของ Dr. Shaun Murphy
พลัดตกลงมาเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา และเหตุการนี้
ก็เป็นอีกครั้งที่ Dr. Shaun Murphy ช่วยชีวิต
คนที่รักไม่ได้
เอาหล่ะค่ะ อิคิ ∙ 生き คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เรา
จะมาฟังคำตอบที่ Dr. Shaun Murphy เอาชนะใจ
เหล่าผู้บริหารกันนะคะ
กลับมาที่คำถามอีกครั้งค่ะ . . .
===========================
“Dr. Shaun Murphy บอกเราหน่อยว่า . . .
ทำไมคุณถึงอยากเป็นศัลยแพทย์”
===========================
ก่อนตอบ Dr. Shaun Murphy สูดลมหายใจลึก ๆ
หนึ่งเฮือกแล้วตอบว่า . . .
วันที่ฝนกลิ่นเหมือนไอศกรีม กระต่ายของผม
ไปสวรรค์ต่อหน้าต่อตา วันที่ท่อทองแดงในตึกเก่า ๆ
มีกลิ่นเหมือนอาหารไหม้ น้องชายผมไปสวรรค์
ต่อหน้าต่อตาผม
ผมช่วยพวกเขาไม่ได้ มันน่าเศร้า ไม่มีใครมีโอกาส
โตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาควรได้โตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขา
ควรได้มีลูก ๆ ของตัวเองและรักเด็ก ๆ พวกนั้น
==========================
ผมอยากทำให้คนอื่นมีโอกาสแบบนั้น
==========================
และผมอยากหาเงินได้เยอะ ๆ จะได้มีโทรทัศน์
ด้วยคับ 🥰
ประโยคสุดท้ายเป็นความน่ารักและไร้เดียงสา
ของความเป็นออทิสติกของ Dr. Shaun Murphy ค่ะ
เพราะการเป็นออทิสติกทำให้ เขาไม่สามารถเสแสร้ง
แกล้งทำในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้สึก เขาเป็นคนที่คิดอะไรก็จะ
พูดออกมาแบบนั้นเลยค่ะ
อีกหนึ่งประเด็นที่หลาย ๆ ท่านอาจสงสัยก็คือ
ทำไม Dr. Shaun Murphy พูดถึงกลิ่นฝน และ
กลิ่นท่อทองแดง นั่นเป็นเพราะ Dr. Shaun Murphy
เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ กับกลิ่นที่เขาได้สัมผัส
ในสถานการณ์นั้น ๆ ค่ะ
ท้ายที่สุดเหตุผลในการเป็นศัลยแพทย์ของ
Dr. Shaun Murphy ก็ยิ่งใหญ่มากพอที่จะเอาชนะใจ
คณะกรรมการสัมภาษณ์ได้ค่ะ
เมื่อผ่านการสัมภาษณ์แล้ว Dr. Shaun Murphy
ถูกมอบหมายให้ทำงานอยู่ภายใต้ทีมของ
Dr. Neil Melendez ศัลยแพทย์ผู้มีความหยิ่งยโส
ทนงตน และ เก่งกาจ
เมื่อ Dr. Neil Melendez ทราบว่า
Dr. Shaun Murphy จะต้องเข้ามาอยู่ภายใต้ทีม
ศัลยกรรมของเขา
Dr. Neil Melendez รู้สึกไม่เต็มใจนัก และแม้ว่า
Dr. Shaun Murphy จะดูเป็นเด็กดีและฉลาดมาก
แต่ด้วยอาการออทิสติก ทำให้ Dr. Neil Melendez
ไม่เชื่อว่า Dr. Shaun Murphy จะทำงานนี้ได้
ฉากที่ อิคิ ∙ 生き จำได้ขึ้นใจคือ ฉากที่
Dr. Shaun Murphy เข้าร่วมการผ่าตัดกับ
Dr. Neil Melendez เป็นครั้งแรก
Dr. Neil Melendez มอบหมายงานที่เรียกได้ว่า
ต่ำต้อยที่สุดสำหรับศัลยแพทย์ให้เขา นั่นคือ
งานถือท่อดูดเลือดและของเสียจากร่างกายคนไข้
ระหว่างการผ่าตัด
ไม่เพียงเท่านั้น Dr. Neil Melendez ยังพูดจาดูถูก
Dr. Shaun Murphy ซึ่ง ๆ หน้าว่า . . .
==========================
ผมคิดว่าคุณไม่น่าจะทำงานอะไรที่ดีกว่า
งานถือท่อดูดได้นะ
==========================
ที่สำคัญ Dr. Neil Melendez ยังมอบลึกลงไป
ในตาของ Dr. Shaun Murphy และพูดว่า
==============================
คุณไม่เหมาะกันที่นี่ ดังนั้นตราบใดที่คุณยังอยู่
ในทีมของเรา หน้าที่ของคุณก็คือ . . .
งานถือท่อดูดเท่านั้น
==============================
ดูถึงตรงนี้แล้วอัตตาของ อิคิ ∙ 生き ก็ขึ้นทันทีค่ะ
รู้สึกว่าอิตา Dr. Neil Melendez นี่มันแสบมาก
ถ้า อิคิ ∙ 生き เป็น Dr. Shaun Murphy คงวางท่อดูด
ไว้ตรงนั้นแล้วเดินออกมาทันทีเลยค่ะ
แต่ Dr. Shaun Murphy ไม่ทำเช่นนั้นและกลับถาม
Dr. Neil Melendez ด้วยความไร้เดียงสาของเขาว่า
“ผมเห็นศัลยแพทย์มาเยอะตอนเรียนหมอ คุณเก่ง
กว่าพวกเขามาก ผมมีเรื่องต้องเรียนรู้จากคุณอีกเยอะ
คุณหยิ่งมาก คุณคิดว่ามันช่วยให้คุณเป็นศัลยแพทย์
ที่ดีเหรอคับ มันทำร้ายคุณในฐานะคนคนหนึ่งไหม
มันคุ้มหรือเปล่าครับ”
จริง ๆ แล้วคนปกติทั่วไปคงไม่กล้าที่จะพูดกับผู้บังคับ
บัญชาแบบนี้ค่ะ แต่ที่ Dr. Shaun Murphy กล้าพูดกับ
Dr. Neil Melendez แบบนี้ก็เพราะความเป็นออทิสติก
ของเขา อย่างที่ อิคิ ∙ 生き ได้บอกไปในตอนต้นว่า
Dr. Shaun Murphy ไม่มีเซ็นเซอร์กลั่นกลองคำพูด
ถ้าเขาคิดอะไร เขาจะพูดแบบนั้นค่ะ
ในช่วงตั้งปณิธานคุณ Ryan [ ผู้เขียน ] กล่าวว่า . . .
ตอนที่เรากำลังริเริ่มทำอะไรไปใหม่ สิ่งสำคัญที่เรา
ควรทำอยู่เสมอ คือ
• จงเป็นนักเรียนอยู่เสมอ
• ขอให้ทำตามกลยุทธ์ผืนผ้าใบ กลยุทธ์ผืนผ้าใบ
หมายถึง จงเป็นลูกมือของศิลปินเก่ง ๆ แม้การเป็น
ลูกมือของเราจะมีหน้าที่ต่ำต้อยแค่เพียงแค่
กางผืนผ้าใบให้ศิลปินท่านนั้นวาดภาพ และขอให้ใช้
ช่วงเวลานี้ในการเก็บเกี่ยวเทคนิคการวาดภาพจาก
ศิลปินท่านนั้นอย่างเต็มที่
• ต้องควบคุมตัวเอง || กล้าไหมที่จะไม่ตอบโต้
[ ในยามที่ถูกดูหมิ่น ]?
• เลิกอยู่แต่ในหัวตัวเอง || อย่าฝันหวานกับจินตนาการ
ถึงภาพว่าเราเป็นคนวิเศษแค่ไหน จงอยู่กับสิ่งที่อยู่
ตรงหน้า ลงมือทำในสิ่งที่ควรทำ หยุดลุ่มหลงตัวเอง
“เราไม่ได้มีหน้าที่แสดงให้ใครดู เรามีแค่งานที่ต้อง
ทำให้เสร็จและบทเรียน ที่ต้องเรียนรู้ในทุกสิ่ง
ทุกอย่างที่อยู่รอบตัว”
• ตระหนักถึงอันตรายของความทะนงตัวก่อนเวลาอันควร
สิ่งที่รับมือยากและเราไม่ค่อยระวังคือ คำชื่นชม
คำสนับสนุน เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ความอิ่มเอมใจจะ
หลั่งไหลเข้ามาทันที คนเราเมื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีแวว
ประสบความสำเร็จ เราจะไม่ปกป้องตัวเองจากผู้คนหรือ
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดี ดังนั้นท่องไว้ว่า
“อย่าหยิ่งยโสและจงถ่อมตัวเข้าไว้”
[ Don't be Arrogant, Be Humble ]
และ จงระวังคำพูดชื่นชมให้มาก
• ทำงาน ทำงาน ทำงาน อย่ามัวแต่คิด ต้องลงมือทำ
• ที่สำคัญ คือ ฝึกฝน ลงมือทำ ปรับปรุงพัฒนา
• งานของเราไม่สามารถเสร็จได้ด้วยตัวมันเอง
ยกเว้นเราจะลงมือทำให้มันสำเร็จ
• อย่าหลงกับความสำเร็จ มองตัวเองอย่างถ่อมตัว
รวมถึงสร้างกิจวัตรและการมีมุมมองต่อชีวิตที่ดี
ส่ิงนี้จะอยู่กับเราไปชั่วชีวิต
• จงทำแทนที่จะเป็น
• ทะเยอทะยานแต่ใจเย็น
• สร้างสรรค์แต่ไม่หุนหันพลันแล่น
• กล้าหาญแต่ไม่สุ่มเสี่ยง
จากเรื่องราวของ Dr.Shaun Murphy ที่ อิคิ ∙ 生き
ได้เล่าให้ทุกท่านฟังข้างต้น ได้สะท้อนสิ่งที่ คุณ Ryan
แนะนำให้เราปฏิบัติตนในช่วงการตั้งปณิธาน
หลายข้อเลยทีเดียวค่ะ
• การเป็นออทิสติกนั้นทำให้การเป็นศัลยแพทย์
ของ Dr. Shaun Murphy แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
หาก Dr. Shaun Murphy มัวแต่คิดว่าอยากเป็นหมอ
แต่ไม่ฝึกฝน ลงมือทำ ปรับปรุงพัฒนา เอาชนะ
อุปสรรคต่าง ๆ อย่างหนัก เขาคงไม่สามารถ
เดินมาถึงวันที่ได้เป็นแพทย์ฝึกหัดอย่างแน่นอนค่ะ
• การที่ Dr. Shaun Murphy ยอมรับหน้าที่
ถือท่อดูดระหว่างการผ่าตัด และ บอกกับ
Dr. Neil Melendez ว่า . . .
“ผมมีเรื่องต้องเรียนรู้จากคุณอีกเยอะ”
แสดงให้เห็นว่า . . .
เขาเต็มใจที่จะเป็นนักเรียนและกำลังทำตาม
กลยุทธ์ผืนผ้าใบ ที่ยอมทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ได้
เรียนรู้การทำงานจากศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจอย่าง
Dr. Neil Melendez
• การที่ Dr. Shaun Murphy ยังคงยอมทำหน้าที่
ถือท่อดูดของเสีย หลังจากถูก Dr. Neil Melendez
ดูหมิ่นต่อหน้าเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ระหว่างการผ่าตัด
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าเขาละทิ้งความทะนงตัว
ไม่หุนหันพลันแล่นและควบคุมตัวเองที่จะไม่จะโต้ตอบ
อย่างมีอารมณ์ได้ แม้ว่าการที่เขาไม่โต้ตอบจะมาจาก
อาการออทิสติกของเขาก็ตาม
นอกเหนือจากสามประเด็นข้างต้น อิคิ ∙ 生き คิดว่า
สิ่งที่เราทุกคนไม่ควรมองข้ามคือปณิธานของเราตอน
เริ่มต้นทำอะไรสักอย่างนั้นสำคัญมากค่ะ
เราต้องตอบตัวเองให้ได้ชัดเจนว่า . . .
=====================
เรากำลังทำสิ่งที่เราทำเพื่ออะไร?
=====================
หากคำตอบของเราคือเพื่อตัวเราเอง
อิคิ ∙ 生き คิดว่าเราคงไม่สามารถทำสิ่งที่
คุณ Ryan แนะนำไว้ได้ค่ะ
ในทางกลับกัน . . .
ถ้าเรามีเป้าหมายเพื่อคนอื่นหรือสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเรา
สิ่งนี้จะทำให้เรามองข้ามการมีตัวตนหรือ EGO
ภายในตัวเราไปได้ค่ะ
เหมือน Dr. Shaun Murphy ที่มีเป้าหมายในการ
ช่วยเหลือผู้คนให้พวกเขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตต่อไป
ได้เติบโต มีชีวิตที่งอกงามเพื่อคนที่รัก เป้าหมายนี้
เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือตัวตนของ Dr. Shaun Murphy
มากค่ะ และ เป็นแรงผลัดดันที่สำคัญให้เขาเป็น
ศัลย์แพทย์ในวันนี้อีกด้วย
เมื่อเขียนถึงตรงนี้ ก็ทำให้ อิคิ ∙ 生き อดคิดถึง
คำสอนสุดท้ายของคุณยายจ๋า แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
ไม่ได้
อิคิ ∙ 生き ขออนุญาตนำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ อีกครั้งนะคะ
คุณยายสอนพวกเราว่า . . .
เมื่อเราเห็นคุณค่าในการมีชีวิตที่ตัวตนเล็ก
แต่งานใหญ่ และมีใจที่พร้อมจะเป็นสุขกับการที่ได้ให้
นี่คือการเติบโตที่เป็นกำไรของโลกใบนี้ ที่ไม่ควร
เป็นกำไรของใครเพียงคนใดคนหนึ่ง
เราควรเกิดมาเพื่อให้โลกใบนี้ผาสุขและงดงาม
หากเราคิดได้ดังนี้ใจเราก็จะ . . .
==================
สงบเย็นและเป็นประโยชน์
==================
เมื่อตัวตนเราเล็ก แต่งานที่ทำใหญ่ ส่ิงนี้จะทำให้ . . .
• เรามุ่งมั่นที่จะทำมากกว่าอยากที่จะเป็น หากเรา
เป็นหมอที่ตัวตนเล็กเราก็คงมุ่งมั่นรักษาชีวิตผู้คน
มากกว่าการนั่งตัวลอย หัวใจพองโตกับตำแหน่งแพทย์
ที่เราได้รับ
• เราจะไม่อยู่แต่ในหัวของตัวเองและตระหนักได้
อย่างที่คุณ Ryan กล่าวไว้ว่า “เราไม่ได้มีหน้าที่
แสดงให้ใครดู มีแค่งานที่ต้องทำให้เสร็จและ
บทเรียนที่ต้องเรียนรู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว”
• เราจะมองตัวเองอย่างถ่อมตัวไม่หลงมัวเมากับ
ความสำเร็จ เราจะรู้สึกว่าเราก็เป็นเพียงแพทย์
คนหนึ่งที่เกิดมาทำหน้าที่รับใช้ ช่วยเหลือผู้คน
ยิ่งไปกว่านั้นการถ่อมตัวยังทำให้เราเป็นนักเรียน
เรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนาตลอดชีวิตด้วยค่ะ
• เราจะสร้างสรรค์แต่ไม่หุนหันพลันแล่น กล้าหาญ
แต่ไม่สุ่มเสี่ยง เพราะบางช่วงเวลาเราต้องสร้างสรรค์
และกล้าที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง แต่เราจะไม่สุ่มเสี่ยง
และหุนหันพลันแล่น เพราะมีชีวิตคนเป็นเดิมพัน
ดังนั้นถ้าให้ อิคิ ∙ 生き เลือกเพียงสิ่งเดียว
ที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกำราบอีโก้
อิคิ ∙ 生き คงเลือกการมีเหตุผลในการทำสิ่งใด
สิ่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือตัวเราค่ะ การที่เราตั้งตนเป็น
ผู้รับใช้ตั้งแต่เแรก อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าเราจะอยู่รอด
ปลอดภัยจากการครอบงำของอีโก้ได้
จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายประเด็นที่หนังสือเล่มนี้
ได้ให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิต หากมีโอกาส
อิคิ ∙ 生き จะนำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ในโอกาส
ต่อไปนะคะ
สำหรับวันนี้เรามาเขาเรื่องการส่งมอบหนังสือกัน
ดีกว่าค่ะ
บทความนี้ที่ อิคิ ∙ 生き เล่ามาเป็นเพียงบางช่วง
บางตอนที่มีประโยชน์จากหนังสือเท่านั้นค่ะ
อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าหากท่านได้อ่านด้วยตัวเอง
จะได้รับประโยชน์มากมาย
สภาพของหนังสือเล่มนี้ ไม่ใหม่ค่ะ แต่ก็ไม่ถึงขนาด
สมบุกสมบัน หนังสือจะมีร่องรอยของการอ่าน เช่น
การเขียนบันทึกสั้น ๆ ดอกจัน ขีดเส้นใต้ Highlight
เต็มไปหมดค่ะ
หากท่านใดชอบอ่านหนังสือใหม่อาจไม่เหมาะ
แต่ถ้าท่านไหนมองว่าไม่เป็นปัญหาในการอ่าน
และคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับตัวท่าน
ก็สามารถแจ้งความประสงค์มาใน Comment
ของ Post ใน FACEBOOK ตาม LINK นี้
เท่านั้นนะคะ 😊
=====================================
https://www.facebook.com/iki.alive/posts/1086700542091531
=====================================
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き คงต้องขอลาไปก่อน
แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อ ๆ ไป
จาก อิคิ ∙ 生き นะคะ
สวัสดีค่ะ 🙏🏻😊
หมายเหตุ : สำหรับท่านที่เคยได้รับหนังสือจาก
อิคิ ∙ 生き ก็สามารถแจ้งความประสงค์เข้ามาก่อน
ได้นะคะ แต่ อิคิ ∙ 生き จะขอโอกาสให้กับเพื่อน ๆ
ที่ยังไม่เคยได้รับหนังสือก่อน โดยจะกำหนดระยะเวลา
แจ้งความประสงค์ไว้ หากไม่มีท่านใดแจ้งความประสงค์
มาในระยะเวลาที่กำหนด อิคิ ∙ 生き จะส่งมอบให้หนังสือ
ให้กับท่านที่เคยรับหนังสือไปแล้วและแจ้งความประสงค์
มาเป็นท่านแรกค่ะ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
หนังสือ•คือ•ชีวิต
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย