การผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยทำให้ศัลยแพทย์สามารถทำงานที่มีความซับซ้อนที่ต้องใช้ความละเอียดสูงได้ โดยการมาของ PUMA 560 เป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่การผ่าตัดแบบส่องกล้องโดยใช้หุ่นยนต์เข้าช่วย ในปี 1987 ได้มีการผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องโดยใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นในปี 1988 FDA ได้อนุมัติ AESOP system ของ Computer Motion ให้สามารถนำมาใช้งานในการผ่าตัดส่องกล้องทางเดินอาหารได้
มาถึงในปี 1998 Intuitive ได้เปิดตัว da Vinci Surgical System หลังจากนั้นในปี 2020 เป็นครั้งแรกที่ FDA อนุมัติให้มีการใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัดส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง การมาของ da Vinci ในครั้งนั้น ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงการผ่าตัดเหมือนที่ iPhone เข้ามาเปลี่ยนแปลงการใช้โทรศัพท์มือถือ
1
Gary Guthart CEOในปัจจุบัน หลังจากที่เขาจบการศึกษาจาก Standford University ได้เข้ามาทำงานกับ Intuitive Surgical ตั้งแต่บริษัทยังเป็น Startup ในปี 1996
บริษัทเป็นผู้นำในด้าน Robotic Surgery ซึ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพการผ่าตัดแบบ Minimal Invasive โดยได้จำหน่ายหุ่นยนต์ผ่าตัดมากว่าสองทศวรรษในชื่อ da Vinci Surgical System ซึ่งอุปกรณ์นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแก่ศัลยแพทย์อย่างมาก ลดความไม่แน่นอนจาก Human errors ให้ผลลัพธ์ในการผ่าตัดที่ดีขึ้น และ Prognosis ที่ดีขึ้น
ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทคือ da Vinci Surgical System ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ผ่าตัดที่นับได้ว่าทันสมัยและก้าวหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม โดยคุณสมบัติเด่นของหุ่นยนต์ตัวนี้คือ
รายได้ส่วนใหญ่กว่า 70% ยังมาจาก US เป็นหลัก ส่วนที่เหลืออีก 30% มาจากต่างประเทศเช่น Europe China และ Asia บางประเทศ (ในประเทศไทยเองก็มี da Vinci Surgical system ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เช่น ศิริราช ราชวิถี บํารุงราษฎร์ เป็นต้น)
รายได้จากการขาย da Vinci Surgical System จะอยู่ที่เครื่องละ $0.5 ล้าน -$2.5 ล้าน ขึ้นกับรุ่น
#โอกาสและการแข่งขัน
จากรายงานของ BIS research ระบุว่าในปี 2020 Global Surgical Robotic market มีมูลค่าประมาณ $5.46 billion ซึ่งหากดูจากรายได้ของ Intuitive Surgical จะคิดเป็น Market Share กว่า 79.8% แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน (Winner take most) ตามมาด้วยคู่แข่งอย่าง Stryker Corporation ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 9%
BIS research คาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตที่ CAGR 10.2% ระหว่างปี 2021 ถึง 2031
คู่แข่งที่ผมเห็นว่าแข่งขันกันโดยตรง คือ ใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด Soft Tissues เป็นหลักคือ Medtronic : Hugo RAS System ซึ่งพึ่งได้รับการอนุมัติจาก European CE Mark สำหรับการผ่าตัดในระบบทางเดินปัสสาวะและการผ่าตัดด้านสูตินรีเวช และ CMR Surgical : Versius โดยทั้งสองบริษัทเน้นไปที่การทำราคาให้ถูกกว่า เน้นตลาดที่ต่ำกว่า
da Vinci Surgical System มีให้บริการในกว่า 67 ประเทศทั่วโลก (กำลังทำตลาดอย่างหนักในฝั่ง Asia และ Europe) สำหรับในสหรัฐอเมริกา da Vinci Surgical system ได้ FDA approval ตั้งแต่ปี 2000 สำหรับการผ่าตัดส่องกล้องทั่วไป (General Laparoscopic surgery) และได้รับการอนุมัติให้ทำหัตถการอื่นเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง