21 ม.ค. 2022 เวลา 14:00 • สิ่งแวดล้อม
ก่อนจะตอบคำถามต้องจำกัดความให้ละเอียดว่าน้ำคืออะไร ไฟคืออะไร และเอาคำตอบนี้ไปตอบที่ไหน
ถ้าเป็นชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมหรือมหาวิทยาลัยต้องนึกถึง Chemical combustion ..นึกถึงสามเหลี่ยมแห่งไฟที่ ประกอบด้วย Oxygen(O2) - Fuel - Heat
สมการคือ: Fuel + O2 → CO2 + H2O
ดังนั้นผลลัพท์ของการเผาไหม้ที่สมบูรณ์จะได้คาร์บอนไดออกไซด์- น้ำ คำตอบคือไฟต้องเกิดก่อน
แล้วที่เราบอกว่าดาวฤกษ์คือลูกไฟดวงใหญ่ละ ในกรณีคำว่าไฟไม่ใช่ Combustion แต่เป็นความร้อนจากปฏิกริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น ที่ Hydrogen รวมตัวกันเป็นธาตุที่หนักกว่าคือ Helium ที่แกนกลาง ความร้อนดังกล่าวทำให้ก๊าซต่าง ๆ ร้อนจัดจนอยู่ในสถานะของ plasma ในกรณีดวงอาทิตย์ของเราซึ่งเป็นดาวฤกษ์รุ่นที่ 3 ขึ้นไปมีธาตุอื่นเป็นส่วนประกอบด้วยรวมทั้ง Oxygen อยู่ด้วยในสัดส่วนที่ไม่มากนักแต่การลุกไหม้บนดวงอาทิตย์ไม่ต้องการ Oxygen แต่อย่างใด
ดังนั้นจึงอาจจะพูดได้ว่าไม่มีไฟบนดวงอาทิตย์
ในกรณีของน้ำ(H2O) ปัจจุบันเรารู้แล้วว่ามีน้ำในดาวเคราะห์ดวงอื่น เช่นในสถานะของน้ำแข็งบนดาวอังคาร นอกจากนั้นการที่โลกเรามีน้ำจำนวนมากนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านอกจากจะเป็นการเกิดขึ้นบนโลกในช่วงที่เศษทรากต่าง ๆ (planetary nebula)รวมตัวกันเป็นโลก ยังอาจมีอุกกาบาตหรือดาวหางที่มีส่วนประกอบเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่พึ่งชนโลกหลอมรวมตัวเป็นดาวโลกในปัจจุบัน
นอกจากนั้น จากการศึกษาสเปคตรัมของแสงที่เดินทางมาจากแกแล็กซี่ที่ไกลมาก ๆ ยังพบว่ามีน้ำอยู่ในแกแล็กซี่อื่นด้วย
พอมาถึงกรณีนี้เริ่มยากที่จะสรุปแล้วว่าไฟจะเกิดก่อนน้ำ เพราะเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดไฟส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของคาร์บอน อีกอย่างคือการเกิดของน้ำ(H2O) ในกรณีนี้ไม่ใช่เกิดจากสมการในกระบวนการ Combustion ที่กล่าวถึงข้างต้น ส่วนน้ำที่ค้นพบว่ามีในแกแล็กซี่อันแสนไกลนั่น (SPT0311-58 Galaxy, 12.88 billion light years from Earth) น้ำที่นั่นเกิดก่อนที่จะมีดาวโลกเสียอีก(โลกเราแค่ราว ๆ 4.6 billion years) แล้วนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่มีวิธีการตรวจสอบว่ามีกระบวนการ combusion หรือมีไฟบนแกแล็กซี่ที่พูดถึงนี้เสียด้วย จึงไม่สามารถสรุปไปทางใดได้
โฆษณา