Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Stock Invest
•
ติดตาม
16 ม.ค. 2022 เวลา 05:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้นอาจจะไม่ได้ขึ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน แล้วมันขึ้นด้วยอะไร ? By เด็กขาดหุ้น
คนลงทุนในหุ้นทั่วไปคิดว่า หุ้นมันขึ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน เมื่อบริษัทเติบโต มีกำไร มีการขยายกิจการ ทำให้ราคาหุ้นก็ปรับตัวสูงขึ้น แต่ผมคิดว่าไม่เสมอไปครับ บางครั้งหุ้นขึ้นอาจไม่ใช่มาจากปัจจัยพื้นฐานอย่างเดียว สังเกตุว่าบริษัทบางบริษัท บางปีก็ขาดทุน บางปีก็กำไร บางบริษัทก็ไม่ได้มีกิจการที่เติบโตอะไรมาก สินค้าและบริการก็ไม่โดดเด่น แถมมีหนี้สินเพียบ แต่ทำไมราคาหุ้นถึงขึ้นเอาๆและขึ้นเร็วมากกว่าหุ้นพื้นฐานอีก
แล้วทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้น วันนี้เราก็จะมาหาคำตอบกัน
หุ้นที่ราคามันขึ้นเอาๆ มันขึ้นเพราะแรงซื้อครับ ถ้าจะให้หุ้นขึ้นอย่างรวดเร็วจะต้องมีคนซื้อหุ้นนี้เป็นจำนวนมากหรือเป็นจำนวนเงินที่มหาศาล จึงทำให้หุ้นขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แล้วใครล่ะที่จะซื้อหุ้นเป็นจำนวนมหาศาล คำตอบก็คือ คนที่มีเงินจำนวนมาก นักลงทุนเงินหนา ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือเจ้าของบริษัทนั้น หรือเรียกสั้นๆว่า รายใหญ่นั้นเอง
รายใหญ่เป็นใครได้บ้าง ก็ได้แก่ นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบัน กองทุนต่างๆ นักลงทุนที่มีเงินลงทุนมหาศาล
นักลงทุนเหล่านี้ก็จะซื้อหุ้นที่เข้าจะไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน รับเงินปัญผลจากกำไร หรือเพื่อไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทนั้น แต่รายใหญ่จะไปลงทุนในหุ้นนั้นก็จำเป็นศึกษาหุ้นนั้นให้ละเอียด ต้องศึกษาปัจจัยพื้นฐาน ต้องมีกิจการที่ดีมีอนาคต บริษัทมีความชัดเจนในการลงทุน มีรายได้และกำไรที่เติบโตหลายเท่าและต่อเนื่องทุกๆ ปี รายใหญ่ที่เลือกหุ้นแบบนี้ก็ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสถาบัน กองทุนต่างๆ หรือ นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า VI ครับ
แต่ก็มีนักลงทุนจำนวนมากก็ไม่เน้นหุ้นที่พื้นฐาน แล้วทำไมนักลงทุนรายใหญ่บางรายถึงซื้อหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานล่ะ
หุ้นที่ไม่มีพื้นฐาน ก็จะไม่มีใครสนใจ ไม่มีรายย่อยเข้ามาถือ ปริมาณการซื้อขายน้อยหรือวอลุ่มน้อย สามารถทำราคาได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ
1
กราฟหุ้น
ให้คุณสังเกตุดูกราฟนี้ คุณจะสังเกตุว่าราคาหุ้นขึ้นไปสูงมากและขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เมือถึงจุดๆหนึ่งราคาก็ตกมาอย่างรุนแรงภายใน 1-2 วัน ภาวะแบบนี้เกิดมากขึ้นในตลาดหุ้น จากในภาพราคาหุ้นขึ้นไปสูงนั้นเกิดจากอะไร
เกิดจากมีคนซื้อหุ้นนี้เป็นเป็นจำนวนมากอาจจะเป็นคนเงินหนาซื้อ แล้วทำให้ราคาพุ่ง และก็มีนักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ หรือชื่อเรียกในวงการหุ้นว่า แมงเม่า พอเห็นราคาหุ้นสูงขึ้นและมีข่าวดีต่างๆเกี่ยวกับบริษัท จึงทำให้นักลงทุนรายย่อยคนอื่นๆก็เริ่มคันไม้คันมืออยากจะซื้อมันเผื่อว่าราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ทำให้ปริมาณความต้องการซื้อสูงมาก ราคาหุ้นก็เลยขึ้นไปตามความต้องการซื้อของนักลงทุนรายย่อย
แล้วเมื่อราคาสูงขึ้นไป รายย่อยอย่างเราๆที่ซื้อหุ้นตัวนี้ได้แล้ว ก็คิดว่า กูซื้อถูกแน่ และตอนนั้นก็ได้กำไรด้วย ก็เชื่อว่าราคาหุ้นก็คงไปต่อเพราะบริษัทมีข่าวดีจะไปทำโน้นทำนี้ ก็เลยถือไว้นาน แต่รู้หรือไม่ว่าการสร้างข่าวดีและทำราคาหุ้นให้สูงนั้นเพราะมีคนอยากจะขายหุ้นออกเพื่อทำกำไร และแถมคนที่ซื้อหุ้นเป็นจำนวนมากซื้อที่ต้นทุนต่ำกว่าเรา พวกนี้ก็ได้กำไรแล้ว แล้วพวกนี้ก็ไม่ได้ซื้อน้อยๆน่ะ แต่มันซื้อเยอะเลยทีเดียว แล้วใครที่ซื้อก่อนเราล่ะ แล้วซื้อเยอยะด้วย ?
คำตอบก็คือ นักลงทุนรายใหญ่
เมื่อรายใหญ่ที่ซื้อแล้ว เขาก็เริ่มได้กำไรแล้ว แล้วรายใหญ่จะทำอย่างไรต่อ ?
รายใหญ่ก็จะสร้างข่าวดี ว่าบริษัทจะไปลงทุนโน้น ลงทุนนี้ ไปซื้อกิจการ จะออกผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ ทำให้รายย่อยก็จะเริ่มเข้ามาสนใจหุ้นตัวนี้มากขึ้น ในกลุ่มไลน์หุ้นก็พูดถึงหุ้นตัวนี้ ไปถามใครเค้าก็บอกว่าซื้อแล้วได้กำไร หุ้นตัวนี้มันดี สุดยอด แล้วทำให้มวลรายย่อยก็จะต้องการซื้อหุ้นนี้
เมื่อรายใหญ่ดูแล้วว่า มีนักลงทุนรายย่อยต้องการซื้อหุ้นนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณความต้องการซื้อมีสูง รายใหญ่ก็เริ่มขายใส่ๆ ให้รายย่อย แล้วที่นี้ล่ะมึง ราคาก็ตกลงอย่างรุนแรง เพราะรายใหญ่มีหุ้นไว้จำนวนมากแล้วขายออกมาทำกำไรอย่างมหาศาล ทำให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว เหมือนในกราฟที่ราคาหุ้นลงมา
แล้วคนที่ไม่ขายแล้วมีต้นทุนการซื้อมากกว่ารายใหญ่ล่ะเป็นอย่างไร?
บอกเลยต้องมีอ้วกแตก ขี้แตก นอนไม่หลับ แน่ๆ เพราะเมื่อราคาลงมาแล้ว ราคาก็ต่ำกว่าที่นักลงทุนรายย่อยซื้อ ทำนักลงทุนรายย่อยขาดทุน ทำให้นักลงทุนรายย่อยก็ต้องยอมขายขาดทุน ถ้าไม่ขายก็ติดหุ้นนั้นอยู่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ติดดอยนั้นเอง ส่วนนักลงทุนรายใหญ่ก็ได้กำไรมหาศาล
การทำแบบนี้ของนักลงทุนรายใหญ่ เรียกว่าอะไร?
เรียกว่าการลากราคา การปั่นราคา หรือการลากหุ้นนั้นเอง
โดยรายใหญ่จะเลือกหุ้นที่จะลากด้วย อาจจะเป็นรายใหญ่หลายๆคนร่วมมือกัน รายใหญ่จะเลือกหุ้นที่มาเก็ตแค็ปน้อย วอลุ่มปริมาณการซื้อขายน้อย รายย่อยถือน้อยๆ การเลือกหุ้นแบบนี้จะทำให้ราคาขึ้นง่ายมากๆ หรือเรียกหุ้นแบบนี้ว่า หุ้นเบา ถ้าหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเยอะ มีรายย่อยอยู่เยอะ หรือเรียกอีกอย่างว่าหุ้น "หนัก" รายใหญ่พวกนี้ก็จะไม่สนใจ เพราะจะลากให้ราคาให้รายย่อยได้กำไรทำไม แถมการลากราคาหุ้นหนักก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากอีก
เมื่อรายใหญ่ปั่นราคาจนถึงจุดที่ได้กำไรแล้วก็ทุบราคาลงมาเพื่อทำกำไร นี้ก็คือพฤติกรรมของรายใหญ่ ซึ่งจะสังเกตุได้ด้วยการไปดูกราฟราคา กราฟราคาเป็นส่วนที่แสดงพฤติกรรมราคาหุ้นนั้นได้
ดังนั้น รายย่อยอย่างเราๆ ก็ต้องเลือกหุ้นที่ดี พื้นฐาน หุ้นแบบที่กล่าวมาเขาเรียกว่า หุ้นปั่น ควรศึกษารายละเอียดของหุ้นนั้นให้ดีก่อนจะซื้อ หุ้นปั่นคุณก็สามารถเล่นได้ไม่มีใครบังคับ แต่คุณก็ต้องรู้ทันรายใหญ่ ออกจากหุ้นให้ทัน การดูกราฟเป็นสิ่งสำคัญ กราฟจะช่วยดูพฤติกรรมของราคาหุ้น ว่าอดีตเป็นอย่างไร และอย่าไปหลงกลรายใหญ่ ถ้าทรงกราฟคล้ายๆกับ ที่นำมาเป็นตัวอย่าง ก็ถ้าเป็นไปได้ หลีกเหลี่ยงซะดีกว่า เป็นเล่นหุ้นพื้นฐาน หุ้นเติบโตจะดีที่สุด
เล่นหุ้นให้ปลอดภัย By เด็กขาดหุ้น
อยากจะฝากคำสอนนี้ไว้
อะไรที่คนพูดถึงว่ามันดีมากๆ ต่อไปเข้าไปหามัน มันอาจจะเลวร้ายกับคุณก็เป็นได้
3 บันทึก
2
2
6
3
2
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย