21 ม.ค. 2022 เวลา 20:31 • ท่องเที่ยว
เคยสงสัยมั๊ย ทำไมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ใน United Kingdom ถึงยังสมบูรณ์ และดูสวยงามอยู่ ทั้งที่ผ่านมาแล้วหลายร้อยปี?
United Kingdom คือการรวมเอา 4 ประเทศ อังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ และสก็อตแลนด์ เข้าไว้ด้วยกัน ประเทศเหล่านี้มีประวัติศาสตร์มายาวนาน
แน่นอนว่าสภาพภูมิประเทศ บวกกับความเป็นมาที่มีมาเนิ่นนาน ย่อมมีสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างพร้อมกับเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น ผ่านช่วงเวลาในยุคสมัยต่างๆ มากมาย เช่น Bodiam Castle, stoneacre, Sissinghurst Castle Garden, Eastbury Manor House, Red House ฯลฯ
Bodiam Castle, East Sussex
stoneacre, Kent
Sissinghurst Castle Garden, Kent
Red House, London
แม้กระทั่งอุทยานแห่งชาติ สถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงาม กระจายกันอยู่ทั่วทั้ง United Kingdom ก็ยังดูอุดมสมบูรณ์ในแบบที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ได้ เช่น Studland Bay, The White Cliffs of Dover, Sandscale Haws National Nature Reserve, Tarn Hows and Coniston ฯลฯ
Studland Bay, Dorset
Sandscale Haws National Nature Reserve, Cumbria
Tarn Hows and Coniston, Cumbria
คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย หากสถานที่สวยงามต่างๆ เหล่านี้ ไม่ได้รับการดูแลรักษาให้คงอยู่ไว้ มันคงจะสึกหรอ พังทะลาย และเลือนหายไปพร้อมกันกับเรื่องราวความเป็นมาของมัน และคนรุ่นหลังคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นความสวยงามเหล่านี้
The Natural Trust for Places of Historic Interest or Natural Beauty หรือชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไป คือ The National Trust เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์และสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ให้คงอยู่ ซึ่งจะดูแลครอบคลุมใน อังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ส่วนในสก็อตแลนด์จะมีองค์กรคล้ายกันที่เรียกว่า National Trust for Scotland ซึ่งจะดูแลเฉพาะภายในสก็อตแลนด์เท่านั้น
The National Trust ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1895 โดย Octavia Hill, Robert Hunter และ Hardwicke Rawnsley จุดประสงค์เริ่มแรกไม่เพียงแค่อนุรักษ์ บำรุงรักษาสถานที่ต่างๆ ที่มีคัญทางประวัติศาสตร์ และสถานที่สวยงามทางธรรมชาติ แล้วยังต้องการเปิดให้คนภายนอกเข้าไปชมสถานที่ต่างๆ ได้ด้วย และความตั้งใจนั้นก็ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
เชื่อหรือไม่ว่า The National Trust เนี่ยไม่ใช่หน่วยงานของรัฐบาล แต่เป็นองค์กรณ์เอกชน ที่มีอาสามัครร่วมทำงานด้วยถึงกว่า 60,000 คน แล้วยังจะมีอาสาสมัครที่ต้องการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี เพราะคนในพื้นที่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการรักษาสมบัติที่มีคุณค่าให้ยังคงอยู่ต่อไปสู่คนรุ่นหลังอย่างสมบูรณ์ที่สุด
The National Trust เป็นองค์กรบริหารจัดการโดยอาสาสมัครที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยดูแลในส่วนที่ดินเพาะปลูกกว่า 250,000 เฮคเตอร์ ดูแลแนวชายฝั่งทะเลยาวกว่า 780 ไมล์ และสิ่งก่อสร้างกว่า 500 ที่ รวมทั้งสวน อุทยานแห่งชาติอีกหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วทั้งอังกฤษ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ
แต่ในอีกด้าน The National Trust ก็ไม่ได้ดูแลทุกที่ที่มีความเก่าแก่ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะในหลายๆ ที่ก็มีบริษัท มีองค์กรอื่น หรืออย่างเช่นในหลายๆ แมนเนอร์เก่าแก่เป็นร้อยปี ก็ยังมีครอบครัวสืบทอดและอยู่อาศัยกันต่อๆ มา และดูแลบำรุงรักษากันเอง
สถานที่สวยงามเหล่านั้นที่ The National Trust ดูแลรักษาอยู่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมฟรี เพราะในการดูแลบำรุงรักษาให้คงอยู่ มีค่าใช้จ่ายมากมายตามมาด้วย คนที่จะเข้าชมต้องจ่ายค่าเข้า หรือจะสมัครเป็นสมาชิกก็ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยว แต่อยู่อาศัยในอังกฤษ เวลส์ หรือไอร์แลนด์เหนือ แล้วยิ่งถ้าครอบครัวมีเด็กๆ ด้วย การสมัครสมาชิกดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
สมาชิกสามารถเข้าได้ทุกสถานที่ที่ทาง The National Trust ดูแลและเปิดบริการให้เข้าชม เพราะนอกจากสถานที่สวยแล้ว สมาชิกในครอบครัวยังได้ใช้เวลาร่วมกัน โดยเฉพาะเด็กๆ ได้วิ่งเล่นในสวนสวย ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แล้วได้เรียนรู้ประวัติของสถานที่นั้นๆ ด้วย เป็นการเรียนรู้ที่สนุกและน่าตื่นเต้น นอกเหนือจากการอ่านประวัติศาสตร์ในหนังสือเล่มหนา แล้วยังมีกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้นตามฤดูกาล หรือวันพิเศษต่างๆ หมุนเวียนตลอดทั้งปี
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และรายละเอียดค่าบัตรเข้า ค่าสมัครสมาชิก สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nationaltrust.org.uk/
ขอบคุณรูปสวยๆ จาก Google ค่ะ ทุกคนเราไม่ได้ถ่ายเองน๊า
ไว้คราวหน้าจะเล่าเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของปราสาทและแมนเนอร์ในอังกฤษนะคะ
โฆษณา