Critical Thinking ทักษะสำคัญที่โลกต้องการในศตวรรษนี้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน นักธุรกิจ ทักษะนี้ถือเป็นทักษะที่ต้องมีถ้าจะอยู่ให้รอดและอยู่ให้รุ่ง ไม่ว่าจะในการทำงานหรือในชีวิตประจำวันเพราะเราอยู่กับการ “ตัดสินใจ” อยู่ตลอด และการตัดสินใจที่ถูกต้องมีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว และการคิดแบบ Critical Thinking คือทักษะสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้องมากขึ้น บทความนี้มี 6 เทคนิค ที่จะช่วยพัฒนาการคิดแบบ Critical Thinking มาฝากกัน
7 เทคนิคฝึกคิด แบบcritical thinking
1. รู้ชัดเจนว่าต้องการอะไร ผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นอย่างไร เป้าหมายคืออะไร เป็นขั้นตอนแรกของการคิดแบบ Critical Thinking เพราะเบื้องหลังของการคิดทุกครั้งมีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายอยู่เบื้องหลังเสมอ ดังนั้นถามตัวเองว่าต้องการอะไรเป็นผลลัพธ์ คือจุดเริ่มต้นที่ต้องทำเป็นอันดับแรก
2. จัดการกับอคติในใจ บ่อยครั้งที่เราตัดสินใจทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยใช้เพียงแค่มุมมองของเราเอง แต่ในการฝึกการคิดแบบ Critical Thinking เราต้องฝึกการมองปัญหาในมุมมองของคนอื่นด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้คุณมองภาพของเหตุการณ์หรือปัญหาอย่างรอบด้านมากขึ้น สมมติว่าเราต้องตัดสินใจเรื่องงานนอกจากคิดในมุมมองของตัวเอง ลองคิดว่าเพื่อนร่วมทีมและหัวหน้างานหรือลูกค้าจะมองเรื่องนี้อย่างใด เปิดช่องว่างให้ตัวเองมองในมุมที่แตกต่าง จะช่วยลดอคติในการคิดได้มากขึ้น
3. มองผลลัพธ์ที่ตามมาจากการตัดสินใจแบบใดแบบหนึ่ง ทุกการตัดสินใจ ทุกวิธีในการแก้ปัญหาจะมีผลลัพธ์ตามมาเสมอ ต้องมองให้รอบด้านว่าการตัดสินใจนั้นๆ จะตามมาด้วยผลลัพธ์อะไร ต้องมีการเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างการตัดสินใจแต่ละแบบว่าแบบไหนมีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และสามารถจำกัดผลกระทบในทางลบได้มากที่สุด วิธีการที่ช่วยได้คือการจดการตัดสินใจแต่ละแบบและผลลัพธ์ที่จะตามมาทั้งแง่ลบและแง่บวกของแต่ละวิธีการ วิธีนี้จะทำให้เห็นภาพว่าวิธีการแบบไหนมีผลดีมากที่สุดและมีผลในเชิงลบน้อยที่สุด
4. วิจัยศึกษาหาข้อมูล เพราะข้อมูลคือพลังในการตัดสินใจ แต่ปัญหาคือคนส่วนใหญ่มักใช้ความรู้ ความคิด ทัศนคติที่ตัวเองมีอยู่เดิมในการตัดสินใจ แต่การคิดแบบ Critical Thinking คุณต้องออกจากความคิดหรือความเชื่อเดิมๆ ศึกษาข้อมูลใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ เพื่อช่วยดึงคุณออกมาจากความคิดแบบเดิมๆ ที่ฝังหัว
5. ยอมรับความจริงว่าคุณไม่ได้ถูกเสมอ ฟังดูอาจเหมือนเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ง่ายแต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด ก่อนอื่นต้องบอกตัวเองว่า การกระทำหรือตัดสินใจผิดพลาดเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ทุกคนเคยตัดสินใจผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่ปัญหาคือหลายคนยอมรับไม่ได้ ไม่ยอมรับว่าตัวเองคิดผิด และนั่นเป็นตัวรั้งที่ทำให้ไม่สามารถใช้ Critical Thinking ได้ วิธีการคือคิดซ้ำ ทบทวนการตัดสินใจอีกครั้ง อย่าด่วนสรุป เปิดใจยอมรับแนวคิดใหม่ๆ และมองว่าการตัดสินใจผิดพลาดเป็นโอกาสที่จะสร้างการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองในอนาคต
6. แตกงานที่ต้องทำเป็นข้อย่อยๆ ความสามารถในการมองภาพใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่จะดีขึ้นไปอีกถ้าสามารถมองปัญหาหรือเหตุการณ์แบบแยกเป็นส่วนๆ ได้ด้วย ความสามารถในการมองปัญหาเป็นภาพย่อยๆ ทำให้สามารถแก้ปัญหาที่เล็กๆ ได้ง่ายขึ้น เมื่อสามารถแก้ปัญหาเล็กๆ ได้จะทำให้มีกำลังใจ และเมื่อเอาภาพเล็กมารวมกันก็จะกลายเป็นการแก้ปัญหาใหญ่ได้โดยไม่รู้สึกว่างานนั้นใหญ่และยากเกินไป วิธีการอาจมองวิธีการแก้ปัญหาเป็นขั้นตอน อะไรต้องทำก่อน อะไรต้องทำหลัง ทำเป็นลิสต์เรียงตามลำดับความสำคัญ วิธีการนี้จะทำให้ลดความเครียดเพราะเป็นงานใหญ่ การแตกงานเป็นส่วนๆ และเริ่มลงมือทำทีละส่วนจะทำให้แก้ปัญหาหรือทำงานได้เร็วขึ้น
7. อย่าทำให้เรื่องราวซับซ้อนเกินความจำเป็น การมองปัญหาหรือเหตุการณ์ว่าซับซ้อนและใหญ่มากกว่าความเป็นจริงเกิดขึ้นอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมองปัญหาให้ทะลุปรุโปร่ง แต่การมองปัญหาว่าซับซ้อนและใหญ่เกินความเป็นจริงจะก่อให้เกิดความเครียด ต้องแยกให้ถูกระหว่างการคิดให้รอบด้านกับการคิดมากเกินไป มีหลายเคสมากที่การมองเหตุการณ์และแก้ปัญหาอย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมาสามารถทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าตอนนี้รู้สึกว่าการพัฒนาทักษะด้าน Critical Thinking เป็นเรื่องยาก อย่ากังวลใจไปเพราะคนจำนวนมากก็เป็นเช่นเดียวกับคุณ ทักษะการคิดแบบ Critical Thinking เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน ยิ่งฝึกบ่อยๆ ก็จะยิ่งคุ้นเคยและกลายเป็นนิสัย ถ้าไม่ท้อและล้มเลิกการพัฒนาตัวเองไปเสียก่อนความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลแน่นอน และเราก็จะกลายเป็นคนดาวที่องค์กรต้องการ
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
