โอกาสจะเป็นของผู้ไขว่คว้าเท่านั้น โอกาสมิได้ล่องลอยมาจากฟ้าหรือถามหาจากที่ไหน เพียงแต่น้องๆต้องลองเข้าหาและไขว่คว้าโอกาสนั้นเอาเอง ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมไม่อยากจะบอกว่างานหายากก็จะเป็นการบั่นทอนจิตใจน้องๆจบใหม่ที่กําลังหางานอยู่ แต่ลองคิดดูว่า คนตกงานเป็นจํานวนเท่าไรตั้งแต่โควิดมาในปี 62 และอีก 2 ปี ถัดมาจนถึงปัจจุบันมีบัณฑิตจบใหม่เข้ามาในตลาดแรงงานอีกกี่คน ยอดคนตกงานมีเป็นล้านๆคน แล้วพวก บริษัท sme ย่อยๆ ในภาคท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ประกันภัย ก่อสร้าง พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย จํานวนมากปิดตัวเองลงไปเพราะมันลากยาว เศรษฐกิจถดถอย ข้าวของแพง เงินเฟ้อ ปัญหามันหนักหนาสาหัสสากัญยิ่งกว่าตอนลดค่าเงินบาท เกิดวิกฤตต้มยํากุ้งในปี 40 ซะอีก เพราะกระทบตั้งแต่ชาวบ้าน ไปถึงประชาชนในแทบทุกระดับ
แต่ในวิกฤต ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เพียงแต่เรายังหาโอกาสไม่เจอ ในสภาวะเช่นนี้การบ่นหรือด่าอะไรก็ไ ม่ช่วยอะไรใคร? ลองใช้สติปัญญาค่อยไปวิเคราะห์ดูว่าตลาดงาน segments ไหนที่ยังพออยู่รอดบ้าง segments ไหนเป็นดาวรุ่ง เช่น พวก delivery platforms ทั้งหลาย , การขายสินค้า online, การสร้าง contents เจ๋งๆ , Influencers บนเน็ตที่มีผู้ติดตามเป็นหลักหมื่นหลักแสน , สายสุขภาพ หมอ, ทันตะ, พยาบาล, เทคนิคการแพทย์, เภสัช, นักวิทยาศาสตร์, วิศวกร, programmer, ศึกษาหาข้อมูลดูว่าธุรกิจไหนเป็นดาวรุ่ง ธุรกิจไหนเป็นดาวร่วง? แล้วมาดูเราจบมาในสาขานั้นๆโดยตรงหรือใกล้เคียง ดาวรุ่งหรือดาวร่วง ถ้าโชคดีจบมาใกล้เคียงดาวรุ่ง โอกาสหางานก็จะง่ายขึ้นเยอะ เตรียมความพร้อมของตนเอง, เตรียมเขียน resume, เขียน sop, เตรียม recommend letter หรือ loc, วุฒิบัตร, ประกาศนียบัตรทั้งหลายแหล่
หางานจากประกาศรับสมัครงาน จากเว็บไซด์พวก jobdb, joptopgun, jobxxxxx, Panti, BD, facebook หรือเข้ากลุ่มหางานตาม line, facebook, ig เมื่อเจอบริษัทที่ต้องการ ตําแหน่งที่ต้องการก็ทําการหย่อนใบสมัคร ( resume มีผลต่อการสมัครงานมาก ไปศึกษาวิธีเขียน resume ที่ดีมาด้วย ) ส่งใบสมัครได้มากตามที่ต้องการ และก็มานั่งลุ้นระทึก รอเรียกรอตัวไปสัมภาษณ์ มาถึงตรงนี้ มีตําแหน่งงานว่างแล้ว สมัครไปแล้ว แต่ไม่มีเสียงเรียกตอบจากปลายทาง น้องก็ไม่ต้องเสียใจ พยายามใหม่ ลองดูว่า resume เราน่าสนใจพอไหม เราขาดอะไรไป อย่าอ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะถ้าเขียน resume ดีๆ ขั้นเทพ ประสบการณ์ไม่ต้องใส่ก็ได้ ( ยกเว้นเขาจะกําหนด qualifications ในใบสมัครว่า as a must ) ลองเอา resume ที่เราเขียนให้พวกพี่ๆ ญาติๆที่ที่มีประสบการณ์ช่วยดูว่าใช้ได้ไหม? เอาพวกใบประกาศคุณงามความดี พวก certificate ทั้งหลายแหล่ใส่ลงไปใน resume เยอะๆ
ถ้า resume มีความน่าสนใจ เขาจะเรียกตัวไปสัมภาษณ์เอง
และก็มาถึงขั้นตอนต่อไป หากโชคดีถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์ ณ. ตอนนี้ไม่ยากแล้ว ไปศึกษาเรื่องเทคนิคการสัมภาษณ์ให้ได้งานเพิ่มเติม มีข้อมูลในเน็ตเพียบให้ศึกษา ยังไงโอกาสได้งานก็ 80% up
แต่ถ้าน้องโชคไม่ดี จบออกมาในสายงานที่ผจญวิกฤตอยู่ตอนนี้ เช่น พวกประกันภัย , โรงแรม, ท่องเที่ยว, การบิน ก็ต้องทําใจหน่อยและใช้ความพยายามเป็นสองเท่า เพราะน้อยรายที่จะเปิดรับสมัครงานใหม่ แค่ลําพังก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ว ผมขอแนะนําให้ลองเปลี่ยนสมัครงานในสายงานดาวรุ่งที่ว่า โดยใน resumeเราอาจจะอธิบายเหตุผลลงในนั้น ว่านอกจากจะสนใจแล้ว ยังมั่นใจว่าจะสามารถทํางานในตําแหน่งได้ดี เพราะว่า...............
หรือว่าถ้าถอดใจ เห็นว่าไม่รอดแน่ๆ ในสายงานที่ว่า ก็ลองหาความท้าทายใหม่ๆ บนความเสี่ยงน้อยๆหรือรับได้ เช่น รับของมาขาย online, เปิดร้านอาหารเล็กๆ, เป็น freelance รับจ้าง, ทํา contents บนเน็ต หรือขายอะไรต่างๆที่พอจะทําได้ ไปก่อน เช่นปลูกผักปลอดสาร, เพาะเห็ดขาย, ทํางานฝีมือ ของแต่งบ้าน รอจังหวะเวลาเหมาะสม รอให้วิกฤตผ่านไป และเศรษฐกิจเติบโต โอ กาสก็จะมาถึงเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
