17 ม.ค. 2022 เวลา 12:34 • ประวัติศาสตร์
ไขปริศนาโจว ต้า กวาน "ประตูนครธม" เคยมี "5 หน้า" จริงมั้ย ? (ตอนที่ 1)
ภาพถ่ายเก่าประตูพระราชวังหลวงอยุธยาที่มี 5 หน้า ซึ่งชวนให้นึกถึงบันทึกของราชทูตจีน โจว ต้า กวาน ที่กล่าวว่าประตูนครธมมี 5 หน้า
ภาพถ่ายเก่าของยอดประตูพระราชวังโบราณอยุธยา (หรือบ้างก็เชื่อว่าคือยอดเทวสถานชีกุน) ที่มีทั้งหมด 5 หน้า ปัจจุบัน 4 หน้าล่างอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และ 1 หน้าบนพบแล้วว่าเก็บรักษาไว้ในคลังของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
(ดูบทความ ภาพยอดประตูวังหลวงอยุธยากับหน้าที่ 5 ที่หายไป https://www.facebook.com/yimdeefilm/photos/a.1402256133189826/5272334219515312/?type=3) ชวนให้นึกถึงข้อความของบันทึกราชทูตจีน โจว ต้า กวาน ที่เข้ามาในเมืองพระนครของกัมพูชา เมื่อปี 1839 ปีแรกในรัชกาลพระเจ้าศรีนทรวรมัน (1839-1850) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประตูนครธมทั้ง 5 แห่งซึ่งดูเหมือนกันหมด ดังนี้
ประตูนครธมด้านทิศเหนือในปัจจุบัน มี 4 หน้า
ประตูชัยนครธม ด้านทิศตะวันออก มี 4 หน้าเช่นกัน
"เหนือทวารของกำแพงเมือง มีเศียรพระพุทธศิลาขนาดใหญ่ 5 เศียร พระพักตร์นั้นผินไปตามทิศทั้งสี่ ตรงกลางเป็นที่สถิต 1 ใน 5 พระเศียร และพระเศียรนั้นประดับด้วยทองคำ ทวารทั้งสองข้างสลักศิลาเป็นรูปช้าง"
ประตูผีนครธม ด้านทิศตะวันออก มี 4 หน้าเช่นกัน
บันทึกดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าในรัชกาลของพระเจ้าศรีนทรวรมันประตูนครธมตอนนั้นมี 5 หน้า ต่างจากทุกวันนี้ที่มี 4 หน้า ซึ่งทำให้นักวิชาการ ผู้แปลบันทึกไปจนถึงผู้อ่านต่างกังขาว่าโจว ต้า กวาน น่าจะบันทึกข้อมูลผิด เหมือนข้อมูลหลายแห่งในบันทึกของเขาที่ดูเว่อร์เกินจริงไปหน่อย (เช่นพิธีเบิกพรหมจรรย์ที่บทความหน้าจะพูดถึงว่ามีความเป็นไปได้) เพราะดูไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าหน้าที่ 5 จะไปเป็นยอดของประตูได้อย่างไร อีกทั้งประตูและยอดปราสาทหลายแห่งที่สร้างในสมัยบายน เช่น ปราสาทตาพรม ปราสาทตาสม ปราสาทบายน ปราสาทบันทายฉมาร์ ก็มีแค่ 4 หน้าเท่านั้น
ภาพลายเส้นประตูนครธม วาดโดย Louis Deporte เมื่อ ค.ศ. 1824/พ.ศ. 2367
ประตูปราสาทตาพรม มี 4 หน้า เช่นเดียวกับประตูนครธมในปัจจุบัน
ประตูปราสาทบันทายกุฏี มี 4 หน้า เช่นเดียวกับประตูนครธมในปัจจุบัน
จะว่าไปแล้วถ้าไม่นับส่วนที่เป็นเรื่องเล่าของโจว ต้า กวาน เมื่อพิจารณารายละเอียดของบันทึกที่กล่าวถึงสถาปัตยกรรมปราสาทแต่ละหลังโดยเฉพาะในเรื่องของจำนวน จะเห็นว่าราชทูตท่านนี้ให้ข้อมูลค่อนข้างตรงกับสิ่งที่พบเห็นในปัจจุบัน เช่น
แผนผังประตูเมืองนครธม มีประตูทั้งหมด 5 แห่งประจำทั้ง 4 ทิศ โดยประตูด้านทิศตะวันออกมี 2 ประตู คือ ประตูชัยและประตูผี ตรงกับที่โจว ต้า กวาน บันทึกไว้
"กำแพงล้อมรอบนคร (ธม) มีทวารอยู่ 5 ทวาร...ทวารทางทิศตะวันออกเท่านั้นที่มี 2 ทวาร ด้านอื่นๆ มีทวารเดียวทั้งสิ้น" ก็ตรงกับประตูเมืองนครธม เพราะด้านทิศตะวันออกมีประตูชัยเพิ่มมาอีก 1 แห่ง
ราวสะพานของประตูนครธมด้านทิศใต้เป็นรูปอสูร (ด้านซ้ายของภาพ) และเทพ (ด้านขวาของภาพ) ข้างละ 54 ตน กำลังยุดลำตัวของนาคไว้ก็ต้องกับบันทึกของราชทูตโจว ต้า กวาน เช่นเดียวกัน
"ภายนอกคูเมืองมีสะพานใหญ่...แต่ละด้านของสะพานมีเทวรูปศิลา 54 องค์...ใช้หัตถ์ฉุดงูไว้" ตรงกับรูปเทวดาและอสูรยุคนาคที่มีข้างละ 54 รูป รวมทั้งหมด 108 รูปในทุกวันนี้
ปราสาทซัวปรัตเป็นปราสาทศิลาแลงขนาดย่อมทั้งหมด 12 หลังภายในลานหน้าพระราชวังหลวง
"ตรงข้ามกับพระราชวังมีปราสาทหินย่อมๆ อยู่ 12 หลัง ให้คู่พิพาทเข้าไปนั่งในปราสาทคนละหลัง" เรื่องดังกล่าวจะจริงหรือไม่นั้น แต่จำนวนปราสาททั้ง 12 หลังตรงกับกลุ่มปราสาทซัวปรัตหน้าพระราชวังหลวงซึ่งเป็นปราสาทศิลาแลงขนาดย่อม 12 หลัง
ปราสาทนาคพันใจกลางบารายปราสาทพระขรรค์ มีรูปสัตว์ที่มีน้ำไหลออกจากปาก ได้แก้ สิงห์ ม้า ช้าง และวัว ตรงกับบันทึกโจว ต้า กวาน เช่นเดียวกัน แต่ภายหลังรูปโคเปลี่ยนเป็นบุรุษสวมอุณหิสโดยไม่ทราบสาเหตุ สันนิษฐานว่าอาจหมายถึงนนทิเกศวรหรือโคนนทิในรูปเทพ
"สระน้ำทิศเหนือ...ตรงกลางสระมีปราสาททองคำ 1 หลัง...พวกราชสีห์ทองคำ พระพุทธรูปทองคำ ช้างทองสัมฤทธิ์ วัวทองสัมฤทธิ์ และม้าทองสัมฤทธิ์ก็มีอยู่ที่นั่นทั้งสิ้น" ตรงกับปราสาทนาคพันที่มณฑปทั้ง 4 ทิศรอบมีทางน้ำไหลออกจากรูปสัตว์เหล่านี้ คือ สิงห์ ช้าง และม้า ส่วนวัวปัจจุบันแทนที่ด้วยรูปหน้าคนสวมกะบังหน้าอ้าปากหวอที่อาจหมายถึงนนทิเกศวรหรือโคนนทิในรูปเทพ
รวมความแล้วก็จะเห็นว่าการ "นับเลข" และ "ให้ข้อมูล" เกี่ยวกับปราสาทแต่ละหลังของท่านราชทูตโจว ต้า กวาน ค่อนข้างที่จะแม่นยำอยู่มาก ทำให้ประตูนครธม 5 หน้าที่ท่านกล่าวถึงมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่งทีเดียว ทว่าข้อมูลจากบันทึกเท่านี้คงยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าประตูนครธมเคยมี 5 หน้า ซึ่งต้องพิจารณาจากประตูนครธมในสภาพปัจจุบันประกอบด้วย
โปรดติตตามตอนที่ 2 ในสัปดาห์หน้า
โฆษณา