24 ม.ค. 2022 เวลา 17:17 • ธุรกิจ
อันดับแรก คุณมองก่อน​ว่าคุณต้องการขายใคร (Who?)​ และสิ่งที่คุณต้องการที่จะขายให้กับเขาหรือส่งมอบเพราะอะไร(Why?)​เขาถึงต้องซื้อซึ่งจะตอบสนองความต้องการเขาได้ตรงกับเขามััย คุณประโยชน์ที่เขาจะได้จากสินค้านั้นคืออะไรนั่นคือ (Key Product Benefit)​
คุณจะเริ่มมองสินค้าออกแล้วว่าสินค้าคืออะไร (Product)​ (Benefit) สิ่งที่คุณต้องศึกษาและทำการบ้านและสร้างสรรพคุณที่ตอบโจทย์คู่แข่ง ตอบสนองความต้องการ สร้างความแตกต่างทางคุณสมบัติ โดยการ ศึกษาคู่แข่ง ทั้งทางตรง และทางอ้อม (Competition​ Product)​ เทียบสรรพคุณ ราคา ช่องทางขาย ช่องทางสื่อสารการตลาด โปรโมชั่่น รวมถึง แพคเกจจิ้ง พอได้ข้อมูลแล้ว คุณเทียบได้เลยว่าใครคือคู่แข่งหลักทาวตรง ที่คุณมองไว้ และคู่แข่งทางอ้อมนั่นคือสินค้าอาจจะคนละประเภทแต่คุณสมบัติคล้ายกัน
สำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหรือเครื่องสำอาง คู่แข่งในตลาดจะมีเยอะมากหลากหลาย ***คุณต้องคัดสรรอออกมาให้ชัดว่าเราต้องการตีตลาดแบรนด์ใดบ้าง***
แล้วกลยุทธ์​จะเริ่มเห็นได้ชัด ว​่าเราต้องดีกว่าเขาด้านไหนบ้าง ไม่จำเป็นต้องทุกด้าน ผมแนะนำ มองที่ราคา คุณสมบัติหรือจุดขาย ปริมาณ การส่งเสริมการตลาด และการสื่อสารการตลาด อย่าลืมมองเรื่องการออกแบบที่สำคัญและเหมาะกับ Gen ช่องทางการขายและบริการที่เหนือขั้นหลากหลายครับ คุณต้องพัฒนาและออกแบบ วางกลยุทธ์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายให้ได้
**โดยการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค**ให้ลึกซึ้ง
ง่ายมาก เขาเป็นใคร อายุเท่าไร เพศ รายได้ อาชีพ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กิจกรรมที่เขาทำกัน พฤติกรรมการเลือกใช้สินค้าที่เขาทำ ดู Gen นะคับว่า Gen เป้าหมายเขาเป็นแบบไหน ชอบเดินห้าง หรือช็อปออนไลน์
การศึกษาพฤติกรรมจะทำให้คุณ
1.เลือกช่องทางการขายได้ เป้าหมายของคุณเขาชอบซื้อของยังไง แบบไหน ถนัดออนไลน์หรือถนัด เดินไปที่ร้าน
2.สื่อสารการตลาด เราจะเลือกสื่อโฆษณาที่ตรงถึงเขาได้แบบเข้าถึงได้มากสุด ทำให้เกิดการรับรู้และมองเห็นคุณได้เลย
3.ส่งเสริมการขาย เขาชอบซื้อของแบบมีของแถมส่วนลดมั้ย ส่วนใหญ่ชอบหมด อันนี้เอาไปคิดในส่วนของการส่งเสริมการขาย
4.คุณจะได้อัตลักษณ์ที่้เขาชอบและเห็นสิ่งที่าะดุดตาในแบบของเขา อันนี้ไปคิดเรื่อง Product Design Identity อย่าออกแบบฉีกจากช่วงวัย เพศ รวมถึงไลฟ์สไตล์นะ มองอารมณ์และความรู้สึก แต่อย่าลืมออกแบบให้เขามองเห็นได้เลยว่าสินค้าคืออะไรแบบที่ไม่ต้องไปยืนอ่าน
5.ความเหมาะสมด้านราคาที่เข้าถึงได้ จริงๆเรา Mark up หรือ ตั้งราคาที่ไม่กระทบต่อต้นทุน และ Margin มีส่วนต่างที่มากพอในการตัดออกเพื่อเป็นงบการตลาดรวมถึง การเผื่อส่วนต่างตัวแทนหรือ GP (อันนี้ศึกษาเรื่อง Pricing)
(ต่อ)​การตั้งราคาจะเทียบชนหรือตัดราคาตลาดอั้นนี้แล้วแต่ที่คุณคิดได้ แต่ว่าอย่าตัดราคาตลาดให้ต่ำเกินไป จะทำให้ราคาตลาดและสินค้าเสียได้ เรื่องราคาเซนซิทีฟนิดนึงนะคับ คนที่มองว่าสินค้าถูกคือไม่ดีมาก กับสินค้าแพงไปคุณสมบัติต้องมากกว่าแบบเห็นได้ชัด ทำราคาที่ลูกค้าเรามีความสามารถและยอมรับที่จะควักจ่ายให้คุณ องค์ประกอบความเหมาะสม คุณสมบัติ การยอมรับในสังคม การสื่อสารการตลาด และการทำ Branding ให้ครบถ้วน จะช่วยให้สินค้าเหมาะสมกับราคาหรือไม่ อยู่ที่การสร้าง Branding
การสื่อสารการตลาด สำคัญมาก
เพราะสินค้าจะขายตัวมันเองได้อย่างไรหากไร้การมองเห็นและรู้จักตัวตน แม้แต่ยาลูกค้ายังเลือกแบรนด์เลือกบริษัทเลยคับ
... ไม่ต้องห่วงเลย คุณต้องเตรียมงบประมาณ และวางโครงสร้างให้ตรงนะครับ ตรงที่สุด แบบไม่อ้อม ตอนนี้มองออนไลน์ไว้ให้มากโดยเฉพาะ Facebook, Line, ศึกษาเรื่องการออกแบบสื่อโฆษณาและการกำหนดเป้าหมายเพื่อกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม กำหนดเป้าหมายให้ตรง ต่อให้คุณทุ่มสัก 1 ล้านต่อเดือน คนจะเข้าถึงแน่นอน แต่ก็อาจจะไม่ใช่ลูกค้าคุณเลยก็ได้ หากเป้าหมายกำหนดไม่ตรง มี 500 กำหนดตรงมาก เกิดยอดขายได้ทันทีก็ได้
นอกจากเฟสบุ๊ค​คุณจะมีสื่ออะไรที่เข้าถึงเขาได้ เขาชอบดูทีวีมั้ย มีรายการไหนที่เหมาะสมและเขาดู
หรือว่าคนของคุณเขาเชื่อคนมีชื่อเสียงหรือเชื่อการยอมรับในสังคมด้วยมั้ย ถ้า Gen ป้า อา อาจจะต้องเลือดดาราพรีเซนเตอร์ถือสินค้า เลือกให้เหมาะนะคับ
สื่อสารการตลาดมาพร้อมกับการสร้างสรรค์
การสร้างสรรค์สื่อที่สวย อ่านง่าย ชัด และ ต้องคุมเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกจากการเห็น(มองแบรนด์ที่ใหญ่และมีการทำสื่อสารการตลาดแบบ Modern Trade ย้ำ ขอให้ไปดูแบรนด์ดังที่ครองตลาดเท่านั้น)​
เรื่องกลยุทธ์ยังมีอีกหลายเรื่อง ถ​้าคุณไม่ครอบคลุมสิ่งที่ควรทำให้ครบ มันจะขาดโอกาสที่คุณจะได้รับจากการขายสินค้าของคุณได้
สิ่งที่ต้องศึกษาคือ Branding, Strategy, Marketing Communication B2B Below and Above , Mix Marketing STP, Pricing, Design, Behavier,
และแน่นอน สินค้ากลุ่มนี้ต้องมีสารสกัดหรือส่วนประกอบที่ใหม่ แตกต่าง และดีเยี่ยม การเลือกโรงงานผลิตที่เหมาะสมมีผลต่อต้นทุนและคุณภาพสินค้า เลือกขนาดที่เหมาะสมและรองรับกำลังการผลิตมากพอ รวมถึงมาตรฐานรองรับที่ควรมี GMP, HACCP, ISO9001 และ FDA Thai. คับ
จริงๆมีรายละเอียดที่ผมอยากลงลึกกว่านี้อีกมาก หากต้องการคำปรึกษาทางด้านการตลาดและ แบรนด์ดิัง ติดต่อผมที่แอคเค้าท์ผมได้เลยนะครับ
1
โฆษณา