19 ม.ค. 2022 เวลา 10:26 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Wrath Of Man (2021) Review
- ถือว่าทิ้งห่างจากงานเดี่ยวแอคชั่นอันน่าจดจำไปหลายปีเหมือนกัน สำหรับพระเอกนักบู๊แห่งฮอลลีวู้ด อย่าง Jason Statham ถ้าไม่นับรวมหนังตระกูล Fast จนมาถึงผลงานล่าสุดที่พึ่งปล่อยเมื่อปี 2021 “Wrath Of Man (คนคลั่งแค้นปล้นผ่านรก)” ผลงานกำกับสุดกวนของ Guy Ritchie ไดเรคเตอร์คู่บุญเก่าของเฮียเจสัน ตั้งแต่สมัย Lock, Stock and Two Smoking Barrels (1998) และ Snatch (2000) ที่มีลายเซ็นการนำเสนออันเป็นเอกลักษณ์ โดยครั้งนี้ได้โคจรมาร่วมงานกันอีกครั้งกับหนังแนวปล้นๆ (อีกแล้ว) แต่ก็ไม่ใช่ในฉบับที่คุ้นเคยซะทีเดียว
- โดยเล่าถึง เอช (Jason Statham) ชายผู้เงียบขรึมและเต็มไปด้วยปริศนาจากไหนก็ไม่รุ้เข้ามาสมัครงานเป็นทีมรักษาความปลอดภัยของบริษัทขนเงินเอกชนแห่งหนึ่งๆ ซึ่งการมาของเขาไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่นอน โดยหนังจะพาผู้ชมร่วมคลายปมความลับและความจริงร่วมไปกับพระเอก และความเดือดในการโชว์สกิลเทพของพี่แกที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้หมอนี่มันมีของ!
- หลังจากที่รับชมจบแล้วบอกเลยว่า แก่นของเรื่องเป็นหนังแนวปล้นจริงๆ ไม่ใช่หน้าหนังชวนหลอกผู้ชมเหมือนหนังเก่าบางเรื่องของเฮียแก อัดแอคชั่นมาตอนท้ายอย่างสาแก่ใจทีเดียว ถึงแม้มีไม่มากแต่ก็พอเหมาะพอควร ดูไม่เว่อร์จนเกินงาม ที่สำคัญซีนอารมณ์ความเศร้าปนแค้นจัดว่าเอาอยู่จริงๆ และการบิ้วอัพบางอย่างที่อาจทำให้นึกถึงเรื่องอื่นอยู่บ้าง เช่น การวางแผนการที่ดำเนินไปพร้อมกับเหตุการณ์ปัจจุบัน อย่าง (A-Team : 2010)
แต่น่าเสียดายตรงที่ใช้ตัวละครไม่ค่อยคุ้ม (ฮา) เหนืออื่นใดของความธรรมดา เรื่องนี้ถือว่าฉีกจากหนังแอ็คชั่นสูตรสำเร็จอยู่หน่อยๆ ที่ไม่ใช่การดำเนินเรื่องแบบ 1 2 3 4 อย่างที่คุ้นเคย เพราะเมื่ออยู่ในมือของ “กาย ริชชี่” ที่นำมาปรุงรส มีหรือ จะทำให้มันดูเรียบ.. นี่แหละเสน่ห์ของเขา กับการแบ่งเป็นพาร์ทๆสลับไปมาผ่านเรื่องราวของแต่ละกลุ่มตัวละคร เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ที่รอต่อรวมเข้ากันสู่บทสรุปตอนท้าย
ภาพรวมถือว่าทำได้ดี ดูเท่ มีสไตล์ แม้หนังจะไม่มีแก่นอะไรให้ดูซับซ้อน แต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ในระว่างทางเหมือนกัน จัดว่าดูเอาสนุก เอามันส์เพลินๆ ได้สบายภายในเวลาเกือบสองชั่วโมง โดยไม่มีช่วงยืดหรือหน่วงจนเกินไป
โฆษณา