16 ม.ค. 2022 เวลา 14:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รายได้โรงหนังทั่วโลกของปี 2021 ทำได้รวมกันถึง 21.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
จากรายงานของวาไรตี ธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในปี 2021 ทำรายได้รวมกันถึง 21.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการประเมินของบริษัทวิจัย โกเวอร์ สตรีต อะนาไลติกส์ (Gower Street Analytics) โดยแรงส่งสำคัญคือความสำเร็จของหนัง ‘Spider-Man: No Way Home’ ในช่วงเดือนธันวาคม ทำให้รายได้ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจากปี 2020 ถึง 78% แต่ก็น้อยกว่ารายได้ในปี 2017-2019 ซึ่งเป็นปีก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ทำไว้เฉลี่ยปีละ 41.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เกือบครึ่ง
ข้อมูลของโกเวอร์ สตรีต เผยให้เห็นว่า ตลาดเอเชีย-แพซิฟิก ทำรายได้สูงถึง 11.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และหากลงลึกไปรายละเอียดของตัวเลขนี้ จะพบว่า เป็นรายได้จากจีนถึง 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทำให้จีนยังคงเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นปีที่สองติดต่อกัน
ตลาดอเมริกาเหนือทำรายได้รวม 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกาทำรายได้รวมกัน 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และละตินอเมริกาทำรายได้ไป 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ด้วยตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่า ตลาดเอเชีย-แพซิฟิก (รวมจีน) เติบโตขึ้นจากปี 2020 ที่เคยครองส่วนแบ่งการตลาด 50.2% เป็น 52.8% ในปี 2021 แค่จีนประเทศเดียวก็มีส่วนการตลาดเติบโตขึ้นจาก 28% มาเป็น 3 ใน 4 ของตลาด หรือราว ๆ 34%
เพราะแรงขับจากหนังท้องถิ่นในจีน โดยที่ไม่มีหนังดัง ๆ ของฮอลลีวูดเข้ามาเกี่ยวข้องในตลาด ทำให้เกิดคำถามว่า ฮอลลีวูดจะได้ประโยชน์อะไรแค่ไหน จากความแข็งแกร่งของตลาดจีน? โดยแค่สามหนังฮิตของจีน ‘The Battle at Lake Changjin’, ‘Hi, Mom’ และ ‘Detective Chinatown 3’ ก็ทำรายได้ถึง 34% ของรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในจีนแล้ว
ตลาดอื่น ๆ ในเอเชียมีทั้งที่หดตัวจากเดิม และค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ส่วนแบ่งรายได้จากตลาดญี่ปุ่นในปี 2021 ลดลงเหลือ 6.2% จากที่เคยทำได้ 12.2%, เกาหลีใต้เหลือแค่ 1.8% จากที่เคยทำไว้ 4.1% ส่วนออสเตรเลีย มีส่วนแบ่งรายได้ 0.6% ตกจากเดิมที่ทำไว้ 2.7%
ขณะที่ส่วนแบ่งรายได้ของตลาดยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา และละตินอเมริกา ลดเหลือ 20.7% จากเดิม 23.1% เนื่องจากการล็อกดาวน์ในหลาย ๆ ประเทศ ช่วงต้นปี 2021
ในปี 2021 รายได้จากตลาดสหรายอาณาจักรและไอร์แลนด์ครองส่วนแบ่งตลาด 3.7% ซึ่งในปี 2020 ทำไว้ 4.2% แต่ก็มากพอที่จะกลายเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 รองจากจีน, อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ส่วนฝรั่งเศส มีส่วนแบ่งรายได้ที่ 3.2% ตกจากปี 2020 ที่ทำไว้ 4.4%
ที่น่าสนใจก็คือ ช่วงที่แย่ที่สุดของปี 2021 คือเดือนมกราคม ซึ่งโรงหนังมีการปิดบริการ และที่ฉายได้ก็ขาดหนังใหม่ ๆ ป้อน จนช่วงตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์​เมื่อบรรดาหนังใหญ่ของจีนเปิดตัวรายได้จึงกระเตื้องขึ้น โดยแค่รายได้ในจีนแห่งเดียวก็คิดเป็นรายได้ถึง 84% ของรายได้โรงหนังทั่วโลกแล้ว แต่อีก 4 เดือนต่อจากนั้น สภาพตลาดก็ซบเซาอีกรอบ จนหนัง ‘Fast and Furious 9’ ออกฉายในเดือนมิถุนายน ทำให้รายได้ประจำเดือนในอเมริกาเหนือเหนือกว่าจีนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
‘Black Widow’, ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ และ ‘Free Guy’ คือบรรดาหนังที่ทำให้รายได้ขยับเพิ่มขึ้นในช่วงปลาย ๆ ซัมเมอร์ จากนั้น ‘No Time to Die’, ‘Venom: Let There Be Carnage’ และ ‘The Battle at Lake Changjin’ ก็ทำให้รายได้รวมในเดือนตุลาฯ พุ่งไปถึง 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรายได้ประจำเดือนที่มากที่สุดในช่วงปี 2020-21 ยุคสมัยของโรคระบาด พอ ’Spider-Man’ เปิดตัวในตลาดใหญ่ ๆ (ยกเว้นจีนกับญี่ปุ่น) รายได้ของเดือนธันวาคมก็เพิ่มไปถึง 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข้อมูลของโกเวอร์ สตรีตยังครอบคลุมไปถึงว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของปี 2021 56% ของโรงหนังเปิดบริการ ซึ่งมีโรงในแถบยุโรป/ ตะวันออกกลาง/ แอฟริกา และละตินอเมริกา เปิดตัวแค่ 24% ก่อนที่จะจบปีด้วยการมีโรงภาพยนตร์เปิดให้บริการถึง 90% ทั่วโลก โดยอเมริกาเปิดตัวในอัตราที่ช้าที่สุดแค่ 85%
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
เป็นกำลังใจให้ www.sadaos.com ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนเงินมาที่ shopsadaos@gmail.com เพื่อดำเนินการมอบรางวัลให้กับผู้สนับสนุนที่โชคดีต่อไปเป็นประจำทุกเดือน
ในยุค '80s ฟีบี เคตส์ คือ นักแสดงหญิงที่เป็นโปสเตอร์เกิร์ลของหนุ่ม ๆ ทั้งโลกก็ว่าได้ และในวันผ่าน 50 ปี เรามาย้อนดูฉากที่ทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจหนุ่ม ๆ ทั้งโลกในตอนนั้นกัน คลิกชมและอ่านเรื่องราวได้ที่นี่ --> http://bit.ly/2C2O1MC
#PhoebeCates #sadaos #MovieStory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา