24 ม.ค. 2022 เวลา 07:31 • ความคิดเห็น
เรื่องการสัก เอาเฉพาะ ที่เค้ามีพิธีกรรม มีการครอบครู มีการการท่อง คาถาอาคม เพื่อให้เกิดคำว่าฤทธิ์เดชอะไรก็แล้วแต่ เรื่องราวพวกนี้ มันยากที่คนจะไปรู้ว่ามัน นำอะไรมาสิงสถิตในกายนี้ กายที่พ่อแม่ให้จิตเรามาอาศัย แต่เราก็ไปเอาสิ่งที่ไม่ควรเอามา เอามาทำร้าย ทำลายตัวเอง
ในคำว่าเวทย์มนต์คาถาอาคม เราก็มาดูว่า จิตที่ต้องไปพึ่งเรื่องราวเหล่านี้ มันมาจากเรื่องราวอะไร ต้องการอะไร มันเป็นความโลภความอยาก เสาะแสวงหา ปัจจัย ลาภ ยศ สรรเสริญ มันจมอยู่ในเรื่องราวเหล่านี้ จิตนั่นมันนอนหลับใหล ไปกับคำว่า ไสยะ หลงยึดในสิ่งเหล่านั้นว่า อะไรที่พาไปยึด อารมณ์ของตัวเองนั้นแหละที่พาไป คราวนี้ เมื่อตัวเองมุ่งมั่นไปอยากนั้น สิ่งหนึ่งที่อยู่ในโลก คือมาร เค้าก็เข้ามาส่งเสริม ทำให้เป็นลักษณะของสีดำ เมฆหมอกมนต์ดำ ชักนำวิญญาณร้ายๆเข้ามา เราลองเปรียบเทียบดู มดปลวกก็เป็นจิตดวงหนึ่ง
พอไปท่องคาถา ส่งลงไปในวัตถุ มันก็ไปดูดจิตของผู้ที่มีกรรม ลงไปติดไปอยู่กับสิ่งนั้น ไปอยู่กับตัว แทนที่จะดี มันก็ไม่มีดี ส่วนมากตอนได้มาใหม่ๆ มันจะหลอกว่าดี แต่ต่อไป พอเกิดอารมณ์ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ วิญญาณร้ายๆ ก็ร่วมส่งเสริม เป็นเท่าทวีคูณ สมมุติว่า เคยมีอารมณ์โมโห แค่ระดับหนึ่ง มันกลายเป็นสิบ แล้วสติสัมปชัญญะ ที่จะยับยั้งอารมณ์ มันก็ไม่มี มีแต่สิ่งที่เรียกว่า กักขฬะเกิดขึ้น ซึ่งเราก็สามารถสังเกตได้ ในกลุ่นคนที่มีคดีต่างๆ ร่องรอยการสักตามตัว มันทำให้เกิดความวิปริตผิดนิสัยเดิมๆของตน สติก็จะฟั่นเฟือน พวกนี้จะทำบุญไหว้พระไม่เป็น ทำเหมือนกัน ทำด้วยค้วยความลุกลี้ลุกลน มีแต่อยากยิ่งใหญ่ อวดศักดิ์ว่าข้ามีของดี (อารมณ์มันอุปโลกน์เอง) ทำงานเหนื่อยหน่อย ก็ไม่มีความอดทน เพราะของในกาย มันเป็นพวกขี้เกียจ จิตเร่ร่อนมาอาศัยอยู่ด้วย
เรื่องสัก ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูสวยงาม ที่เค้าว่ากัน แต่เราก็ไม่รู้ว่าคนสักไปทำอะไร ไปเอาอะไรมาไว้ในกายในจิตตน แต่เรื่องราวเหล่านี้ มันก็ยากที่จะบอก เพราะทั่วบ้านบ้านทั่วเมือง มันมีเกลื่อนกลาด เค้าเห็นว่าดี กับมายาลวงตาลวงจิต ก็แล้วแต่เวรกรรมก็แล้วกัน แก้ไขกรรมของคนอื่นไม่ได้ ถ้าเค้าไม่มีเหตุผล คิดพิจารณาให้ดี ถือว่ากรรมใคกรรมมันก็แล้วกัน
เวลาไปเห็นคนที่เค้าสักอะไรนี้น่ะ เห็นแล้วก็สงสาร เพราะชีวิตจะยากลำบาก ยิ่งแก่ยิ่งลำบาก โรคภัยไข้เจ็บก็มารังควาน บางคนก็นอนไม่ค่อยหลับ ตีสองตีสามนอนไม่หลับ นานไปก็เครียด เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะทรุดโทรม หงุดหงิด อยู่กับคนในครอบครัว ก็จะหงุดหงิดรำคาญกัน แล้วเป็นสามีภรรยากันนักจะอยู่กันมีความสุขมั้ย เพราะขัดแย้งทะเลาะกันตลอด แล้วจะอยู่กันอย่างไร เรื่องราวพวกนี้ มันก็ยากที่บอกกล่าว แล้วก็ไม่ได้บอกให้เชื่อ มันต้องสังเกตกันเอง ว่ามันเช่นนั้นจริงมั้ย ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง แล้วเราจะไปเอามาทำไม เอามาให้เหยียบย่ำตัวเองหรือไง ตนของตนนั้นแหละ ที่ต้องตัดสินเลือกเอง เพราะเวลาทุกข์เวลาเจ็บก็ไม่มีใครเค้าเจ็บเค้าทุกข์ด้วย
โฆษณา