เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ “ผู้สูงอายุ”(2)
:เมื่อผู้สูงอายุกำลังจะครองเมือง
มีการคาดการณ์กันว่า ในปีหน้า(2023) จำนวนผู้สูงอายุทั่วโลกจะพุ่งขึ้นไปถึง 1.4 พันล้านคน จะทำให้จำนวนผู้สูงอายุมากกว่าจำนวนเด็กเกิดใหม่ !!
•
ไม่เพียงแต่มากกว่าเด็กเกิดใหม่เท่านั้น ระหว่างปี 1980 – 2050 จำนวนผู้สูงวัยจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว โดยในปี 2050 (พ.ศ. 2593) โลกจะมีจำนวนผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป กว่า 2.1 พันล้านคน ส่งผลให้ในอีกราว 30 ปีต่อจากนี้จะเป็นครั้งแรกที่โลกมีจำนวนคนแก่มากกว่าคนหนุ่มสาว!!
1 ใน 5 ของประชากรโลกในปี 2050 (พ.ศ. 2593) จะเป็นผู้สูงวัย กลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เป็นครั้งแรกที่ผู้สูงอายุจะครองเมืองในทุกพื้นที่ของโลก
สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันเราเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แล้วครับ แต่ในอีก 14 ปีข้างหน้า(พ.ศ.2578) เราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสูงสุด (Super Aged Society) โดยมีประชากรสูงอายุถึง 30% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงโดยรวมของประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พบว่าจำนวนประชากรของไทยจะหายไปถึง 50% ในปี 2030 ถ้าครอบครัวแต่ละครอบครัวยังไม่มีลูกเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ตามมาก็คือ จะเกิดการเปลี่ยนขั้วของเจนเนอเรชั่นที่ทรงอิทธิพล จากกลุ่มมิลเลนเนียล ที่มีความเชื่อเดิมๆ มาเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่คุมอำนาจทางการเงินและการเมือง เป็นกลุ่มที่มีเงินเหลือเพื่อการใช้จ่าย มากกว่าคนทุกกลุ่ม กลายเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก สู่ เศรษฐกิจสูงวัย หรือ Silver Economy ซึ่งจะเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งในอนาคต
สิ่งที่น่าสนใจจากงานวิจัยหนึ่งพบว่า
64% ของคนสูงอายุในบ้านเรา มองว่าเขารู้สึกเด็กกว่าอายุจริง
75% ต้องการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
50% ต้องการใช้ชีวิตใหม่ๆ เช่น ชอบเข้าไปเรียนรู้ ผ่านคอร์สต่างๆ หรือออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านผ่านการท่องเที่ยวในที่ต่างๆ
•
เมื่อผู้สูงอายุกำลังจะครองเมือง และสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในทุกมิติ เราพร้อมปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้แล้วหรือไม่ เป็นเรื่องชวนคิดกันครับ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
