Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
WalkAholic
•
ติดตาม
21 ม.ค. 2022 เวลา 03:30 • ท่องเที่ยว
Lam Phun Trip - เมืองเงียบๆที่ไม่เหงา
ลำพูน เป็นจังหวัดที่ไม่เล็ก แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก สำหรับผมก็เช่นกัน
บ่อยครั้งที่ผมเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภาคเหนือ ส่วนมากก็ไปจนสุดเชียงใหม่ เชียงราย หรือไม่ก็แวะที่ลำปาง
สิ่งเดียวที่รู้จักของลำพูนสำหรับผมคือ ขุนตาน
ด้วยความที่เป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดของประเทศไทย กับเอกลักษณ์อย่างปากทางเข้าสีแดง ตัดกับธรรมชาติรอบๆ ทำให้เป็นจุดเช็คอิน ถ่ายรูปของหลายๆคน รวมถึงบางคนก็ขึ้นไปตั้งแคมป์ด้านบน
แต่สำหรับตัวเมืองลำพูนนั้น นอกจากบทเรียนสมัยเด็กเรื่องอารยธรรมหริภุญชัย ก็แทบไม่มีความทรงจำอะไรเลย
ทริปนี้จึงตั้งใจ จะเติมเต็มช่องว่างระหว่างเชียงใหม่และลำปาง ตามสายรถไฟให้เต็ม ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย
Day 0 - ออกเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกรถไฟสายเหนือ ที่เป็นขบวนด่วนพิเศษ แต่ไม่ใช่รถใหม่ CNR แบบทุกครั้ง แถมยังเลือกเป็นตู้นอนชั้นสอง บรรยากาศก็เลยจะต่างไปซักหน่อย
Special Express ขบวนที่ 13 คือพาหนะพาเราเดินทางในค่ำคืนนี้
ด้วยความที่มาเร็วกว่าเวลาเป็นชั่วโมง เลยมีโอกาสเดินชมนิทรรศการรถไฟที่จัดขึ้นช่วงนี้พอดี
เดินไปเดินมาก็ใกล้เวลาที่รถไฟควรจะเข้ามาเทียบชานชาลาได้แล้ว แต่หลังจากเดินวนไปมาหลายรอบ ก็พบแต่ขบวนแปลกตา ที่ไม่น่าใช่ขบวนด่วนพิเศษที่เรารอ
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงประกาศจากสถานี ว่ารถไฟด่วนพิเศษขบวนที่ 13 จะล่าช้าไปกว่า 30 นาที
ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจอรถไฟล่าช้าเยอะขนาดนี้
เริ่มต้นที่ 35 นาที
จนเกือบถึงเวลา รถไฟก็ยังไม่มา ในใจคิดว่า หรือจะล่าช้าเพิ่มนะ มีอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า
สุดท้ายรถไฟของเราก็มา เรียกว่าตรงเวลาเป๊ะๆ
แต่ถ้าใครเคยขึ้นรถไฟจะรู้ว่า การที่รถไฟมาถึงชานชาลา ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถขึ้นรถ แล้วออกเดินทางได้เลย
ยังจะต้องมีขั้นตอนการเติมหมอน ที่นอน หรือ Supply ต่างๆที่จำเป็นอีก ทำให้เวลาออกเดินทางล่าช้าไปร่วมๆ 1 ชั่วโมงจากเวลาแรกสุด
บรรยากาศภายในตู้นอนชั้นสองแบบเก่า
ระหว่างรอพี่ๆเจ้าหน้าที่เตรียมตัว เราก็สำรวจอะไรเล็กน้อย
บรรยากาศของตู้เก่านี้ จะต่างไปจากขบวน CNR ที่คนชอบถ่ายลง Social กัน ตู้นี้จะมีความเก่ากว่ามาก (แหงล่ะ)
เรื่องสำคัญที่ใครจะเดินทางด้วยตู้เก่านี้ควรทราบคือ ทั้งตู้นี้ จะมีปลั๊กไฟส่วนรวมทั้งหมด 2 ปลั๊กถ้วน บริเวณตรงกลางตู้ ซึ่งก็คือหัวนอนของผมนี่แหละ 5555
เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
เลยเป็นจุดสังเกตที่ง่ายมากๆ เพราะทั้งคืนก็จะมีของต่างๆผลัดกันมาเสียบปลั๊กชาร์จอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โทรศัพท์ พาวเวอร์แบงค์ หรือแม้กระทั่งกระติกน้ำร้อน
มันก็สะดวกดีนะที่ได้นอนตรงนี้ แต่ก็แลกที่จะมีคนเดินไปเดินมาแถวๆที่นอนตลอดทั้งคืน 555
มีพี่ผู้หญิงคนนึง เอาพาวเวอร์แบงค์มาเสียบชาร์จ หลังจากถามไถ่กันไปมา ก็พบว่าพี่สาวจะไปลงพิษณุโลก
พอพี่รู้ว่าเราไปลงลำพูน พี่สาวก็บอกว่า โอ้ ไปไกลเลยนะ พี่ฝากช่วยดูพาวเวอร์แบงค์พี่ให้ด้วยนะ
แต่หลังจากพี่สาวกลับไปที่นั่ง เราก็หลับ...
ขอโทษครับพี่
ช่วงที่ทุกคนหลับกันแล้ว
หลังจากผ่านไปครึ่งคืน ทั้งขบวนก็เริ่มเงียบ ต่างคนต่างปิดม่าน
ส่วนเราที่หลับไปตั้งแต่กางเตียงไม่นาน ก็ตาสว่าง ตื่นมาอ่านหนังสือเงียบๆ พร้อมชาร์จโทรศัพท์ไปได้ยาวๆ
ด้วยความที่รถไฟออกเดินทางล่าช้าไปร่วมชั่วโมง เราเลยมาถึงที่หมายช้าไปร่วมชั่วโมงเช่นกัน
สิ่งที่แปลกตาสำหรับเราตอนนี้ คือบรรยากาศข้างทางรถไฟ
เพราะที่ผ่านมา เรามักจะเดินทางมาถึงลำปาง ลำพูน ช่วงเช้ามืด ทำให้ไม่เคยได้เห็นวิวข้างทางแบบชัดๆ
ก็สวยดีเหมือนกันนะ
บรรยากาศจากที่นอน
พี่เจ้าหน้าที่เดินมาแจ้งให้เราเตรียมตัวก่อนรถไฟจะถึงสถานีลำพูนเล็กน้อย
เราตรวจสอบข้าวของเป็นครั้งสุดท้าย และออกไปยืนที่หน้าประตูตู้รถ และขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่อีกครั้ง ก่อนจะก้าวลงไป
เริ่มต้น วันแรก ที่ลำพูน
travel
trave_after_covid
รถไฟ
บันทึก
2
2
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Lamphun Trip
2
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย